ตัวเลขที่น่าประทับใจของการลงทุนจากต่างประเทศในเวียดนาม
Thu Hoa - VOV5 -  
(VOVWORLD) - รายงานล่าสุดของกรมการลงทุนจากต่างประเทศสังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุนระบุว่า ใน 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดเงินลงทุนจากต่างประเทศ หรือ เอฟดีไอจดทะเบียนใหม่อยู่ที่กว่า 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติกาลและเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สามารถเบิกจ่ายเงินได้กว่า 1 หมื่อน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2016 ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจเกี่ยวกับการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศของเวียดนามในปัจจุบัน
ภาพนครโฮจิมินห์ (Photo Internet) |
ใน 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งเงินจดทะเบียนใหม่ เงินทุนเพิ่มเติมและเงินร่วมทุนซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่กว่า 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าเมื่อปี 2016 ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
จำนวนเงินเอฟดีไอที่ไหลเข้าเวียดนามอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะใน 9 เดือนแรกของปี 2017 แสดงให้เห็นว่า เวียดนามคือจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากมีศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจที่สดใสกว่าบางประเทศในภูมิภาคและการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนภายในประเทศ ปี 2017 เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันที่เวียดนามปฏิบัติมติที่ 19 เกี่ยวกับการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันระดับชาติ นาย เจิ่นแทงเลียม ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งเยืองได้เผยว่า ทางการจังหวัดฯได้ดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน ปฏิรูประเบียบราชการและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันระดับจังหวัดเพื่อดึงดูดโครงการลงทุนที่สำคัญๆจากต่างประเทศ “คณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯได้ชี้นำการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อดึงดูดการลงทุนโดยก่อนอื่นคือการปฏิรูประเบียบราชการเพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายให้แก่สถานประกอบการ อีกทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ข้าราชการกับประชาชนและสถานประกอบการ”
การที่เวียดนามเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีทำให้เวียดนามนับวันกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งสะท้อนผ่านกิจกรรมส่งออกนำเข้าของสถานประกอบการเอฟดีไอในเวียดนาม โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกของภาคเศรษฐกิจที่มีเงินลงทุนเอฟดีไอบรรลุกว่า 1 แสน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นร้อยละ 71.9 ของยอดมูลค่าการส่งออกสินค้าของทั้งประเทศ ส่วนมูลค่าการนำเข้าของสถานประกอบการเอฟดีไออยู่ที่กว่า 9 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2016 คิดเป็นร้อยละ 60.3 ของยอดมูลค่าการนำเข้าสินค้าทั่วประเทศ ซึ่งทำให้ภาคเศรษฐกิจที่ใช้เงินลงทุนเอฟดีไอได้เปรียบดุลการค้ากว่า 1 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย Michael ประธานสมาคมสถานประกอบการยุโรปในเวียดนามได้ยืนยันว่า ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอียูกับเวียดนามอาจเป็นเข็มทิศนำทางให้แก่เวียดนามในกระบวนการผสมผสานเข้ากับการค้าโลกในปีนี้และในปีต่อๆไปและเป็นพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับสถานประกอบการยุโรป
ปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุน รวมมูลค่ากว่า 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของนักลงทุนจาก 126 ประเทศและดินแดน ซึ่งในนั้น โครงการลงทุนด้านอุตสาหกรรมแปรรูปและอุตสาหกรรมผลิตได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักลงทุนต่างชาติ ส่วนท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามกำลังให้ความสำคัญต่อคุณภาพของโครงการลงทุนมากกว่าจำนวนเงินลงทุนและสนใจการเบิกจ่ายเงินลงทุนมากกว่าเงินลงทุนจดทะเบียน นาย มายวันเญิน รองหัวหน้าคณะกรรมการเขตนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดด่งนายได้เผยว่า จังหวัดด่งนายกำลังผลักดันการดึงดูดโครงการลงทุนที่เอื้อให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ“โครงการลงทุนที่ดีสำหรับรัฐคือโครงการที่มีการจัดเก็บภาษีเข้างบประมาณ ส่วนโครงการลงทุนที่ดีสำหรับสังคมคือโครงการที่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี สร้างงานทำ ยกระดับทักษะความสามารถฝีมือของแรงงานและเอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุน”
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจได้ให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ คาดว่า การดึงดูดเงินเอฟดีไอของเวียดนามในปี 2017 อาจอยู่ที่ 3 หมื่นดอลลาร์สหรัฐและสามารถเบิกจ่ายเงินได้ 1 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการปฏิบัตินโยบายที่เปิดกว้างในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ความพยายามปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจและจุดแข็งต่างๆจากข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามได้ลงนามและกำลังเจรจากับหุ้นส่วนต่างๆคือเหตุผลที่นำไปสู่ผลสำเร็จดังกล่าว.
Thu Hoa - VOV5