ผลิตภัณฑ์ของบริษัท TH true Milk (Photo internet)

บริษัทหุ้นส่วนนม TH ที่ใช้เครื่องหมายการค้า TH true Milk เป็นสถานประกอบการแห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานที่เกี่ยวข้องของจีนให้ส่งออกผลิตภัณฑ์นมไปยังตลาดจีนหลังจากที่ฝ่ายจีนได้ตรวจสอบมาตรฐานต่างๆอย่างเข้มงวด เช่น ใบอนุญาตต่างๆ ทักษะความสามารถในการผลิตและคุณภาพ นาง ท้ายเฮือง ประธานคณะกรรมการผู้บริหารของเครือบริษัทฯเผยว่า จากการพัฒนาฟาร์มแบบครบวงจรบวกกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรม 4.0 ในการผลิตและการบริหาร ทำให้ทางบริษัทฯสามารถตอบสนองมาตรฐานที่เข้มงวดต่างๆของตลาดจีนได้อย่างเต็มที่ “จีนเป็นตลาดใหญ่ในการนำเข้านมและผลิตภัณฑ์จากนม ทางบริษัทฯเจาะตลาดจีนมาแล้ว 2 ปีเนื่องจากสามารถตอบสนองเงื่อนไขที่เข้มงวดต่างๆของจีนและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคจีน นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับบริษัทของเรา”

เวียดนามมีผลิตภัณฑ์นม 2 ประเภทที่ได้รับใบอนุญาตจากฝ่ายจีนในครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วย นมพาสเจอร์ไรส์และนมรสจืด นาย ยิวชวนชุน ผู้อำนวยการบริษัท Wuxi Jinqiao International Food City จำกัด  ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอาหารนำเข้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศจีนแสดงความเชื่อมั่นว่า การที่บริษัท TH ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตและตอบสนองเงื่อนไขที่เข้มงวดของตลาดจีนจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบริษัทของเขากับบริษัท TH ในเวลาข้างหน้า

ส่วนผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ประเมินว่า นี่เป็นสัญญาณที่น่ายินดีและเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับภาคเกษตรเวียดนาม เพราะนมคือสินค้าที่ต้องการคุณภาพและความปลอดภัยอาหารในระดับสูงแต่เวียดนามสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะความสามารถของเวียดนามในการผลิต การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการเชื่อมโยงการผลิต นายด่าวเหวียดแอง ทูตฝ่ายพาณิชย์ของสถานทูตเวียดนามประจำประเทศจีนเผยว่า เป้าหมายของเวียดนามในเวลาข้างหน้าคือต้องมีบริษัทผลิตนมของเวียดนามอีกหลายแห่งสามารถเจาะตลาดจีนได้ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว นอกจากตอบสนองเงื่อนไขด้านคุณภาพและความปลอดภัยแล้ว บริษัทเหล่านี้ของเวียดนามต้องให้ความสนใจมากขึ้นถึงรสชาติชาวจีนชอบ            “บริษัทผลิตนมของเวียดนามควรศึกษารสชาติที่ชาวจีนชอบผ่านตัวแทนจำหน่าย สถานประกอบการและหุ้นส่วนต่างๆในประเทศจีน เพราะว่า คนจีนในแต่ละท้องถิ่นมีความชอบที่แตกต่างกันเพื่อสามารถทำผลิตภัณฑ์ที่ถูกปากผู้บริโภคชาวจีนได้ เพื่อขยายการประกอบธุรกิจในประเทศจีนได้”

นาย เหงียนซวนเกื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า เพื่อสามารถเข้าร่วมตลาดส่งออกใหญ่ๆและมีศักยภาพ สถานประกอบการและผู้เลี้ยงโคนมเวียดนามต้องเพิ่มการลงทุนเพื่อพัฒนาฝุงโคนมให้ตอบสนองความต้องการที่นับวันเพิ่มมากขึ้นภายในประเทศเวียดนามและใช้โอกาสได้อย่างเต็มที่ ส่วนในเวลาข้างหน้า ทางกระทรวงฯ จะเสนอให้ทบวงศุลกากรจีนพิจารณา ประเมินและประกาศผลการขอใบอนุญาติส่งออกนมของสถานประกอบการอีก 4 แห่ง พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นต่อโครงการปฏิรูปโครงสร้างการเกษตรของเวียดนาม ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการในการผลิตสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องเน้นเรื่องความเข้มงวดเช่นนม            “มาตรการเดียวเพื่อใช้ตลาดนี้ได้อย่างเต็มที่คือเราต้องปฏิรูปโครงสร้างการเกษตรตามแนวทางยกระดับคุณภาพ การเชื่อมโยงและราคาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้า ควบคู่กันนั้น ต้องมีการเข้าร่วมของทั้งรัฐบาล ชมรมสถานประกอบการและเกษตรกรผ่านรูปแบบต่งๆ เช่น สหกรณ์เพื่อสามารถทำการผลิตตามห่วงโซ่ให้ราคาที่ย่อมเยาและมีคุณภาพสูง”

ปัจจุบันนี้ นมของเวียดนามได้เจาะตลาดเกือบ 50 ประเทศ ในเวียดนามมีสถานประกอบการผลิตนมประมาณ 60 แห่ง รวมกว่า 300 ยี่ห้อ ซึ่งในนั้นมีบริษัท 10 แห่งที่ส่งออกนม เช่น บริษัทนมเวียดนามหรือ Vinamilk บริษัท TH true Milk และบริษัท Moc Chau Milk เป็นต้น การเจาะตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีประชากรมากที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการนั้นได้เปิดโอกาสใหม่ให้นมเวียดนามพัฒนาและยืนหยัดเครื่องหมายการค้าของตน.