บั๊กนิงห์ – จุดเด่นในการดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอปี 2020

(VOVWORLD) -ปี 2020 การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบให้ท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศประสบอุปสรรคมากมายในการดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอ แต่จากความได้เปรียบต่างๆ พร้อมกับนโยบายดึงดูดการลงทุนที่อำนวยความสะดวกเป็นอย่างมาก จังหวัดบั๊กนิงห์ยังคงสร้างนิมิตหมายในการดึงดูเงินลงทุนเอฟดีไอได้เกือบ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐและกลายเป็นจุดเด่นในการดึงดูดเงินลงทุนของเวียดนาม
บั๊กนิงห์ – จุดเด่นในการดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอปี 2020 - ảnh 1บริษัท Samsung ในจังหวัดบั๊กนิงห์ (Photo:vietnamhoinhap.vn)

บั๊กนิงห์อยู่ห่างจากกรุงฮานอยเพียง 30 ก.ม. เป็นหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือที่มีโครงสร้างคมนาคมพื้นฐาน เขตนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและมีแรงงานรุ่นใหม่จำนวนมาก การเข้ามาลงทุนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เช่น Samsung, Canon, Foxcon ถือเป็นการค้ำประกันเกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนที่ปลอดภัยและเป็นมืออาชีพ ดังนั้น ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่ในปี 2020 บั๊กนิงห์ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ นาย เหงียนดิ่งซวน ผู้อำนวยการสำนักงานวางแผนและการลงทุนจังหวัดบั๊กนิงห์เผยว่า            “ในช่วงปี 2010-2015 จังหวัดบั๊กนิงห์ดึงดูดเงินทุนได้ประมาณ 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในช่วงปี 2016-2020 อยู่ที่ 8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะในปี 2020 ซึ่งเวียดนามและโลกต้องประสบความยากลำบากเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่ทางจังหวัดฯก็สามารถดึงดูดเงินลงทุนได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจกล่าวได้ว่า นี่เป็นจุดเด่นของจังหวัดฯในการดึงดูดเงินทุนเอฟดีเอในระยะยาว

ปัจจุบันนี้ จังหวัดบั๊กนิงห์มีนิคมอุตสาหกรรม 16 แห่งที่ได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีให้มีการปรับปรุงและเสริมเพิ่มเติม และมี 10 เขตนิคมอุตสาหกรรมได้เปิดการดำเนินงานแล้วและมีผู้เช่าถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่ ควบคู่กับพื้นที่เกือบ 900 เฮกตาร์ในเขตนิคมอุตสาหกรรม 26 แห่ง จังหวัดบั๊กนิงห์ยังมีพื้นที่สำหรับการผลิตอีกมากเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศ จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่กับการพัฒนาของสถานประกอบการอย่างมีเสถียรภาพ คณะกรรมการบริหารเขตนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดบั๊กนิงห์ได้ทำการปฏิรูประเบียบราชการเพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ให้แก่สถานประกอบการที่เข้ามาลงทุนในบั๊กนิงห์ นาย บุ่ยหว่างมาย หัวหน้าคณะกรรมการฯ เผยว่า ในปี 2020 ทางคณะกรรมการฯสามารถแก้ไขเอกสารที่ยื่นผ่านระบบวันสต๊อปเซอร์วิสได้ประมาณ 4,600 ฉบับ โดยเฉพาะการแก้ไขในระดับ 3 และ 4 ถึงร้อยละ 40 และแก้ไขแล้วเสร็จก่อนเวลาที่กำหนดถึงร้อยละ 20 ซึ่งได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากจากนักลงทุน

ควบคู่กันนั้น ในแต่ละปี ทางจังหวัดฯได้จัดการพบปะสนทนาระหว่างผู้บริหารจังหวัดกับสถานประกอบการ โดยมีการหารือเกี่ยวกับแนวทาง รูปแบบและเนื้อหาการส่งเสริมการลงทุนให้มีประสิทธิภาพ ดึงดูดการลงทุนพร้อมกับการสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ของจังหวัด ดึงดูดโครงการลงทุนใหญ่ๆเพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้แก่โครงการอื่นๆ โดยเฉพาะปฏิบัติรูปแบบ “หมอสถานประกอบการ” “หน่วยปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการ” และจัดตั้งศูนย์ระเบียบราชการภาครัฐของจังหวัดฯ ซึ่งได้สร้างก้าวกระโดดในการปฏิรูประเบียบราชการและมาตรการหลักในการดึงดูดเงินลงทุน รวมทั้งเงินทุนเอฟดีไอ นาย Oh Jae Hyun ผู้อำนวยการบริษัท Anyone Vina จำกัดของสาธารณรัฐเกาหลีแสดงความคิดเห็นว่า            “บริษัทต่างชาติที่เริ่มดำเนินงานต่างก็ประสบความยากลำบากมากมาย โชคดีที่ในช่วงเริ่มต้นนั้น พวกเราได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสำนักงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดบั๊กนิงห์ ปัจจุบัน ถ้าหากเกิดปัญหาใดๆ เราก็ติดต่อกับสำนักงานเหล่านี้ทันทีเพื่อได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว

การปฏิรูปกลไกนโยบายพร้อมกับมาตรการที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์ จังหวัดบั๊กนิงห์สามารถดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากจาก 37 ประเทศและดินแดน ซึ่งรวมทั้งประเทศที่มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เช่น ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ยุโรปและสหรัฐ โดยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นเสาหลักที่มีสัดส่วนกว่าร้อยละ 80 ในมูลค่าการผลิตอุตสาหกรรมของจังหวัดฯ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศมากขึ้น ทางจังหวัดฯ เน้นการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนตามแนวทางที่เอื้อประโยชน์ให้แก่นักลงทุนแต่ยังคงปฏิบัติตามกฎหมายของเวียดนามต่อไป ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงโครงการที่ใช้ที่ดินและแรงงานน้อยแต่มีเงินลงทุนสูง สมทบเงินทุนให้แก่งบประมาณแผ่นดินในระดับสูงและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายพัฒนาเป็นจังหวัดที่มีบรรยากาศการลงทุนนับวันโปร่งใสมากขึ้น ขีดความสามารถในการแข่งขันให้กลายเป็นประเทศชั้นนำในการดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด