พัฒนาไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบากเลียวและศักยภาพในด้านนี้ของเวียดนาม

(VOVWORLD) - ผลสำเร็จเบื้องต้นในการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังงานลมของจังหวัดบากเลียว ซึ่งเป็นท้องถิ่นในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ภูมิภาคนี้มีศักยภาพที่เข้มแข็งในด้านนี้และการพัฒนาจุดแข็งดังกล่าวจะสร้างประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและช่วยแก้ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอีกด้วย
พัฒนาไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบากเลียวและศักยภาพในด้านนี้ของเวียดนาม - ảnh 1พัฒนาไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบากเลียว 

 

เมื่อเดือนกันยายนปี 2010 จังหวัดบากเลียวได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกในเวียดนามบนพื้นที่ริมฝั่งทะเล 1,300 เฮกตาร์ โดยภายหลัง 5 ปีก่อสร้าง ปัจจุบันมีการติดตั้งกังหันลม 62 เครื่อง รวมกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้กว่า 16,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อเดือน เจ้าของโครงการยังเผยว่า ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นต่อไปเพราะมีแรงลมสูงกว่าที่คาดการณ์ ดร.เลแองต๊วน ผู้เชี่ยวชาญวิจัยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้เผยว่า “โรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบากเลียวเป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในด้านนี้ของเขตริมฝั่งทะเลต่างๆของเวียดนามที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่”

แม้มีศักยภาพมากแต่เพื่อพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงให้เป็นศูนย์กลางของโรงไฟฟ้าพลังงานลม นอกจากนโยบายให้สิทธิพิเศษต่างๆ แล้วยังต้องการความสนใจจากรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกเพื่อปฏิบัติ นายโตหว่ายเยิน เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบากเลียวแสดงความคิดเห็นว่า “ควรมีนโยบายลดดอกเบี้ยและขยายเวลาให้แก่โครงการเพื่อดึงดูดการเข้าร่วมของสถานประกอบการมากขึ้น ผมหวังว่า เราจะส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ”

ประสิทธิภาพของโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบากเลียวได้ดึงดูดความสนใจของท้องถิ่นอื่นๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง จากการมีริมฝั่งทะเลประมาณ 700 ก.ม. พลังงานลมถือเป็นความได้เปรียบของจังหวัดต่างๆในภูมิภาคนี้ โดยนอกจากจังหวัดบากเลียว โรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 10 แห่งในจังหวัดก่าเมา จ่าวิงห์และซอกจังที่มีกังหันนับร้อยตัวได้รับใบรับรองการลงทุน ส่วนผู้เชี่ยวชาญวิจัยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้เผยว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในด้านพลังงานหมุนเวียนเนื่องจากมีแหล่งไฟฟ้าพลังน้ำ พลังงานลม พลังงานชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานจากขยะ เป็นต้น ในพื้นที่ริมฝั่งทะเลของเวียดนามกว่า 3.200 ก.ม. มีพื้นที่สำหรับแหล่งไฟฟ้าพลังงานลมประมาณ 2,700 ตารางก.ม. แต่การพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพที่มีอยู่ นาย กี่กวางวิงห์ ผู้เชี่ยวชาญในด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศแสดงความคิดเห็นว่า “ตามผลการสำรวจวิจัย เขตริมฝั่งทะเลของเวียดนามสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 5 แสนเมกะวัตต์ ซึ่งถือว่ามีศัยภาพสูง”

ผู้เชี่ยวชาญทุกคนต่างยืนยันว่า ไฟฟ้าพลังงานลมคือหนึ่งในมาตรการแก้ไขที่จำเป็นเพื่อพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดในเวียดนาม เวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า ถึงปี 2020 สัดส่วนของการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจะอยู่ที่ร้อยละ 6.5 และไฟฟ้าพลังงานลมจะบรรลุ 800 เมกะวัตต์ภายในปี 2020 และ 6,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2030 ศาสตราจารย์ เหงียนเท้หมิก ผู้เชี่ยวชาญในด้านพลังงานลมเผยว่า ถึงขณะนี้ กำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามอยู่ที่ 200 เมกะวัตต์เท่านั้น จึงยากที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว แต่ศักยภาพการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม โดยเฉพาะในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมีสูงมาก ดังนั้น ในเวลาข้างหน้า เวียดนามควรเน้นพัฒนาไฟฟ้าพลังงานลมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและช่วยให้ประชาชนมีความมั่นใจต่อแหล่งพลังงานสะอาดเพื่อมีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอนาคต.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด