ยกระดับคุณภาพการดึงดูดเงินทุนFDI ตั้งแต่ต้นปี๒๐๑๔

(VOVworld) –  ใน๒เดือนต้นปี๒๐๑๔ เวียดนามสามารถดึงดูดโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDIได้๑๒๒โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนและเงินทุนใหม่เกือบ๑.๕๔พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ๓๗ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๓แต่คุณภาพของโครงการFDIได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นซึ่งสร้างความหวังว่า แหล่งเงินทุนFDI จะประสิทธิภาพอย่างจริงจังต่อไป

(VOVworld) –  ใน๒เดือนต้นปี๒๐๑๔ เวียดนามสามารถดึงดูดโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDIได้๑๒๒โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนและเงินทุนใหม่เกือบ๑.๕๔พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ๓๗ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๓แต่คุณภาพของโครงการFDIได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นซึ่งสร้างความหวังว่า แหล่งเงินทุนFDI จะประสิทธิภาพอย่างจริงจังต่อไป

ยกระดับคุณภาพการดึงดูดเงินทุนFDI ตั้งแต่ต้นปี๒๐๑๔ - ảnh 1
การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพื่อส่งออกของสถานประกอบการFDIแห่งหนึ่งในจังหวัดด่งนาย (VNA )

ในจำนวน๒๙ประเทศและดินแดนที่มีโครงการลงทุนในเวียดนามใน๒เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน สาธารณรัฐเกาหลีอยู่อันดับ๑ รองลงมาคือสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและสหรัฐ บรรดานักลงทุนต่างชาติได้ลงทุนในนครและจังหวัด๑๙แห่งในเวียดนามโดยจังหวัดบิ่งเยืองเป็นท้องถิ่นที่สามารถดึงดูดเงินทุนFDI มากที่สุด รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนและเงินทุนเพิ่มเติมกว่า๖๙๐ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาคือเมืองท่าไฮฟองที่มีเงินทุนFDIเกือบ๑๙๕ล้านเหรียญสหรัฐและนครโฮจิมินห์คือเกือบ๑๔๘ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการส่วนใหญ่ในด้านการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โครงการของบริษัทWonderful ไซ่ง่อน Electrics จำกัดที่ปรับเพิ่มเงินทุน๒๑๐ล้านเหรียญสหรัฐโดยนักลงทุนญี่ปุ่นในจังหวัดบิ่งเยือง โครงการของบริษัทSI Flex เวียดนามจำกัด รวมยอดเงินทุนจดทะเบียน๑๐๖ล้านเหรียญสหรัฐที่ผลิตแผ่นปริ้นท์พีซีบี เฟล็กซีเบิ้ล ในจังหวัดบั๊กยาง ถึงแม้จำนวนเงินทุนของโครงการเหล่านี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับโครงการFDIขนาดใหญ่ที่มีมูลค่านับพันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปลายปี๒๐๑๓ เช่น โครงการโรงกลั่นปิโตรเคมีงีเซินหรือโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ซัมซุง แต่โครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในนโยบายดึงดูดเงินทุนFDIและเพื่อให้แหล่งเงินทุนFDIเกิดประสิทธิภาพและมีแรงจูงใจต่อเศรษฐกิจของประเทศ นายเหงวียนวันจูง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามกล่าวว่า“แนวทางดึงดูดเงินทุนในเร็วๆนี้คือ ดึงดูดโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปิโตรเคมี รองลงมาคือโครงการลงทุนในด้านอื่นๆหรือการบริการอื่นๆที่เชื่อมโยงกับปิโตรเคมีจะมีพลังจูงใจและมีส่วนร่วมสร้างสถานประกอบการย่อยภายใต้โครงการขนาดใหญ่ที่กำลังปฏิบัติกับญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี ดังนั้นพวกเราต้องพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตประกอบโดยมีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมผลิตประกอบในเร็วๆนี้

สัญญาณที่น่ายินดีในการดึงดูดเงินทุนFDIในเวลาที่ผ่านมาคือ หลายบริษัทข้ามชาติได้ขยายการลงทุน รวมทั้งโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่มีมูลค่านับพันล้านเหรียญสหรัฐที่กำลังรอใบอนุญาตประกอบการ ในหลายปีที่ผ่านมา เงินทุนFDIได้มีส่วนร่วมให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม จนถึงสิ้นปี๒๐๑๓ เวียดนามมีโครงการFDIที่ได้รับอนุญาตประกอบการ๑๕,๗๐๐โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนประมาณ๒แสน๓หมื่น๙พันล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งเงินทุนปฏิบัติประมาณ๑แสน๑หมื่น๒พันล้านเหรียญสหรัฐ  โครงการFDI ได้มีส่วนร่วมให้แก่การขยายตัวของมูลค่าการส่งออกและการปรับปรุงโครงสร้างสินค้าส่งออก  ศาสตราจารย์ ดร. เหงวียนหม่าย ประธานสมาพันธ์สถานประกอบการFDI เผยว่า“ปี๒๐๑๓ มูลค่าการส่งออกFDI คิดเป็นร้อยละ๖๕ของยอดมูลค่าการส่งออกของเวียดนามที่๑แสน๓หมื่น๒พันล้านเหรียญสหรัฐ  ความได้เปรียบดุลการค้าของบรรดาสถานประกอบการFDIได้ชดเชยให้แก่ความเสียเปรียบดุลการค้าของบรรดาสถานประกอบการภายในประเทศและเป็นปีที่๒ติดต่อกันที่ได้เปรียบดุลการค้าถึง๘๕๐ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าความได้เปรียบดุลการค้าเพิ่มขึ้น ดุลชำระระหว่างประเทศจะมีความมั่นคงมากขึ้นโดยสำรองระหว่างประเทศจาก๑หมื่น๕พันถึง๑หมื่น๖พันล้านเหรียญสหรัฐได้เพิ่มขึ้นเป็น๓หมื่นถึง๓หมื่น๒พันล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบันซึ่งผลสำเร็จนี้มีส่วนร่วมของบรรดาสถานประกอบการFDI

โครงการขนาดใหญ่และโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โครงการของบริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดบั๊กนิงและท้ายเงวียนเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงแรงจูงใจของแหล่งเงินทุนFDIของบริษัทข้ามชาติต่างๆซึ่งได้เอื้ออำนวยให้แก่การจัดตั้งสถานประกอบการย่อยและสถานประกอบการผลิตประกอบ มีการสมทบด้านภาษีและการขยายตัวจีดีพี สร้างพื้นฐานเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมของประเทศ เช่น การจัดตั้งแถวขบวนแรงงานระดับนานาชาติ สร้างโอกาสให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงแนวคิดของชาวเวียดนามในการผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อผสมผสานเข้ากับโลกอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเวลาที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศจำนวนมากได้ชื่นชมว่า
บรรยากาศการลงทุนของเวียดนามได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเนื่องจากความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค นโยบายให้สิทธิพิเศษต่างๆและโครงสร้างพื้นฐานพัฒนา ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อให้เวียดนามสามารถเลือกแหล่งเงินFDIที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในเวลาข้างหน้า./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด