ภาพการสัมมนาในหัวข้อ “ข้อตกลงการค้าเสรีอียู-เวียดนาม”เมื่อวันที่ 7 กันยายน ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม

เวียดนามและอียูได้เริ่มทำการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี หรือ EVFTA ในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีนับวันพัฒนาอย่างดีงาม โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและการค้า ดังนั้น สามารถยืนยันได้ถึงศักยภาพในระดับสูงของข้อตกลงนี้หลังได้รับการปฏิบัติ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนและเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายเพราะช่วยยกเลิกภาษีนำเข้าส่งออกสินค้าถึงร้อยละ  99 รายการ การให้คำมั่นเกี่ยวกับการเปิดตลาดอย่างเข้มแข็งถือเป็นก้าวกระโดดของข้อตกลง EVFTA มีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้า ขยายตลาดส่งออกสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าที่ทั้งสองฝ่ายมีจุดแข็ง เช่น ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้ อุปกรณ์ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์และผลิตภัณฑ์เกษตรบางอย่างของอียู

นอกเหนือจากการยกเลิกภาษี ข้อตกลง EVFTA จะช่วยสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาดใหม่ในด้านการบริการและการลงทุน เวียดนามได้เห็นด้วยกับการเปิดเสรีด้านการค้า การบริการ การเงินโทรคมนาคม คมนาคม ไปรษณีย์และบริการขนส่งด่วน พร้อมทั้งยกเลิกและลดข้อจำกัดในการผลิตอาหาร เครื่องดื่มและในด้านอื่นๆสำหรับสถานประกอบการอียู

ในด้านการลงทุน  จากคำมั่นต่างๆเพื่อคํ้าประกันการสร้างบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจให้โปร่งใสและสะดวก ข้อตกลง EVFTA จะช่วยส่งเสริมกระแสเงินลงทุนจากอียูและหุ้นส่วนต่างๆให้ไหลเข้ามาเวียดนาม นอกจากนี้ เวียดนามยังมีโอกาสกลายเป็นสะพานเชื่อมกิจกรรมด้านการค้าและการลงทุนของอียูในภูมิภาค นาย Alann Bouvot ซีอีโอของบริษัทSODEX Sport Vietnam ที่เข้ามาลงทุนในเมืองญาจางของเวียดนามตั้งแต่ปี 1991 มาจนถึงปัจจุบันได้ให้ข้อสังเกตว่า“บริษัทของเราเข้ามาลงทุนในเวียดนาม 26 แล้ว ผมมีความเชื่อมั่นต่อบรรยากาศการลงทุนในเวียดนามเพราะได้เห็นประเทศเวียดนามที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ในปี 2017 ทางบริษัทมีแผนขยายการลงทุนผ่านการก่อสร้างโรงงานอีกแห่งบนพื้นที่ 1 หมื่น 5 พันตารางเมตร ซึ่งโครงการลงทุนในเวียดนามได้สร้างความได้เปรียบให้แก่แผนการพัฒนาของบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอื้อให้แก่ยุทธศาสตร์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับสากล”

นาย Jean Jacques Bouflet

ในการสัมมนาในหัวข้อ “ข้อตกลงการค้าเสรีอียู-เวียดนาม”เมื่อวันที่ 7 กันยายน ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม นาย Jean Jacques Bouflet สมาชิกของคณะบริหารหอการค้ายุโรปประจำเวียดนามหรือ Eurocham ได้ยืนยันว่า ข้อตกลง EVFTA ที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังเจรจาเพื่อมุ่งสู่การลงนามนั้นจะนำผลประโยชน์มาสู่ทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้น ต้องผลักดันการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างรวดเร็ว ส่วนนาย เหงวียนหว่างลอง อธิบดีกรมดูแลด้านการต่างประเทศสังกัดกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า สถานประกอบการอียูกำลังรอคอยการลงนามข้อตกลง EVFTA เพื่อกลายเป็นกลไกพิเศษที่สนับสนุนการประกอบธุรกิจ

“คณะกรรมการยุโรปและนาย Mauro Petriccione หัวหน้าคณะเจรจาของอียู ได้ยืนยันว่า การอนุมัติข้อตกลง EVFTA คือหนึ่งในประเด็นที่คณะกรรมการยุโรปให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งคณะกรรมการยุโรปจะประสานงานกับเวียดนามอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันการอนุมัติข้อตกลง EVFTA ในรัฐสภายุโรปเพื่อตอบสนองความปรารถนาของสถานประกอบการเวียดนามและสถานประกอบการยุโรปในเวียดนาม”

นาย เหงวียนหว่างลอง อธิบดีกรมดูแลด้านการต่างประเทศสังกัดกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม

ทั้งนักลงทุนและสถานประกอบการยุโรปและเวียดนามได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การปฏิบัติข้อตกลง EVFTAจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ให้แก่สถานประกอบการทั้ง 2 ฝ่าย  จากการเป็นตลาดที่มีประชากร 90 ล้านคนและกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เวียดนามถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและสถานประกอบการยุโรป ส่วนบริษัทผู้ส่งออกเวียดนามสามารถเข้าถึงตลาดยุโรปได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.