สถานประกอบการเวียดนามปรับความมีเสถียรภาพในการผลิตและส่งออกโดยเร็ว

(VOVWORLD) -จนถึงเดือนตุลาคมปี 2021 มูลค่าการส่งออกสินค้าของเวียดนามได้บรรลุเกือบ 2 แสน 6 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกได้บรรลุกว่า 2 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ายินดีของเศรษฐกิจและการฟื้นตัวในการผลิตและการส่งออกที่รวดเร็วของชมรมสถานประกอบการเวียดนาม
สถานประกอบการเวียดนามปรับความมีเสถียรภาพในการผลิตและส่งออกโดยเร็ว - ảnh 1ภาพประกอบ

ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างหนักแต่ในตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา การนำเข้าและส่งออกของเวียดนามยังขยายตัวในระยะสั้น โดยใน 4 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจเวียดนามได้มีการฟื้นตัวเป็นที่น่ายินดีเนื่องจากภาคการผลิต การประกอบธุรกิจและตลาดที่มีประสิทธิภาพ โดย อัตราการขยายตัวของการผลิตอุตสาหกรรมอยู่ในเลข 2 หลัก พลังขับเคลื่อนในการขยายตัวของเศรษฐกิจคืออุตสาหกรรมแปรรูปและอุตสาหกรรมผลิตได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ได้เปรียบดุลการค้าถึง 1.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 4 เดือนแรกของปี เป็นต้น แต่เมื่อย่างเข้าสู่เดือนพฤษภาคมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในระลอกที่ 4 ในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆของจังหวัดบั๊กยางและบั๊กนิงห์ ซึ่งเป็นท้องถิ่นสองแห่งที่มีมูลค่าการผลิตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่ออัตราการนำเข้าและส่งออกของเวียดนาม ในช่วงนั้น นาย เลแอ๊งเยือง ประธานคณะกรรมการประชนจังหวัดบั๊กยางได้ย้ำถึงมาตรการ “อยู่ร่วมกับโควิด -19 อย่างปลอดภัย” โดยปฏิบัติมาตรการให้แรงงานอยู่อาศัยในเขตนิคมอุตสาหกรรมเพื่อทำงานและเร่งทำการฉีดวัคซีน

“เมื่อบั๊กยางต้องปิดเขตนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลให้สถานประกอบการ 340 แห่งรวมแรงงานกว่า 140,000 คนต้องหยุดงานก่อนปิด เราได้ประชุมทางไกลกับสถานประกอบการทุกแห่งในเขตนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้เพื่อแจ้งสถานการณ์และหารือเกี่ยวกับการผลิตท่ามกลางการแพร่ระบาด โดยแนวทางของจังหวัดฯคือ พยายามฟื้นฟูการผลิตแบบอยู่ร่วมกับโควิด -19 อย่างปลอดภัยบนเจตนารมณ์ รับมือการแพร่ระบาดเพื่อผลิตและผลิตเพื่อรับมือการแพร่ระบาด”
การแพร่ระบาดระลอกที่ 4 นี้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและชุมชนสถานประกอบการ ถึงแม้ยังคงประสบความยากลำบากต่างๆ แต่จากความร่วมมือของเศรษฐกิจทุกภาคส่วนและความพยายามของทั้งระบบการเมือง  การนำเข้าและส่งออกใน 9 เดือนที่ผ่านมายังคงอยู่ในเลข 2 หลัก สูงกว่าแผนการที่วางไว้ของรัฐบาลและสภาแห่งชาติคือร้อยละ 4-5 นาย เจิ่นก๊วกแค้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ย้ำว่า
“หนึ่งคือ เราได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อธำรงการผลิตและการส่งออก ซึ่งได้ประสบความสำเร็จในการธำรงการผลิตและส่งออกในภาคเหนืองและภาคกลาง รวมทั้งศูนย์กลางการส่งออกใหญ่ในท้องถิ่นต่างๆ เช่น จังหวัดบั๊กนิงห์ บั๊กยางและท้ายเงวียน ถ้าหากเราไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ การส่งออกจะลดลงมากกว่านั้น สองคือ เราได้ใช้พลังทุกแหล่งเพื่อค้ำประกันการขนส่งสินค้าภายใต้การปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทั้งการขนส่งวัตถุดิบให้แก่การผลิตและการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือเพื่อทำการส่งออก และเรื่องสุดท้ายที่สำคัญคือ เราสามารถรักษาความปลอดภัยให้แก่จุดผ่านแดนหลักที่ทำการส่งออก ดังนั้น ในช่วงที่ยากลำบากที่สุด ท่าเรือส่วนใหญ่ในนครโฮจิมินห์ยังคงสามารถดำเนินงานได้อย่างปลอดภัย” 
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม รัฐบาลได้ประกาศมติที่ 128 ที่มีข้อกำหนดชั่วคราวเกี่ยวกับ “การปรับตัวอย่างปลอดภัย คล่องตัวและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพ” พร้อมกับความพยายามของชมรมสถานประกอบการในช่วงปลายปี สิ่งที่น่ายินดีคือ เศรษฐกิจมีความได้เปรียบการส่งออกในเดือนกันยายน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้พยากรณ์เกี่ยวกับความสมดุลด้านการค้า แม้กระทั่งความได้เปรียบดุลในการส่งออกของทั้งปี 2021 นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมนำเข้าและส่งออกได้กล่าว่า
“ใน 9 เดือนที่ผ่านมา เราเสียเปรียบดุลการค้าถึง 2.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 0.8 ของมูลค่าการนำเข้า นี่เป็นตัวเลขที่ไม่สูงมากเพราะว่าเรายังมีเวลาในไตรมาสที่ 4 ดังนั้น ถ้าหากเรายังคงสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ในช่วงเวลาที่เหลือดังกล่าว สถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการในภาคใต้จะสามารถฟื้นตัวและขยายตัวได้ ซึ่งช่วยให้เราสามารถเชื่อมั่นว่า เมื่อปี 2021 เสร็จสิ้นลง การค้าอาจกลับมาอยู่ในระดับสมดุลและอาจได้เปรียบในการส่งออก”
ชีวิตวิถีใหม่เปิดโอกาสให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสถานประกอบการส่งออก ควบคู่กันนั้น ข้อตกลงการค้าเสรีรุ่นใหม่ก็เอื้อประโยชน์เพื่อเพิ่มการส่งออกทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ซึ่งจะช่วยให้สถานประกอบการสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด