เวียดนามตั้งเป้าหมายยกระดับคุณภาพการเข้าร่วมห่วงโซ่การเชื่อมโยงโลกมากขึ้น

(VOVWORLD) - ปัจจุบันนี้ การค้าโลกกำลังต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ เช่น ลัทธิคุ้มครอง สงครามการค้า ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อกลไกการค้าพหุภาคีและทวิภาคี แต่เวียดนามยังสนับสนุนการค้าเสรีและตระหนักได้ดีเกี่ยวกับโอกาสที่เปิดกว้างของความร่วมมือต่างๆ โดยรัฐบาลและสถาประกอบการต่างพยายามใช้โอกาสจากการผสมผสานและการเปิดประเทศเพื่อเข้าร่วมห่วงโซ่การเชื่อมโยงและห่วงโซ่อุปทานในทั่วโลกอย่างเข้มแข็งมากขึ้น
เวียดนามตั้งเป้าหมายยกระดับคุณภาพการเข้าร่วมห่วงโซ่การเชื่อมโยงโลกมากขึ้น - ảnh 1 ภาพประกอบข่าว (Photo Internet)

 

ในตลอดกว่า 30 ปีที่ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ เวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายเปิดกว้างประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ดังนั้นผลสำเร็จของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมาล้วนมาจากการปฏิรูปตามแนวทางเสรีภาพและเปิดกว้างประเทศ แม้ในแต่ละระยะจะประสบความยากลำบากต่างๆก็ตามแต่โดยรวม การเปิดประเทศได้เอื้อประโยชน์ด้านการค้าแก่เวียดนามมากอีกด้วย

ปัจจุบันนี้ เวียดนามได้เข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่าโลกต่างๆแต่ถ้าหากมองในเชิงลึก ก็มีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ ตามข้อมูลสถิติ มีสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของเวียดนามแค่ร้อยละ 26 ที่ได้เข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่าโลก ต่ำกว่าระดับร้อยละ 46 ของประเทศอาเซียนอื่นๆ สัดส่วนการเพิ่มมูลค่าของเวียดนามในห่วงโซ่อุปทานโลกยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพและเป้าหมายของเวียดนาม นาง หวูกิมแห่ง นายกสมาคมสถานประกอบการเวียดนามที่ผลิตสินค้าคุณภาพสูงเห็นว่า            “ปัจจุบันนี้ เรากำลังผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกในเชิงลึกแต่ยังเจอปัญหาในการเชื่อมโยง เพราะการเชื่อมโยงภายในบริษัทหรือระหว่างบริษัทที่ประกอบธุรกิจในแขนงเดียวกันก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่”

ในการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจในเวียดนามเมื่อเดือนกันยายนปี 2018 นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายดังกล่าว โดยเห็นว่า แม้สถานประกอบการเวียดนามได้ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นในห่วงโซ่อุปทานโลกแต่การเข้าร่วมของสถานประกอบเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับง่ายๆ เช่น การประกอบชิ้นส่วนและการบรรจุหีบห่อ ซึ่งคุณค่าไม่สูงในห่วงโซ่            “เวียดนามตระหนักได้ดีถึงปัญหานี้จึงตั้งเป้าหมายยกระดับให้สูงขึ้นในห่วงโซ่มูลค่าโลก เพิ่มการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการเวียดนามกับสถานประกอบการที่ใช้เงินทุนจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอ นี่คือแนวทางสำคัญที่เวียดนามกำลังปฏิบัติ”

เพื่อปฏิบัติภารกิจดังกล่าว รัฐบาลเวียดนามได้ให้คำมั่นว่า จะมีบทบาทสร้างสรรค์ในการพัฒนาและเดินพร้อมกับสถานประกอบการ ลดเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจและต้นทุนการผลิต แต่สถานประกอบการเวียดนามก็ต้องยกระดับตัวเอง ปรับปรุงทักษะความสามารถในการบริหารและการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าในระยะยาว เน้นผลักดันการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตกับห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สถานประกอบการ สำหรับการปฏิรูปของสถานประกอบการ นายหวอชี้แถ่ง หัวหน้าสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์เครื่องหมายการค้าและขีดความสามารถในการแข่งขันเผยว่า            “ขณะนี้ สถานประกอบการ นักวางแผนนโยบายตระหนักได้ดีขึ้นเกี่ยวกับปัญหานี้แล้ว โดยเข้าใจได้ว่า ห่วงโซ่อุปทานไม่เพียงแต่คือการลดต้นทุนการผลิตเท่านั้น หากยังเพิ่มผลผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย สิ่งที่สำคัญคือ ต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในการเชื่อมโยง เพื่อช่วยให้การผลิต การบริการและการจำหน่ายสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น”

เพื่อสนับสนุนสถานประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสามารถใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 นาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือวีซีซีไอเผยว่า            “วีซีซีไอได้ร่วมมือกับรัฐบาลปฏิบัติเป้าหมายการยกระดับคุณภาพในการเข้าร่วมห่วงโซ่การเชื่อมโยงทั่วโลก ปัจจุบันนี้ วีซีซีไอมีศูนย์คอมพิวเตอร์สำหรับสถานประกอบการ เรากำลังทำการวิจัยและจัดโครงการต่างๆเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในการบริหารและทำธุรกิจ”

ความมีเสถียรภาพของบรรยากาศการเมืองและเศรษฐกิจบวกกับความสมบูรณ์ของแหล่งบุคลากร โดยเฉพาะมีแรงงานรุ่นใหม่มากที่สุดในกลุ่มอาเซียน ซึ่งได้รับการฝึกอบรม มีทักษะความสามารถในการเรียนรู้เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ถือเป็นความได้เปรียบของเวียดนามในการเข้าร่วมตลาดโลกอย่างลึกซึ่งมากขึ้น ควบคู่กันนั้น การที่เวียดนามเข้าร่วมข้อตกลงการค้าต่างๆได้มีส่วนร่วมเปิดประตูแห่งการเชื่อมโยงและการเข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่าและการผลิตของโลกมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด