ภาพกรุงฮานอย

รายงาน“เศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัวในไตรมาสที่ 3 แต่มีศักยภาพในการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ”ของธนาคาร Standard Chartered ที่ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ระบุว่า เวียดนามจะบรรลุอัตราการขยายตัวมากถึงร้อยละ 7.8 ในปี 2021 เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับของปี 2020 ที่สร้างความประทับใจและทำให้เวียดนามเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจโลก ส่วนองค์กรการจัดอันดับความไว้วางใจ S&P Global Ratings ได้พยากรณ์ว่า เวียดนามสามารถบรรลุอัตราการขยายตัวจีดีพีมากถึงร้อยละ 11.2 ในปี 2021 และก่อนหน้านั้น รายงานเกี่ยวกับศักยภาพการพัฒนาเอเชีย หรือ ADO ประจำปี 2020ของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ที่ประกาศเมื่อวันที่ 15 กันยายน ได้พยากรณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2021 อาจอยู่ที่ร้อยละ 6.3

ทั้งนี้ รายงานขององค์กรระหว่างประเทศต่างระบุว่า ในปี 2021 เวียดนามจะสามารถบรรลุอัตราการขยายตัวจีดีพีมากกว่าเป้าหมายที่สภาแห่งชาติเวียดนามได้วางไว้คือร้อยละ 6 ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่เวียดนามจะสามารถบรรลุอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สภาแห่งชาติได้วางไว้ ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวในระดับสูงของโลก ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจได้ให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามยังมีศักยภาพอีกมากเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นพื้นฐานเพื่อให้นักวิชาการและผู้วางนโยบายเศรษฐกิจระดับโลกมีความเชื่อมั่นว่า เวียดนามสามารถเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ นาย Hong Sun ประธานร่วมฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม หรือ VBF ปี 2020 และรองประธานสมาคมสถานประกอบการสาธารณรัฐในเวียดนาม หรือ Kocham ได้ยืนยันว่า“เวียดนามเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยเวียดนามได้เข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ เช่น EVFTA และ CPTPP ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามในการพัฒนาตลาดใหม่ เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ บริษัทหลายแห่งของสาธารณรัฐเกาหลีมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมและขยายตลาดเวียดนาม โดยนอกจากลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตแล้ว ปัจจุบัน ยังลงทุนในโครงการสตาร์ทอัพต่างๆ”

สำหรับความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ เวียดนามได้ยืนยันถึงสถานะและชื่อเสียงในทุกด้านของความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ เอกอัครราชทูต ดั่งดิ่งกวี๋ หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติได้เผยว่า ประชาคมโลกได้ชื่นชมส่วนร่วมของเวียดนามและมีความเชื่อมั่นว่า บทบาท สถานะและชื่อเสียงของเวียดนามจะได้รับการยกระดับให้สูงเด่นมากขึ้นบนเวทีโลก เอกอัครราชทูต ดั่งดิ่งกวี๋ ได้ย้ำว่า“เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ การเปิดประเทศ รวมทั้งผสมผสานเข้ากับกระแสโลก สามารถบรรลุผลงานต่างๆที่ได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศและกำลังปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษเป็นอย่างดี เวียดนามธำรงความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศมหาอำนาจ ประเทศเพื่อนมิตรเก่าแก่และทุกประเทศในทั่วโลก ซึ่งเวียดนามได้รับการประเมินว่า ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบเท่านั้น หากยังเป็นเพื่อนที่น่าไว้วางใจและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกประเทศอีกด้วย”

ส่วนนาย Kamal Malhotra ผู้ประสานงานของสหประชาชาติในเวียดนามได้ยืนยันว่า เวียดนามต้องมีบทบาทเป็นผู้นำและเดินหน้าในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาของสหประชาชาติ“อาจกล่าวได้ว่า เวียดนามมีบทบาทเดินหน้าในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ของสหประชาชาติ เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรกๆที่เสร็จสิ้นเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษและมีบทบาทที่สำคัญในการส่งเสริมการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาของสหประชาชาติ”

จากผลงานที่ได้บรรลุในปี 2020 บวกกับการประเมินอย่างมีภาวะวิสัยเกี่ยวกับศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสถานะของเวียดนามที่ได้รับการยกระดับให้สูงเด่นมากขึ้นบนเวทีโลก สามารถกล่าวได้ว่า เวียดนามมีความมั่นใจเพื่อก้าวเข้าสู่ปี2021 ที่เต็มไปด้วยความสดใส.