ใช้โอกาสเพื่อสร้างก้าวกระโดดในการส่งออกสัตว์น้ำ (Photo Internet)

แม้ประสบอุปสรรคด้านสภาพอากาศและความผันผวนของราคาในตลาดโลก รวมทั้งกำแพงด้านเทคนิกของบรรดาประเทศนำเข้า แต่มูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำของเวียดนามในปี 2018 ยังคงบรรลุ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 เมื่อเทียบกับปี 2017 สมาพันธ์แปรรูปและส่งออกสัตว์น้ำเวียดนามหรือ VASEP รายงานว่า แม้จะยากแต่ยังคงมีความเป็นไปได้ที่มูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำของเวียดนามในปี 2019 จะบรรลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งที่จำเป็นคือต้องแก้ไขอุปสรรคต่างๆของหน่วยงานฯ โดยเฉพาะพยายามให้คณะกรรมการยุโรปยกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำของเวียดนามและเน้นพัฒนาการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าของสัตว์น้ำประเภทหลักในการส่งออก นาย เหงียนซวนเกื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า เพื่อให้คณะกรรมการยุโรปยกเลิกใบเหลือง ต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์และยกระดับความรู้ให้แก่ชมรมสถานประกอบการ ชาวประมงและทางการท้องถิ่นในการบังคับใช้กฎหมายสัตว์น้ำปี 2017 พร้อมทั้งเน้นถึงการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการผลิตสินค้าระดับชาติคือกุ้งและปลาสวาย            “ต้องปฏิบัติเนื้อหาต่างๆของกฎหมายสัตว์น้ำอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการปรับปรุงเอกสารทางนิตินัยให้มีความสมบูรณ์เท่านั้น หากยังต้องให้ความสนใจถึงมาตรฐานอีกด้วย แล้วเสนอให้ท้องถิ่นปฏิบัติตาม สองคือต้องตั้งใจปฏิบัติเพื่อให้คณะกรรมการยุโรปยกเลิกใบเหลืองต่อสินค้าเวียดนามโดยเร็ว เพื่อสร้างความไว้วางใจว่าประเทศเวียดนามมีหน่วยงานสัตว์น้ำที่เพาะเลี้ยงและทำการประมงอย่างมีความรับผิดชอบ ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ”

ส่วนนาย เหงียนหว่ายนาม รองเลขาธิการ VASEP เผยว่า ควบคู่กับการเพิ่มคุณภาพ จำเป็นต้องให้ความสนใจถึงการสร้างเครื่องหมายการค้าอีกด้วย            “ในเวลาที่จะถึง เราจะมีความท้าทายต่างๆ เช่น ประเทศใหญ่ๆในยุโรปและสหรัฐปฏิบัติโครงการตรจสอบการนำเข้า ซึ่งสถานประกอบการและสำนักงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อฟันฝ่าความท้าทายเหล่านี้ ถ้าหากสามารถผ่านได้ ก็หมายถึงเราสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้”

นาย เจืองดิ่งแหว่ เลขาธิการ VASEP เผยว่า นอกจากพยายามให้การขยายตัวบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ สัตว์น้ำเวียดนามก็ได้รับความนิยมในตลาดโลกเนื่องจากมีแหล่งจัดสรรที่มีเสถียรภาพและมีความปลอดภัยด้านอาหาร เช่น เมื่อปีที่แล้ว การนำเข้าสัตว์น้ำจากเวียดนามของบรรดาประเทศยุโรปได้เพิ่มขึ้นอย่างน่ายินดีเพราะสถานประกอบการต่างๆสามารถบรรลุมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารและสารตกค้าง

คาดว่า ในปี 2020 การบริโภคสัตว์น้ำของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาจะอยู่ที่ 98.6 ล้านตันและ 29.2 ล้านตันแต่แหล่งจัดสรรมีแค่ประมาณ 78 ล้านตัน นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับสัตว์น้ำเวียดนามถ้าหากสามารถตอบสนองมาตรฐานและคุณภาพของตลาดโลกได้ ควบคู่กันนั้น ข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอฉบับใหม่ที่เวียดนามลงนามกับยุโรป โดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือซีพีทีพีพีมีผลบังคับใช้ ก็ช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามได้รับประโยชน์มากกว่าปัจจุบันเนื่องจากการยกเลิกกำแพงภาษีจากข้อตกลงเหล่านี้.