ตอบจดหมายท่านผู้ฟังวันที่ 17 กันยายน ปี 2016
(VOVworld) - สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้รับอีเมล จดหมายและคอมเมนท์จากผู้ฟัง 196 ฉบับจาก 41 ประเทศและดินแดนทั่วโลก รวมทั้งจดหมายและอีเมลจากผู้ฟังภาคภาษาไทย
แนมเหนืองเวียดนาม
|
(VOVworld) - อาจารย์เกษม ทั่งทองได้ส่งอีเมลมาบอกว่า “สวัสดีครับชาวคณะภาคภาษาไทยทุกท่าน ขอบคุณครับสำหรับของที่ระลึก 40 ปีไทย-เวียดนามชุดใหญ่ ที่ส่งใปให้ผมได้รับเรียบร้อยแล้วพร้อมทั้งแบงค์ที่ระลึก 65 ปีธนาคารชาติเวียดนามอีก 1 ฉบับ ผมเองก็ได้ส่งแสตมป์ไทย ซองวันแรกจำหน่ายและแบงค์ 70 ปีครองราชย์ไปแลกเปลี่ยนตั้งแต่ 23 สิงหาคม 2559 เช่นกันครับ” ค่ะ เราได้รับจดหมายพร้อมกับแสตมป์และธนบัตรเมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมา โอกาสนี้ อาจารย์ได้เขียนความประทับใจเกี่ยวกับประเทศเวียดนามว่า “อาหารเวียดนามที่ผมรู้จักมานานคือ เฝอหรือก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม ซึ่งจะมีผักหลายๆอย่างใส่ตะกร้าแนบมาด้วย เช่น ถั่วฝักยาว ผักสลัด ผักกาดขาว โหระพา ที่ขาดไม่ได้คือพริกเสียบไม้ย่างไฟ หากต้องการเผ็ดก็ใส่ลงไปด้วย แต่เมื่อเดินทางมาเวียดนามได้มีโอกาสทานเฟอที่ร้านขาย com – pho ไม่เหมือนที่เคยทาน เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวในน้ำซุปทานร่วมกับซอสพริก
อาหารเวียดนามอีกอย่างคือแนมเหนือง ขายเป็นชุดบรรจุกล่องในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในไทยแตกต่างจากแนมเหนืองที่ฮานอยที่ผมเคยทาน อาจจะเนื่องจากปรับให้มีรสชาติถูกปากคนไทยกระมังครับ”
สัปดาห์ที่ผ่านมาเรายังได้รับอีเมลของคุณเหงวียนวันแต๋วด้วย โดยคุณแต๋วบอกว่า ได้รับของที่ระลึกจากผู้จัดทำรายภาคภาษาไทย โดยมีธนบัตรที่ระลึก 65 ปีธนาคารชาติเวียดนาม ซึ่งมีรูปภาพประธานโฮจิมินห์ ของที่ระลึกนี้ถึงมือของคุณ เหงียนวันแต๋วในโอกาสฉลองวันชาติเวียดนาม 2 กันยายนและ 47 ปีพรรคและปวงชนปฏิบัติตามพินัยกรรมของท่านประธานโฮจิมินห์ ถึงแม้อยู่อาศัยในต่างประเทศ และไม่เคยพบประธานโฮจิมินห์ แต่เขายังคงให้ความเคารพรักต่อประธานโฮจิมินห์และมุ่งใจสู่ท่านอยู่เสมอดังกลอนของกวีเวียดนามผู้ล่วงลับโต๊หิวว่า “ ถ้าหากอยู่ใกล้ชิดกับท่าน แสวงสว่างจากท่านจะแผ่มาถึงเรา และเราจะรู้สึกโตขึ้น”
ชาวฟิลิปปินส์ประท้วงจีน (Photo The Times)
|
ส่วนกลุ่มนักศึกษาไทยที่เรียนภาษาเวียดนามในกรุงฮานอยได้ส่งคำอวยพรเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 71 ปีวันก่อตั้งสถานีวิทยุเวียดนาม 7 กันยายน พร้อมทั้งบอกว่า อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ ณ กรุงเฮกเกี่ยวกับคดีฟิลิปปินส์ฟ้องร้องจีนว่าด้วยการอธิบายและใช้อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
นับเป็นครั้งแรกที่มีคำวินิจฉัยจากกลไกระหว่างประเทศที่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับการพิพาทในทะเลตะวันออก ซึ่งได้ตีความมาตราต่างๆที่ยังขาดความชัดเจนของอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982ที่ทุกฝ่ายในคดีมีส่วนเกี่ยวข้อง มีการอธิบายและและสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างทางกายภาพของหมู่เกาะเจื่องซาหรือสเปรตลีย์ เพราะว่าถ้าสามารถตีความได้อย่างชัดเจน ก็จะถูกใช้เป็นพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่การฟ้องร้องในลักษณะเดียวกันในอนาคตเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องปรับเปลี่ยนการกระทำ
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า อำนาจของศาลอนุญาโตตุลาการมีพื้นฐานเพียงพอในการปฏิบัติ หนึ่งคือ ศาลดำเนินงานตามอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเล คำวินิจฉัยของศาลฯมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และวิชาการ จึงต้องมีการบังคับใช้คำวินิจฉัย โดยศาลไม่ได้ตัดสินปัญหาการพิพาทดินแดนแต่ศาลยังระบุถึงความชอบธรรมของการปฏิบัติและในบางกรณีได้ยืนยันสิทธิทางดินแดนของประเทศที่มีอาณาเขตทางทะเล พื้นฐานที่สองคือ ในฐานะประเทศสมาชิกของ UNCLOS ปี 1982 จีน ฟิลิปปินส์และบรรดาประเทศที่เกี่ยวข้องต้องให้ความเคารพคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ เพราะไม่มีประเทศใดที่สามารถรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคได้แต่เพียงลำพังเมื่อปฏิเสธข้อกำหนดต่างๆที่ได้ให้ภาคียานุวัติ พื้นฐานสุดท้ายคือ ด้วยบทบาทของประเทศใหญ่ในภูมิภาค ในหลายปีที่ผ่านมา จีนได้พยายามประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับทฤษฎีแห่งการ “พัฒนาสันติภาพ” ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลใดที่จีนจะเดินสวนกับแนวทางที่บรรดาผู้นำประเทศในอดีตได้ตั้งใจปฏิบัติ
ท่านผู้ฟังคะ เพื่อมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับคำวิจนิฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ ณ กรุงเฮก ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ของเราตามที่อยู่ www.vovworld.vn และสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อเราได้...