(VOVworld) - ในอีเมลที่ส่งมาถึงรายการภาคภาษาไทย คุณประสิทธิ์ ไชยชมพู จากตำบลแกใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ได้แจ้งเปลี่ยนที่อยู่ไปเป็นที่อยู่ใหม่ที่กรุงเทพมหานครฯ โดยขอให้ทางเราติดต่อตามที่อยู่ใหม่นี้

ผู้ฟังชาวสเปนได้ส่งอีเมลมาแสดงความยินดีต่อประธานสถานีวิทยุเวียดนามคนใหม่โดยเผยว่า “ภารกิจของประธานวีโอวีคนใหม่จะไม่ง่ายในขณะที่เวียดนามกำลังพยายามพัฒนาเป็นประเทศมหาอำนาจของเอเชีย โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกกำลังดำเนินไปอย่างซับซ้อน ซึ่งต้องแก้ไขทุกปัญหาด้วยความระมัดระวังอย่างสูงและแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย แต่อย่างไรก็ตาม ผมมีความเชื่อมั่นว่า จากการมีเจ้าหน้าที่และพนักงานมืออาชีพ ภายใต้การนำของประธานคนใหม่ วีโอวีจะประสบความสำเร็จใหม่ๆ รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งล้ำค่าให้แก่มนุษย์ เพื่อสันติภาพ ความร่วมมือ การสนทนาและมิตรภาพ”
ส่วนผู้ฟังภาคภาษากัมพูชาได้ชื่นชมบทความเกี่ยวกับชาวเขมรในรายการสีสันวัฒนธรรม 54 ชนเผ่าเวียดนาม ซึ่งน่าสนใจและมีประโยชน์มาก...
คุณมาลีวง จากกรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาวได้ถามเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆเพื่อช่วยเหลือเด็กที่โดนสารพิษสีส้มในเวียดนาม ซึ่งตามข้อมูลสถิติในเอกสาร “งานสังคมสงเคราะห์เด็กที่โดนสารพิษสีส้มในหมู่บ้านมิตรภาพในกรุงฮานอย” ปัจจุบันนี้ ในเวียดนามมีผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มประมาณ 4.8 ล้านคน ซึ่งในนั้นมี 3 ล้านคนได้รับผลกระทบโดยตรงจากสารพิษสีส้มและมีเด็กที่โดนสารพิษสีส้มกว่า 1 ล้านคน ซึ่งนี่คือตัวเลขที่เยอะมาก ดังนั้น ในทุกๆปี พรรคและรัฐเวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายให้การช่วยเหลือต่างๆและกำหนดให้วันที่ 10 เดือนสิงหาคมเป็นวันปฏิบัติเพื่อผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้ม โดยจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินเท้าเพื่อผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้ม การแสดงศิลปะและการจัดกิจกรรมถ่ายทอดสดวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ... เพื่อรับบริจาคเงินจากผู้ประกอบการ ผู้ที่มีใจกุศล องค์กรและบุคคลทั้งภายในและต่างประเทศให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้ม นอกจากนี้ ยังเรียกร้องการสนับสนุนให้แก่สมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินเวียดนามในกรณีการยื่นฟ้องบริษัทเคมี๓๗แห่งของสหรัฐที่ผลิตและจัดสรรสารพิษให้กองทัพสหรัฐใช้ในสงครามเวียดนามเพื่อเรียกร้องการชดเชยให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายเวียดนาม ส่วนในเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษเต๊ตประเพณีและวันเด็กสากล... ผู้นำพรรค รัฐ ทางการปกครองท้องถิ่น สำนักงานและองค์กรต่างๆยังลงพื้นที่มอบของขวัญให้แก่เด็กที่โดนสารพิษสีส้ม ส่วนองค์กรเอ็นจีโอและองค์กรระหว่างประเทศก็ไปเยี่ยมและมอบของขวัญให้แก่เด็กที่โดนสารพิษสีส้มตามศูนย์ดูแลเด็กเหล่านี้

คุณ Tjang Pak Ning ผู้ฟังจากอินโดนีเซียบอกว่า ขอให้ทางวีโอวีแนะนำเกี่ยวกับหมู่บ้านโบราณในอำเภอก๊ายแบ่จังหวัดเตี่ยนยาง ทางภาคใต้ของเวียดนาม
สำหรับหมู่บ้านนี้มีชื่อว่า ดงหว่าเหียบ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอก๊ายแบ่ จังหวัดเตี่ยนยาง เช่นเดียวกับหมู่บ้านโบราณอีก 2 แห่งคือเดื่องเลิมในกรุงฮานอยและเฟือกติกในกรุงเก่าเว้ หมู่บ้านด่งหว่าเหียบได้รับเงินลงทุนจากองค์กรร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่นหรือไจก้าเพื่อพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
บ้านโบราณต่างๆในหมู่บ้านดงหว่าเหียบมีพื้นที่กว้างขวาง บริเวณบ้านมีสวนผลไม้ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำก๊ายแบ่ที่เงียบสงบ ปัจจุบันนี้ ในตำบลนี้ มีบ้านโบราณที่มีอายุตั้งแต่ 150 ปี – 200 ปีรวม 7 หลัง และอีก 29 หลังมีอายุประมาณ 80-100 ปี ส่วนบ้านโบราณที่ได้ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศมากที่สุดคือบ้านโบราณของคุณเฉิ่นต๊วนเกียด ซึ่งอยู่ในสวนผลไม้ที่มีพื้นที่ประมาณ 1.8 เฮ็กต้า บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมี 5 ห้อง มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1 พันตารางเมตรและมีเสาที่ทำจากไม้ทั้งหมด 108 ต้น บ้านนี้ได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1838 ซึ่งในตลอดเกือบ 200 ปีที่ผ่านมา บ้านหลังนี้ยังคงทนแม้ต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศต่างๆและสงคราม ในจันทัน ประตูและระเบียงมีการแกะสลักรูปภาพต่างๆเป็นรูปต้นไม้มงคลของคนเวียดนามเช่น ต้นสน ต้นดอกเบญจมาศ และต้นดอกท้อ เป็นต้น นอกจากนี้ ในบ้านยังคงรักษาไว้ได้วัตถุโบราณมากมาย เช่น เครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับการแกะสลักอย่างปราณีตและเครื่องเซรามิกต่างๆ
ส่วนบ้านโบราณหลังที่สองที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวคือบ้านบาดึ๊กของคุณฟานวันดึ๊ก ซึ่งได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1850 มีสถาปัตยกรรมผสมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก อย่างเช่น ด้านหน้าของบ้านมีสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสโดยมีเสาวงกลมและหลังคาโค้ง ส่วนเครื่องเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านก็เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบตะวันออก ซึ่งเป็นตัวอย่างของบ้านที่หรูหราในสมัยก่อน
ต่อไปนี้ ขอเชิญท่านดูภาพถ่ายบ้านโบราณของคุณเฉิ่นต๊วนเกียด...