จดหมายที่ส่งถึงรายการของเราในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงกล่าวถึงปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในประเทศไทย อาจารย์เกษมทั่งทอง จากจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของรายการได้ส่งจดหมายมาเล่าว่า “เมื่อวันก่อนผมเดินทางไปจังหวัดชัยภูมิในช่วงที่ประกาศสภาวะฉุกเฉินการเดินทางข้ามจังหวัดโดยรถโดยสารประจำทางไม่มีจะต้องไปรถส่วนตัวเท่านั้นก่อนการเดินทางจะต้องกรอกใบขออนุญาตออกนอกพื้นที่จากผู้ใหญ่บ้านซึ่งมีแบบฟอร์มให้กรอกว่าจะไปที่ไหน ไปทำอะไร ไปกี่คน อายุเท่าไร ไปกี่วันพักที่ไหน พร้อมกับถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนทุกคนแนบไปด้วยเพราะว่าถ้าอายุเกิน 70 ปีและต่ำกว่า 5 ปีจะไม่อนุญาตให้ออกนอกพื้นที่            

ในวันเดินทางมีด่านตรวจสกัดโรคโควิด ทุกอำเภอที่ผ่านจำนวน 6 อำเภอถ้าในจังหวัดขอนแก่นเพียงยื่นเอกสารก็ให้ผ่านได้เมื่อเข้าจังหวัดชัยภูมินอกจากตรวจเอกสารแล้วจะต้องลงจากรถด้วยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลตรวจวัดไข้และเก็บตัวอย่างเมือกในจมูกด้วยก่อนให้ผ่านไปได้ ผมวัดไข้ได้ 36.6 องศาถือว่าผ่าน            ที่ฮานอยมีการตั้งด่านสกัดโรคโควิดอย่างไรบ้างครับ”

ที่ฮานอยในช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีประกาศคำสั่งเว้นระยะห่างทางสังคมก็มีการตั้งด่านสกัดโรคโควิดเช่นกันแต่ว่ามีแค่ทำการวัดอุณหภูมิและตรวจเอกสารเท่านั้นซึ่งประชาชนจะออกนอกบ้านเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้นซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังคงไปทำงานและมีการขนส่งสินค้าเข้ากรุงฮานอยตามปกติแต่บริการขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการตอนนี้เวียดนามได้ยกเลิกคำสั่งเว้นระยะห่างทางสังคมแล้วก็ทำให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติอย่างไรก็ตามเรายังคงใช้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด เช่น วัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและล้างมือเป็นประจำ ที่กรุงฮานอย ในสัปดาห์นี้นักเรียนชั้นมัธยมและนักศึกษาได้กลับไปเรียนตามปรกติ ส่วนสัปดาห์หน้านักเรียนชั้นอนุบาลและโรงเรียนประถมก็จะกลับไปเรียนตามปรกติ

ส่วนคุณ พิเชษฐ ทองพุ่ม เล่าเรื่องโควิด ที่กรุงเทพฯว่า “ในช่วงเวลายากลำบากของคนกรุงเทพฯประเทศไทยประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อสกัดและลดการแพร่กระจายของ Covid-19 ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทำให้การดำเนินชีวิตค่อนข้างลำบากผู้คนไม่อยากออกนอกบ้าน ประกอบกับห้างสรรพสินค้าปิดหมดสินค้าขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้นยังดีที่ร้าขายของเล็กๆน้อยๆและร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-ELEVEN ยังเปิดบริการได้ แต่มีเวลาที่ถูกจำกัดตามเคอร์ฟิวเช่นกันพื้นที่ที่ผมอยู่มีร้าน 7-11 สองแห่งไม่ไกลจากบ้านมากนัก เดินไปเพียง 5 นาทีก็ถึงแล้ว ก็ทำให้พอต่อลมหายใจได้บ้าง ตอนประกาศเคอร์ฟิวใหม่ๆสินค้าก็แทบจะเกลี้ยงร้านทุกวันเหมือนกันแต่ทางร้านเขาปรับวิธีการให้บริการได้ประทับใจมากขึ้นอย่างเช่นส่งคนของเขาออกไปตามบ้านพร้อมด้วยไข่ไก่แพค 10 ฟองไปด้วยซึ่งตอนนั้นไข่ไก่เป็นที่ต้องการมาก เท่านั้นยังไม่พอเขายังแนะนำให้ประชาชนใช้แอพ 7-11Delivery สั่งซื้อของตามรายการที่ให้บริการสั่งแม้กระทั่งว่าจะให้อุ่นด้วยเลยก็ได้โดยที่การสั่งแต่ละครั้งมีขั้นต่ำหนึ่งร้อยบาทขึ้นไปเท่านั้นเองนอกจากร้านสะดวกซื้อแล้วเราสามารถเลือกสั่งอาหารจากร้านต่างๆที่อยู่นอกพื้นที่ผ่านทาง Delivery ก็ได้ ทำให้เราช่วยกันทำอาหารมากขึ้นและทานอาหารด้วยกันที่บ้านมากขึ้นประหยัดเงินได้มากจริงๆ และในทุกๆวันก็ยังมีอาหารที่มากับรถเข็นและรถขายกับข้าวผ่านมาอีกด้วย เอาเป็นว่าเมื่อชีวิตมีปัญหาก็ยังพอมีทางออกให้เราเสมอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังลำบากเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ครับสู้ไปด้วยกันกันครับ อย่ายอมแพ้”

สมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในอำเภอพังโคนได้เปิดรับบริจาคเพื่อสนับสนุนการรับมือโรคโควิด-19

แม้ยังประสบอุปสรรคมากมายแต่เรารู้สึกซึ้งใจมากที่เห็นกิจกรรมการช่วยเหลือกันของชุมชนชาวไทย ชาวเวียดนามและในประเทศต่างๆทั่วโลกดังเรื่องที่คุณ เหงียนวันแต๋วได้ส่งอีเมลล์มาเล่าเรื่องการช่วยเหลือกันในชุมชนว่า “ในช่วงเกิดการแพร่ระบาด ทั่วโลกต้องพยายามรับมือปัญหานี้โดยเฉพาะแพทย์ที่อยู่ในแถวหน้าแห่งการต่อสู้โรคโควิด-19 จากสถานการณ์ดังกล่าวสมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในอำเภอพังโคนได้เปิดรับบริจาคเพื่อสนับสนุนการรับมือโรคโควิด-19 โดยได้สนับสนุนชุดป้องกันโรคโควิด-19 รวม 280 ชุด หน้ากากอนามัย N95 รวม 200 ชิ้น ตู้อบเครื่องมือแพทย์ 2 ตู้และหน้ากากอนามัยN953M รวม50ชิ้นรวมมูลค่า 80,000 บาทหวังว่าส่วนร่วมนี้จะเป็นการให้กำลังใจและเป็นการแสดงความสำนึกในบุณคุณต่อการเสียสละของแพทย์ทุกนายซึ่งเป็นผู้อยู่ในแถวหน้าแห่งการรับมือการแพร่ระบาด” นอกจากนี้ คุณแต๋วยังส่งคำอวยพรเนื่องในโอกาสเวียดนามรำลึกครบรอบ 45 ปีวันปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพและแสดงความยินดีต่อเวียดนามที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งได้รับความชื่นชมและความประทับใจจากนานาประเทศ

หลังจากที่เราได้แชร์จดหมายของคุณแต๋วบนแฟนเพจเฟสบุ๊ค มีผู้ฟังหลายคนได้กดไลค์กดแชร์จำนวนมาก เช่น คุณPiak Sdchคุณ พิเชษฐ ทองพุ่ม และคุณ เก๋ชลินันท์หวังว่า ด้วยความพยายามของแพทย์ที่อยู่ในแถวหน้าและการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทั้งชาวไทย ชาวเวียดนามและประชาชนทั่วโลก เราจะสามารถเอาชนะการระบาดได้โดยเร็ว

สำหรับการประกวด “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเวียดนาม 2020” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเริ่มได้รับบทความเข้าร่วมการประกวดแล้ว อย่างเช่น ภาคภาษาอินโดนีเซียได้รับ 6 บทความ ซึ่งมีเนื้อหาที่หลากหลายและมีภาพประกอบต่างๆ และตามที่เราได้บอกไปในรายการตอบจดหมายครั้งก่อนๆ เราจะช่วยแนะนำหาข้อมูลตอบคำถามการประกวดนี้ผ่านข่าวและบทความที่เราโพสต์บนเว็บไซต์ โดยในวันนี้ เราจะช่วยแนะนำข้อมูลเพื่อตอบคำถามที่ 2คือ “เวียดนามจะจัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ทางการเมืองและการต่างประเทศที่สำคัญต่างๆในปี2020 ขอให้ท่านระบุชื่ออย่างน้อย5กิจกรรมที่ท่านเห็นว่าน่าสนใจที่สุดที่จะมีขึ้นในเวียดนามรวมถึงกิจกรรมสำคัญของสถานีวิทยุเวียดนามในปี2020 พร้อมทั้งกล่าวถึงความประทับใจของท่านต่อกิจกรรมที่ท่านสนใจที่สุด?”

ปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ

ในปี 2020 เวียดนามและสถานีวิทยุเวียดนามจะจัดกิจกรรมรำลึกที่หลากหลาย ซึ่งทำให้คำตอบกว้างมากขึ้น แต่คุณสามารถหาคำตอบได้ในคอลัมม์ต่างๆบนเว็บไซต์ www.vovworld.vn ของเรา เช่น ข่าวเด่น สารคดี วิเคราะห์ เป็นต้น เช่น กิจกรรมรำลึกครบรอบ 45 ปีวันปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ ซึ่งเราได้ลงข่าวและบทความต่างๆเนื่องในโอกาสนี้แล้ว

ก็ขอย้ำอีกครั้งว่า การประกวดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 กรกฎาคมปีนี้ โดยยึดตามวันประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ และจะมี 5 คะแนนสำหรับบทความที่ยอดเยี่ยมที่สุด ส่วนรางวัลจะมี 3 รางวัลคือแพ็คเกจเที่ยวเวียดนามฟรี5วันนะคะ ยังไงก็รีบส่งบทความมาให้เราทางอีเมล์ vovhanoi2004@hotmail.com หรือทางจดหมายโดยจ่าหน้าซองดังนี้รายการภาคภาษาไทย สถานีวิทยุเวียดนามเลขที่ 45 ถนนบ่าเจี๋ยว กรุงฮานอย (Thaisection 45 Ba Trieu – Ha Noi – Viet Nam) หรือสำนักงานตัวแทนสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศไทย 842/410 คอนโดแอสปาย พระราม 9 ซอยพระราม 9แยก 2 ถนนพระราม 9, แขวงห้วยขวาง, เขต ห้วยขวางกรุงเทพมหานคร 10310 โทร. +66-22455621.