ชัยชนะเดียนเบียบฟูเป็นหลักหมายทองในประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศของประชาชาติเวียดน
(VOVworld) - พิธีฉลองครอบรอบ 60 ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู 7 พฤษภาคม โดยมีผู้นำและอดีตผู้นำพรรค รัฐ รัฐสภา... คณะทูตานุทูตและองค์กรระหว่างประเทศประจำเวียดนามเข้าร่วมจำนวนมาก
|
การเดินพาเหรดในพิธี
|
(VOVworld) – เช้าวันที่ 7 พฤษภาคม ณ นครเดียนเบียนฟู จังหวัดเดียนเบียน คณะกรรมการส่วนกลางพรรค รัฐสภา ประธานประเทศ รัฐบาล คณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิส่วนกลางเวียดนามและจังหวัดเดียนเบียนได้จัดพิธีฉลองครอบรอบ 60 ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู 7 พฤษภาคม โดยมีท่านเหงียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรค ท่านเจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศเวียดนาม ผู้นำและอดีตผู้นำพรรค รัฐ รัฐสภา คณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิส่วนกลาง ตัวแทนของรัฐบาลประเทศลาว ประเทศกัมพูชา คณะผู้แทนระดับสูงของพรรคแรงงานเม็กซิโก คณะทูตานุทูตและองค์กรระหว่างประเทศประจำเวียดนามพร้อมประชาชนทุกหมู่เหล่าและคณะผู้แทนทหารผ่านศึกที่เข้าร่วมยุทธนาการเดียนเบียนฟู 60 นายเข้าร่วมในการกล่าวปราศรัยในพิธี ประธานประเทศเวียดนามเจืองเติ๊นซางได้ทบทวนประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์และนิมิตรหมายที่สำคัญในยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟูโดยยืนยันว่า ชัยชนะเดียนเบียนฟูเป็นหลักหมายทองในประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศของประชาชาติเวียดนาม ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงที่ว่า ประเทศเล็กๆ ซึ่งมีเศรษฐกิจด้อยพัฒนาแต่ถ้าหากอยู่ภายใต้การชี้นำของพรรคมาร์กซิสต์ที่เที่ยงธรรมมีแนวทางการเมืองและทหารที่ถูกต้องแล้วก็สามารถระดมพลังอันเข้มแข็งของทั้งประชาชาติและได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในทั่วโลกก็จะชนะสงครามรุกรานของฝ่ายศัตรูได้ทุกครั้งอย่างแน่นอนแม้ศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม “
ชัยชนะเดียนเบียบฟูเป็นบทเพลงที่กล้าหาญที่อมตะ ซึ่งมาจากเกียรติประวัติที่รุ่งโรจน์ของประชาชาติ การชี้นำที่ปรีชาสามารถของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ที่ยิ่งใหญ่ จากพลังแห่งความสามัคคีชนในชาติและความมุ่งมั่นตั้งใจสู้รบของประชาชนและทหารเวียดนามเพื่อเอกราชและเสรีภาพของปิตุภูมิ ชัยชนะเดียนเบียนฟูได้ทำลายเจตนารมณ์ที่รุกรานประเทศเวียดนามของนักล่าเมืองขึ้นที่กระหายสงครามและบังคับให้รัฐบาลฝรั่งเศสต้องลงนามในข้อตกลงเจนีวา ยุติสงครามและฟื้นฟูสันติภาพให้กลับคืนมาบนพื้นดินเวียดนาม พร้อมทั้งให้คำมั่นที่จะเคารพเอกราช ประชาธิปไตย ความเป็นเอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของเวียดนาม ตลอดจนต้องรับรองประเทศลาวและกัมพูชาและถอนทหารออกจากสามประเทศในอินโดจีน ชัยชนะเดียนเบียนฟูเป็นชัยชนะแห่งความสามัคคีสู้รบและความซื่อสัตย์ระหว่างประชาชนและทหารทั้งสามประเทศเวียดนาม – ลาว – กัมพูชา พร้อมทั้งเป็นชัยชนะร่วมกันของทุกประชาชาติที่ถูกกดขี่ขูดรีด เปิดศักราชแห่งการล่มสลายของระบบนักล่าเมืองขึ้นในทั่วโลก”
ประธานประเทศเวียดนามย้ำว่า หลังจากที่ปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในทุกด้านเป็นเวลาเกือบ 30 ปีภายใต้การชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เวียดนามได้ประสบความสำเร็จที่น่ายินดี เช่น สามารถรักษาความมีเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม ได้หลุดพ้นจากสภาวะการณ์เป็นประเทศยากจนและด้อยพัฒนา ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น สถานะและชื่อเสียงของเวียดนามในภูมิภาคและโลกได้รับการยกระดับ แต่ผลสำเร็จเหล่านี้ยังไม่ทัดเทียบกับศักยภาพและจุดแข็งของประเทศ ดังนั้น พรรค ประชาชนและกองทัพต้องส่งเสริมความมุ่งมั่นและสติปัญญาของคนเวียดนาม ตลอดจนจิตใจแห่งชัยชนะเดียนเบียนฟูเพื่อส่งเสริมพลังภายใน แสวงหาพลังภายนอก รู้จักใช้โอกาสเพื่อฟันฝ่าความท้าทายและสร้างผลงานที่ปฏิหาริย์ในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิสังคมนิยมเวียดนามอย่างมั่นคง “จากบทเรียนและประสบการณ์จากการระดมส่วนร่วมของประชาชาติร่วมกับพลังอันแข็งแกร่งของยุคในชัยชนะเดียนเบียนฟูต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศนั้น เราต้องมีการปฏิบัติอย่างเสมอต้นเสมอปลายและมีประสิทธิภาพตามแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง สันติภาพ มีความร่วมมือและพัฒนา มีความสัมพันธ์หลายรูปหลายฝ่าย เป็นฝ่ายรูกและผสมผสานอย่างกระตือรือร้นเข้ากับกระแสโลก เป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือและเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบในประชาคมโลก ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามในภูมิภาคและโลกมากขึ้น”
ในนามของทหารผ่านศึก เยาวชนอาสาและประชาชนอาสานับพันคนในยุทธนาการเดียนเบียนฟู พันเอก ฝุ่งวันเขิ่า วีรชนของกองกำลังติดอาวุธ อดีตทหารหน่วยปืนใหญ่ในยุทธนาการเดียนเบียนฟูได้กล่าวปราศรัยแสดงความภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมยุทธนาการฯและมีส่วนร่วมต่อชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติ พันเอกฝุ่งวันเขิ่ายืนยันว่า “
พวกเรามีความเชื่อมั่นและปรารถนาว่า คนเวียดนามรุ่นใหม่จะมีความภาคภูมิใจ จดจำและพัฒนาเกียรติประวัติของประชาชาติเวียดนามและจิตใจแห่งชัยชนะเดียนเบียบฟูตลอดไป กล้าคิดกล้าทำ มีความคล่องตัวและมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อประสบความสำเร็จในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิสังคมนิยมเวียดนาม”
การเดินพาเหรดเริ่มขึ้นด้วยขบวนเยาวชน 54 คนที่ใส่ชุดของ 54 ชนเผ่าเวียดนามพร้อมตราแผ่นดินของเวียดนามตั้งบนรูปตัวมังกรกำลังเหินฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความปรารถนาของประชาชาติเวียดนาม ตามมาด้วยขบวนพาเหรดธงของพรรคคอมมิวนิสต์ ธงชาติ ภาพประธานโฮจิมินห์และขบวนรถรูปสัญลักษณ์ของชัยชนะเดียนเบียนฟู ขบวนทหารแห่งกองทัพประชาชนเวียดนามและสุดท้ายคือขบวนพาเหรดของตัวแทนประชาชนและชนกลุ่มน้อยต่างๆ โดยการเดินขบวนเริ่มต้นสนามกีฬาเดียนเบียผ่านถนนสายต่างๆ ผ่านสุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเอ 1 เนินเอ 1 และอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะเดียนเบียนฟู เป็นต้น
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 6 นาฬิกาในเช้าวันเดียวกัน คณะผู้นำพรรค รัฐสภา รัฐ รัฐบาลและคณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิส่วนกลางเวียดนาม นำโดยท่านเหงียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามพร้อมกับแขกต่างชาติและตัวแทนของประชาชนได้ไปจุดธูปที่สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเอ 1 เมืองเดียนเบียนฟู จังหวัดเดียนเบียน./.