( VOVworld ) - วันที่ ๒ กันยายนถือเป็นวันเอกราชของประเทศเวียดนาม ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ ๖๗ ที่ประเทศเวียดนามได้รับเอกราช  ทุกครั้งเมื่อถึงวันเอกราชชาวเวียดนามแต่ละคนจะมีการฉลองที่แตกต่างกัน สำหรับผู้ที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ทำการลุกขึ้นสู้ของประชาชนทั่วประเทศก็หวนคิดถึงบรรยากาศและอนุสรณ์ในเดือนสิงหาคมปี ๑๙๔๕  ส่วนคนรุ่นใหม่แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และไม่มีส่วนร่วมแต่ได้เสพความสุขจากดอกผลของเหตุการณ์ในช่วงนั้น  ซึ่งทุกคนต่างคิดถึงประธานโฮจิมินห์ ผู้นำที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของการปฏิวัติในเดือนสิงหาคมและการให้กำเนิดประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเวียดนามซึ่งก็คือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปัจจุบัน  

กระแสคนจำนวนมากเข้าแถวกันยาวเหยียด เพื่อรอเข้าคำนับศพประธานโฮจิมินห์ที่สุสาน

ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆยามฤดูไม้ผลัดใบ มีกระแสคนจำนวนมากเข้าแถวกันยาวเหยียดเพื่อรอเข้าคำนับศพประธานโฮจิมินห์ที่สุสานในกรุงฮานอยเพื่อแสดงความเคารพรักและศรัทธาต่อผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของตน ที่นี่เรารู้สึกถึงบรรยากาศที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ แต่บรรยากาศฉลองวันชาติกำลังเป็นไปอย่างคึกคักตามตรอกซอกซอยและหมู่บ้านในทั่วประเทศ  คุณยายหว่างถิ่ญือ อายุ ๘๓ ปีกำลังร่วมกับชาวบ้านในละแวกหยิกหว่อง เขตเกิ่วเญ้ย กรุงฮานอยทำความสะอาดและตบแต่งเขตชุมชนที่ตนอาศัยอยู่เพื่อฉลองวันเอกราชของประเทศ  ซึ่งคุณยายหว่างถิ่ญือบอกว่า เมื่อถึงวันที่ ๒ กันยายนทุกปี ท่านและผู้ที่เคยอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นต่างคิดถึงลุงโฮ  “ ลุงโฮได้สงวนความรักของตนต่อชาติบ้านเมือง ท่านได้อุทิศตลอดชีวิตให้แก่ประเทศและประชาชน  ลุงโฮมีชีวิตที่สมถะ ติดดิน ท่านให้ความดูแลเอาใจใส่เด็ก นักเรียนและเยาวชนเป็นพิเศษ อีกทั้งให้ความสนใจและติดตามให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ คนจน ชาวนาที่หาเช้ากินค่ำตลอดจนเด็กๆที่ทำความดี  เมื่ออ่านหนังสือพิมพ์และพบเห็นเด็กทำความดีท่านก็มอบเข็มที่ระลึกให้  เมื่อยายได้ชมที่พักของท่านที่มีความเรียบง่าย ซึ่งสะท้อนให้เห็นบุคลิกเพื่อส่วนรวมของท่านนั้น ยายรู้สึกรักและเคารพนับถือท่านอย่างสูง”

ตราอกซอกซอยทุกแห่งทั่วประเทศได้ประดับประดาด้วยธงชาติ

เพลง ความรักอันกว้างใหญ่ไพศาลของลุงโฮ โดยนักร้องแทงฮัวของสถานีวิทยุเวียดนามขับร้อง ตลอดชีวิตที่เป็นนักร้อง   ศิลปินประชาชนแทงฮัวได้ร้องเพลงสรรเสริญพรรค ประธานโฮจิมินห์ บ้านเกิดและประเทศ ซึ่งรวมทั้งเพลง ความรักอันกว้างใหญ่ไพศาลของลุงโฮ   ศิลปินประชาชนแทงฮัวเผยว่า ชีวิตที่สมถะของประธานโฮจิมินห์เป็นแรงบรรดาลใจให้ท่านร้องเพลงเกี่ยวกับโฮจิมินห์ที่ไพเราะและเข้าถึงจิตใจของผู้ฟัง  “ แม้ดิฉันจะร้องเพลงเกี่ยวกับลุงโฮหลายเพลงแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสพบกับท่านแม้แต่ครั้งเดียว ดิฉันเพียงแต่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับท่าน ซึ่งท่านได้รับการยกย่องจากประชาชนทุกคนว่า เป็นเทพเจ้า  พอได้อ่านชีวะประวัติของท่าน ดิฉันได้เข้าใจว่า ลุงโฮเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ตรงที่ท่านได้สละชีวิตส่วนตัวเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งนับเป็นแรงบันดาลใจให้อารมณ์สุนทรีย์ในศิลปะของเวียดนาม  ซึ่งผลงานเกี่ยวกับลุงโฮต่างสร้างสรรค์ด้วยสติปัญญาและภาษาที่สละสลวย  ดังนั้น ทุกครั้งที่ร้องเพลงเกี่ยวกับลุงโฮ ดิฉันไม่เคยคิดว่า ร้องเพลงเพื่อสรรญเสริญท่าน แต่เป็นการร้องเพลงเพื่อขอบคุณท่านมากกว่า ”

กิจกรรมเฉลิมฉลองวันชาติ ๒ กันยายน

สำหรับนักศึกษาที่กำลังเรียนในต่างประเทศนั้น ในช่วงนี้ พวกเขามักจะฟังเพลงเกี่ยวกับบ้านเกิดและเพลงยกย่องลุงโฮ  คุณ เฮืองลานเผยว่า  “ ดิฉันศึกษาในต่างประเทศได้ ๖ ปี  ทุกครั้งเมื่อถึงวันที่ ๒ กันยายน ดิฉันจะอ่านหนังสือพิมพ์และชมสารคดีเกี่ยวกับลุงโฮ  อยู่ที่ต่างประเทศก็นึกถึงภาพของลุงโฮเพื่อเป็นการให้กำลังใจเราในการศึกษาเล่าเรียนให้ดีขึ้น ดิฉันมักจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับลุงโฮให้กับเพื่อนๆชาวต่างชาติที่กำลังเรียนหนังสือด้วยกันฟัง ซึ่งพวกเขาก็ฟังด้วยความตั้งใจสูงพร้อมแสดงความรู้สึกศรัทธา และอยากเรียนรู้แบบอย่างของลุงโฮ ”  ความเคารพรักประธานโฮจิมินห์ยังคงสถิตอยู่ในดวงใจของชาวเวียดนามทุกเพศทุกวันตลอดกาล  กวีฟานเหวี่ยนทือ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ในเดือนสิงหาคมปี ๑๙๔๕ แต่ก็ได้ตั้งคำถามว่า ทำไม แม้จะอยู่ในทศวรรษแรกของศตวรรษที่ ๒๑ แต่เมื่อเอ่ยถึงวันเอกราชและลุงโฮทุกคนก็จะมีอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันที่บอกไม่ถูก และเธอก็หาคำตอบได้เองว่า  “  ชาวเวียดนามสำนึกในบุญคุณต่อชนรุ่นก่อนและสิ่งที่บรรพบุรุษได้สร้างให้  ดังนั้น แม้จะอยู่ในที่ใด ชาวเวียดนามแต่ละรุ่นจะมีความรู้สึกเกี่ยวกับวันเอกราชของประเทศที่แตกต่างกัน แต่มีลักษณะตรงกันคือการสำนึกในบุญคุณของบรรพชนและประธานโฮจิมินห์  ”  ๖๗ ปีได้ผ่านพ้นไป แต่ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์และภาพของลุงโฮในเสี้ยววินาทีแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศจะยังคงสถิตอยู่ในหัวใจของชาวเวียดนามรุ่นแล้วรุ่นเล่าตลอดไป ./.