อนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าที่ดีงามของมรดกวัฒนธรรมการร้องเพลงทำนอง “แทน”
Vinh Phong - VOV5 -  
(VOVWORLD) -การร้องเพลงทำนอง “แทน” คือมรดกวัฒนธรรมพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ เช่น ไต่ หนุ่งและไทในจังหวัดเขตเขาภาคเหนือเวียดนาม จากความประสงค์อนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าของมรดกนี้ ท้องถิ่นหลายแห่งได้จัดกิจกรรมต่างๆเพื่อสร้างสรรค์ศิลปะการร้องเพลงทำนองแทนกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีรูปแบบการแสดงหลากหลายและรื้อฟื้นเนื้อร้องที่สูญหายไป
อนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าที่ดีงามของมรดกวัฒนธรรมการร้องเพลงทำนอง “แทน” (Photo quangninh.gov.vn)
|
งานมหกรรมศิลปะการร้องเพลง “แทน”และพิณ “ติ๊ง” ทั่วประเทศครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดห่ายางเมื่อเร็วๆนี้ได้ดึงดูดการเข้าร่วมของศิลปินนับร้อยคนจาก 14 จังหวัดและนครทั่วประเทศ ในตลอดช่วงเวลาจัดงาน เสียงเพลงทำนอง “แทน” ประกอบด้วยเสียงพิณ “ติ๊ง” ของหมู่บ้านต่างๆทั่วจังหวัดห่ายางได้ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวและชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ
ศิลปินที่เข้าร่วมงานมีทุกเพศทุกวัย โดยผู้ที่อายุสูงที่สุดคือกว่า 90 ปี ส่วนศิลปินรุ่นเยาว์อายุน้อยที่สุดยังไม่ถึง 20 ปี ซึ่งสะท้อนการพัฒนาอย่างเข้มแข็งของศิลปะชนิดนี้ ศิลปิน เจิ่นแถ่งอาน อายุ 19 ปี จากคณธศิลปะจังหวัดกาวบั่งเผยว่า ตนได้เรียนการร้องเพลง “แทน” ตั้งแต่อายุ 14 ปี แม้เป็นชาวกิงแต่เมื่อ 5 ปีก่อน เขาก็เริ่มเรียนภาษาไตเพื่อสามารถเรียนการร้องเพลงแทนและเล่นพิณ ติ๊ง ได้ “ผมฟังการร้องเพลง “แทน” ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ทำให้ลีลาของเพลง “แทน” ได้ซึมซับเข้าในใจของผมจนเกิดความหลงใหลที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นตามอายุและผมไปหาครูสอนร้องเพลงแทน แม่ของผมเป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าไตที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกาวบั่ง ดังนั้นผมได้ฟังเพลงแทนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จึงช่วยให้การเรียนของผมง่ายขึ้น”
การร้องเพลง “แทน” คืออาหารทางจิตใจที่ขาดไม่ได้ของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตเขาภาคเหนือเวียดนาม โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยเผ่าไต หนุ่งและไท ดังนั้นในหลายปีที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวได้ประสานงานกับท้องถิ่นที่มีมรดกการร้องเพลง “แทน” จัดงานมหกรรมร้องเพลง “แทน” การเสวนาและการสัมมนาต่างๆเพื่อแสวงหาแนวทางอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าของมรดกนี้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณเจี่ยวถิติ่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดห่ายาง กรรมการจัดงานมหกรรมศิลปะการร้องเพลง “แทน” และพิณ “ติ๊ง” ครั้งที่ 6 เผยว่า “จิตสำนึกของประชาชนในการส่งเสริมศิลปะนี้ดีขึ้นเพราะในงานมหกรรมครั้งนี้ สามารถเห็นได้ว่า เพลง “แทน” โบราณหลายบทได้รับการอนุรักษ์อย่างดี ศิลปินอาวุโสได้สอนให้ศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินรุ่นใหม่ก็ได้สานต่ออย่างมีความรับผิดชอบและความหลงใหลอย่างลึกซึ้ง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเพลง “แทน” โบราญบางบทที่สูญหายไป จึงต้องเร่งวางแผนและหาแนวทางอนุรักษ์”
เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมมรดกการร้องเพลง “แทน” ตั้งแต่ปี 2012 – 2016 สมาคมศิลปะพื้นเมืองเวียดนามได้ประกาศรับรองศิลปินพื้นเมืองดีเด่นในการร้องเพลงแทนและตั้งแต่ปี 2015 ประธานประเทศได้ประกาศรับรองศิลปินยอดเยี่ยมให้แก่ศิลปินร้องเพลง “แทน” นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมนามธรรมและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพลง “แทน” เช่น ทำการตรวจสอบ กำหนดรูปแบบ แปรเอกสาร เรียบเรียงสะสม บันทึกเสียงและคลิปวิดีโอที่ร้องโดยศิลปินอาวุโส แปรภาษา ตีพิมพ์และสะสมสิ่งของวัตถุที่เกี่ยวข้องกับเพลง “แทน” เพื่อจัดแสดงและส่งเสริมคุณค่าของมรดกนี้ในพิพิธภัณฑ์ระดับท้องถิ่น พร้อมทั้งเปิดการสอนร้องเพลง “แทน” และพิธีกรรมในสถานที่ฝึกอบรมวัฒนธรรมศิลปะของจังหวัดที่มีเพลงทำนอง “แทน” ซึ่งช่วยให้ศิลปะการร้องเพลงแทนแพร่หลายในท้องถิ่นต่างๆนอกเหนือจาก 14 จังหวัดที่มีมรดกนี้
พิธีกรรม “แทน” คือหนึ่งในศิลปะวัฒนธรรมที่มีการผสานของรูปแบบวัฒนธรรมพื้นเมืองหลากหลายชนิด เช่น การขับกวีพื้นเมือง ดนตรี ศิลปะการแสดง ศิลปะการตกแต่ง ขนบธรรมเนียมประเพณีและความเลื่อมใสโบราณ เป็นต้น ดังนั้น การวิจัย อนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าของมรดกนี้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่คุณค่าวัฒนธรรมพื้นเมืองของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตเขาภาคเหนือเวียดนาม เช่น ไต หนุ่งและไท กำลังมีความเสี่ยงที่จะสูญหายไปในยุคแห่งการพัฒนาเป็นประเทศที่ทันสมัยและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม.
Vinh Phong - VOV5