2018 ปีแห่งการผลักดันความพยายามพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
Hong Van-VOV -  
(VOVWORLD) -ปี2018เป็นปีที่เวียดนามมีความพยายามอย่างเข้มแข็งและมีก้าวเดินใหม่ที่เด่นชัดในการปฏิบัติกระบวนการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงด้านจิตสำนึกและการปฏิบัติจากส่วนกลางถึงกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่น อันเป็นการมีส่วนร่วมเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงานของรัฐบาล การพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแห่งชาติ
ปฏิบัติการที่เข้มแข็งจริงจัง
เมื่อเทียบกับปี2017 การปฏิบัติกระบวนการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในปี2018ได้มีความคืบหน้าที่เข้มแข็งในหลายระดับเพื่อผลักดันการทำระเบียบราชการผ่านอินเตอร์เนตในท้องถิ่น โดยที่ถือว่าเด่นชัดที่สุดคือการเปิดตัวคณะกรรมการแห่งชาติดูแลการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ที่นายกฯเป็นประธานเพื่อทำหน้าที่วางยุทธศาสตร์ นโยบายและสร้างบรรยากาศทางนิตินัยที่สะดวกเพื่อผลักดันการพัฒนาไปสู่รัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล อำนวยความสะดวกให้แก่การเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0 นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกย้ำว่า“พวกเราอยากแสดงจิตใจและความมุ่งมั่นทางการเมืองในระดับสูงในการแก้ไขอุปสรรคต่างๆเพื่อให้กระบวนการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนามประสบความสำเร็จและยกระดับเป็นรัฐบาลดิจิทัลเพื่อรับใช้ประชาชนและภารกิจการพัฒนาและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิอย่างดีที่สุด”
ในปี2018 การปฏิบัติกระบวนการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและเป็นไปตามระบบมากขึ้นเช่นมีการจัดทำระบบศุลกากร ภาษี การจดทะเบียนสถานประกอบการแห่งชาติ รวมถึงการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในระบบราชการระหว่างกระทรวง จังหวัดและหน่วยงานต่างๆเกือบร้อยละ90 เช่นนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา งานทุกอย่างของสำนักรัฐบาลได้ทำผ่านระบบอินเตอร์เนต นายมายเตี๊ยนหยุง รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาลกล่าวว่า“ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามสามารถบรรลุมาตรการต่างๆด้านการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ สามารถสร้างฐานข้อมูลแห่งชาติเกี่ยวกับการบริหารสถานประกอบการ การประกันสังคมและการให้บริการงานราชการออนไลน์ในระดับที่4และที่3เช่นการจดทะเบียนสถานประกอบการและการแจ้งบัญชีภาษี เป็นต้น”
ประสิทธิภาพ
ปัจจุบันในเวียดนาม มีการให้บริการด้านระเบียบราชการต่างๆในระดับ3-4คือการทำระเบียบการและการรับผลออนไลน์ซึ่งดำเนินงานอย่างมีประสิทธิผลเช่นการทำระเบียบราชการของกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป กระทรวงคมนาคมขนส่ง หน่วยงานบริหารราชการของฮานอย เป็นต้น ซึ่งได้เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนเป็นอย่างมาก นายฟานแทงเซิน จากกลุ่มบริษัท เอฟพีที ประเมินว่า“โดยทั่วไปแล้วการให้บริการงานราชการออนไลน์มีประสิทธิผลมากขึ้น ประชาชนไม่จำเป็นต้องไปรอที่สำนักงานที่ทำการ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่าย รวมถึงลดเวลาสำหรับการชำระภาษีและการทำระเบียบศุลกากรเข้าออกสำหรับสินค้า ซึ่งช่วยส่งเสริมการประกอบธุรกิจให้พัฒนายิ่งขึ้น”
จากความพยายามที่เข้มแข็งในการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในปี2018 สหประชาชาติได้ระบุให้เวียดนามอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีดัชนีการให้บริการด้านระเบียบราชการออนไลน์และดัชนีระบบอิเล็กทรอนิกส์ในระดับสูง ช่วยให้เวียดนามเลื่อนขึ้น1อันดับด้านการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เมื่อเทียบกับการสำรวจของสหประชาชาติเมื่อปี2016 โดยเวียดนามอยู่อันดับที่88จาก193ประเทศและดินแดน ส่วนในกลุ่มอาเซียนเวียดนามอยู่อันดับที่6รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทยและบรูไน
การพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์คือแนวโน้มที่ต้องเกิดขึ้นตามยุคสมัย ดังนั้นความพยายามของเวียดนามในปีที่ผ่านมาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เวียดนามปฏิบัติเป้าหมายติด1ใน4ของอาเซียนด้านดัชนีการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของสหประชาชาติให้สำเร็จ.
Hong Van-VOV