(Báo Pháp Luật)

ในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า การทุจริตคอรัปชั่น การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยและการทำงานแบบเช้าชามเย็นชามเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อภารกิจการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราช เสรีภาพและสร้างสรรค์ประเทศ

ปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ถืองานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นมีบทบาทที่สำคัญต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศผ่านการปกป้องพรรค นิติรัฐสังคมนิยม การสร้างสรรค์รัฐบาลที่ดำเนินการอย่างมีประสิทธภาพ ยุติธรรม มีส่วนร่วมกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งและการบริการทางสังคมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การจัดทำระบบกฎหมายด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างพร้อมเพรียงและครบถ้วน

การจัดทำกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นได้รับความสนใจชี้นำปฏิบัติตั้งแต่การสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันคือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยในกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ แนวทางและนโยบายในด้านนี้นับวันถูกระบุอย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามมีแนวทางผลักดันการปรับปรุงกรอบกฎหมายนี้ให้พร้อมเพรียงและรอบด้าน ดังนั้น การประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 3 สมัยที่ 10 เมื่อปี 2006 ได้มีมติเกี่ยวกับการขยายการชี้นำของพรรคต่องานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ก่อนหน้านั้น นับเป็นครั้งแรกที่กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นปี 2005 ได้ระบุถึงการตรวจสอบทรัพย์สินและรายได้ของผู้ที่ดำรงตำแหน่งและมีอำนาจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจสอบทรัพย์สินและรายได้ของเจ้าหน้าที่บริหารและข้าราชการที่ปฏิบัติงานในกลไกการบริการสาธารณะกับสถานประกอบการและประชาชน

จากการปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างรอบด้านเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การประชุมมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เมื่อปี 2021 ได้สานต่อและพัฒนาทัศนะชี้นำและยึดมั่นแนวทางการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยด้วยความตั้งใจทางการเมืองในระดับสูง การปฏิบัติที่เข้มแข็ง เคร่งครัดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2022 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13 ได้ประกาศใช้มติที่ 27 เกี่ยวกับการเดินหน้าสร้างสรรค์และปรับปรุงนิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามในระยะใหม่  โดยระบุอย่างชัดเจนถึง 10 กลุ่มหน้าที่และมาตรการ รวมถึงการผลักดันงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น จัดทำกลไกการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นตั้งแต่เนิ่นๆอย่างเคร่งครัด

ในมุมมองของเอกสารกฎหมาย การปรับปรุงร่างกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นปี 2005 ในปี 2007 และปี 2012 ได้ช่วยจัดทำกลไกการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นอย่างรอบด้าน ล่าสุดนี้ ในการประชุมครั้งที่ 6 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 ได้อนุมัติร่างกฎหมายแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นปี 2018 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทางการเมืองระดับสูงของเวียดนามในภารกิจที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก “ไม่มีเขตต้องห้าม ไม่มีการยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นใคร” ซึ่ง ช่วยให้ระบบนโยบายและเอกสารกฎหมายในด้านนี้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนมากขึ้น

ยกระดับประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น

จากการเป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างสรรค์นิติรัฐ กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับกลไกและระบบกฎหมายเวียดนาม เอกสารแนะนำการบังคับใช้กฎหมายนี้ก็ได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์ครบถ้วน รวมถึงการตรวจสอบทรัพย์สินและรายได้ การยึดคืนทรัพย์สินจากคดีทุจริตคอร์รัปชั่น การปฏิรูประเบียบราชการ การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการบริหารและการชำระแบบไร้เงินสด

ปัจจุบัน เวียดนามกำลังผลักดันการปฏิบัติยุทธศาสตร์ระดับชาติเกี่ยวกับการป้องกันและปรามปรามการทุจริตคอรัปชั่นจนถึงปี 2030 อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นวิจัย ตรวจสอบ เพิ่มเติมและแก้ไขช่องโหว่ของกฎหมายด้านการบริหารเศรษฐกิจ สังคม  การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นเพื่อเสนอหน้าที่ที่เป็นรูปธรรมในแผนจัดทำร่างกฎหมายและกฤษฎีกาของสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 และสมัยที่ 16 ยกระดับประสิทธิภาพงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งนี่ไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาองค์กรพรรคให้บริสุทธิ์เข้มแข็ง ปกป้องพรรคและนิติรัฐสังคมนิยมและความโปร่งใสของความสัมพันธ์ทางสังคมเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามอีกด้วย

ทั้งนี้และทั้งนั้นแสดงให้เห็นว่า การสร้างสรรค์นิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นหน้าที่ที่เร่งด่วนในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในปัจจุบัน โดยการจัดทำกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนมีบทบาทที่สำคัญในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ.