ชนเผ่าซ๊านจี๋พัฒนาเศรษฐกิจ

(VOVWorld)-ในจังหวัด บั๊กยาง กว๋างนิงและท้ายเงวียนมีชนเผ่าซ๊านจี๋อาศัยอยู่ค่อนข้างมากซึ่งมีอาชีพหลักคือการปลูกธัญพืชในพื้นที่ลาดชันเช่นข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลังและปลูกแซมพืชไร่ประเภทถั่ว  มัน ฟัก  แต่ก็มีบางพื้นที่เหมาะกับการปลูกไม้ผลและสมุนไพร


(VOVWorld)-ในจังหวัด บั๊กยาง กว๋างนิงและท้ายเงวียนมีชนเผ่าซ๊านจี๋อาศัยอยู่ค่อนข้างมากซึ่งมีอาชีพหลักคือการปลูกธัญพืชในพื้นที่ลาดชันเช่นข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลังและปลูกแซมพืชไร่ประเภทถั่ว  มัน ฟัก  แต่ก็มีบางพื้นที่เหมาะกับการปลูกไม้ผลและสมุนไพร
ชนเผ่าซ๊านจี๋พัฒนาเศรษฐกิจ - ảnh 1
ชนเผ่าซ๊านจี๋มีอาชีพหลักคือการปลูกธัญพืชในพื้นที่ลาดชัน

การปลูกข้าวบนพื้นที่ลาดชันถือเป็นอาชีพหลักเพื่อเลี้ยงชีพของชาวซ๊านจี๋ โดยธัญญาหารส่วนใหญ่จะเป็นข้าว ข้าวโพดและยังมีการปลูกมันสำปะหลัง ถั่ว ฟักและมันเทศแซมในแปลงด้วย ส่วนอาชีพอื่นที่เป็นอาชีพเสริมก็มีการทำปศุสัตว์ หัตถกรรมและการค้าขาย แต่ปัจจุบันนี้การทำเกษตรกรรมของชาวซานจี๋ก็มีการเปลี่ยนแปลง ดร.ดั๋งถิฮวา รองหัวหน้าสถาบันเกี่ยวกับครอบครัวและเพศเผยว่า “สำหรับกลุ่มซ๊านจี๋ที่อาศัยในพื้นที่ที่ไม่ใช่เนินเขาพวกเขาทำการปลูกข้าวนาดำเป็นหลักโดยปลูกปีละสองฤดู เดี๋ยวนี้มีการนำพันธุ์พืชใหม่ๆที่ให้ผลผลิตสูงมาปลูกแซมเช่นพืชสมุนไพรหรือต้นลิ้นจี่ นอกจากนั้นยังมีการทำฟาร์มเลี้ยงไก่และหมูป่าเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว ซึ่งก็ถือเป็นแนวทางการพัฒนาเชิงสินค้าตามการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของท้องถิ่นที่เน้นการเพิ่มความหลากหลายด้านสินค้าเกษตร”
ปัจจุบันนี้ ชาวซ๊านจี๋ได้เปลี่ยนมาปลูกผลไม้เป็นหลักอย่างเช่นที่อ.หลุกหง่านจ.บั๊กยางมีหลายครอบครัวสามารถสร้างฐานะที่มั่งคั่งได้จากการปลูกลิ้นจี่เพื่อป้อนให้แก่ตลาดในประเทศและเพื่อการส่งออก นอกจากนั้นเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพชาวซ๊านจี๋ยังทำการศึกษาเรียนรู้และนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าช่วยเพื่อเพิ่มคุณภาพและผลผลิตของต้นลิ้นจี่ ควบคู่กันนั้นชาวซ๊านจี๋ยังรู้จักการใช้ประโยชน์จากแหล่งสมุนไพรธรรมชาติในป่า “ชาวซ๊านจี๋มีความรู้ด้านสมุนไพรดีดังนั้นการใช้สมุนไพรเพื่อทำเป็นยาชนิดต่างๆเพื่อส่งออกไปที่จีนและใต้หวันก็ถือเป็นอีกอาชีพที่สร้างรายได้สูงให้แก่ครอบครัว อย่างเช่นที่จ.กว๋างนิงนอกจากลิ้นจี่แล้วก็ขึ้นชื่อด้วยการปลูกสมุนไพรคือ ต้นยอม่วง มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ”
ชนเผ่าซ๊านจี๋มีความคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในธรรมชาติย่อมเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งสิ้น ดังนั้นพวกเขาจึงดูแลสุขภาพโดยการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคและมีประสบการณ์มากมายในการค้นหาและเก็บสมุนไพรในป่ามาต้มเป็นยาหรือดองเหล้าดื่มเพื่อบำรุงกำลังและป้องกันโรคบางอย่าง ดร.ดั๋งถิฮวา รองหัวหน้าสถาบันเกี่ยวกับครอบครัวและเพศกล่าวเสริมว่าในการปรุงยาแผนโบราณของชาวซ๊านจี๋นั้นใช้สมุนไพรประมาณ  200 ชนิด “แต่ก่อนนี้ชนเผ่าซ๊านจี๋จะเก็บสมุนไพรที่มีอยู่ในป่ามาทำเป็นยาใช้ในครอบครัวเท่านั้นแต่เมื่อรู้คุณค่าของยาสมุนไพรจึงทำกันเป็นอาชีพโดยเฉพาะชาวซ๊านจี๋ที่อยู่ในอำเภอเซินด่ง จังหวัดบั๊กยางมีรายได้ดีขึ้นจากการนำสมุนไพรในป่านับร้อยชนิดมาต้มเป็นกาวบำรุงกำลังให้สุภาพสตรีช่วยให้สตรีมีภูมิต้านทานดีขึ้น”
ปัจจุบันชาวซ๊านจี๋ไม่ได้พึ่งแหล่งสมุนไพรที่มีอยู่ในป่าอย่างเดียวเท่านั้นหากยังขยายการปลูกสมุนไพรเป็นแหล่งๆอย่างยั่งยืนทั้งในหมู่บ้านและในพื้นที่ป่าโล่ง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์พันธุ์สมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์เท่านั้นหากยังเป็นการพัฒนายาแผนโบราณของชนเผ่าตนเป็นอาชีพที่นำรายได้มาให้แก่ครอบครัวมากขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด