(VOVworld) –  จากการเป็นประเทศที่มีประชากรรุ่นใหม่ที่สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว เวียดนามจึงถูกมองว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ซึ่งนอกจากการผลักดันเทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์แล้ว สถานประกอบการจำนวนมากกำลังวางยุทธศาตสร์เพื่อผลิตซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพสูงภายใต้เครื่องหมายการค้าMade in เวียดนามเพื่อป้อนให้แก่ตลาดโลก

ปี๒๐๑๒ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของเวียดนามมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่เกือบร้อยละ๓๐(Photo:Internet)

(VOVworld) –  ปี๒๐๑๒ แม้ว่า เศรษฐกิจโลก รวมทั้งเวียดนามจะประสบความยากลำบาก การส่งออกในหลายด้านประสบภาวะชะลอตัว แต่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ยังคงมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่เกือบร้อยละ๓๐และสถานประกอบการบางแห่งก็มีอัตราการขยายตัวถึง๑๐๐% รวมทั้งเครือบริษัทFPTซึ่งเป็นหนึ่งในสถานประกอบการส่งออกซอฟต์แวร์ชั้นนำของเวียดนามโดยใน๖เดือนต้นปีมีอัตราการขยายตัวร้อยละ๓๐ ซึ่งญี่ปุ่นและสหรัฐยังคงเป็นตลาดใหญ่ของเวียดนาม สมาพันธ์ซอฟต์แวร์และการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศเวียดนามคือVINASAให้ข้อสังเกตุว่า โอกาสส่งออกซอฟต์แวร์ของเวียดนามยังคงเปิดกว้าง เช่น ทุกปี ตลาดญี่ปุ่นต้องว่าจ้างผลิตซอฟต์แวร์คิดเป็นมูลค่าประมาณ๑หมื่นล้านเหรียญสหรัฐแต่เมื่อปี๒๐๑๑ เครือบริษัทFPTสามารถตอบสองความต้องการได้เพียง๓๕ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้นและใน๖เดือนต้นปีนี้ เครือบริษัทFPTและสถานประกอบการหลายแห่งก็มีสัญญารับว่าจ้างจากลูกค้าต่างชาติที่มีศักยภาพ คิดเป็นมูลค่านับสิบล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี ถ้ารับว่าจ้างอย่างเดียว มูลค่าที่ได้จากสัญญาเหล่านี้จะไม่สูงนัก ดังนั้น สถานประกอบการจำนวนมากหันมาเน้นการศึกษาวิจัยออกแบบผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์แบบบูรณาการ เช่น บริษัทGlobal Cyber Soft  ขณะที่เพิ่งได้รับการจัดตั้งใหม่ๆก็ให้ความสนใจรับจ้างผลิตซอฟต์แวร์แต่หลังจากหันมาเน้นการผลิตซอฟต์แวร์เพื่อส่งออกก็สามารถประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ และมีบรรดาผู้ขายปลีกที่มีชื่อเสียงของโลกได้ใช้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์บริหารระบบการขายปลีกMade in เวียดนามของบริษัท นายNgô Văn Toàn ผู้จัดการบริษัทกล่าวว่า“ทางบริษัทได้เข้าร่วมกระบวนการผลิตซอฟต์แวร์อย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้ บรรดานักวิชาการของบริษัทยังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นความพยายมของบริษัทเพื่อเพิ่มมูลค่าและองค์ความรู้ในกระบวนการผลิตซอฟต์แวร์”

ญี่ปุ่นและสหรัฐยังคงเป็นตลาดใหญ่ของเวียดนาม(Photo:Internet)

ส่วนบริษัท TMA ได้เน้นพัฒนาซอฟต์แวร์ให้แก่โทรศัพท์มือถือ tablet อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆและซอฟต์แวร์สำหรับด้านโทรคมนาคม นายTrần Hồng ผู้จัดการธุรกิจบริษัทTMAเผยว่า“ใน๓ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะของตน และผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับความนิยมในตลาดใหญ่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ในการบริหารโทรคมนาคมที่ได้รับการลงทุนในกว่า๒ปีที่ผ่านมาและมีลูกค้ายุโรปและออสเตรเลียใช้ซอฟต์แวร์ของเรามาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา”   จากแนวทางการพัฒนาดังกล่าว ปัจจุบันนี้ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เครื่องหมายการค้าmade in เวียดนามเป็นที่รู้จักกันดีของบรรดาลูกค้าต่างชาติ  สำหรับบริษัทซอฟต์แวร์BKAV ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จในตลาดภายในประเทศก็รู้จักใช้ประโยชน์โอกาสเพื่อนำผลิตภัณฑ์ของตนออกสู่ตลาดโลก นายNguyễn Minh Đức ผู้จัดการฝ่ายความมั่นคงเครือข่ายBKAV เผยว่า“หน่วยงานซอฟต์แวร์มีความได้เปรียบกว่าหน่วยงานอื่นๆคือ ถ้าพวกเราอยากเจาะตลาดไหน พวกเราก็สามารถหารือกับลูกค้าและประชาสัมพันธ์ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือช่องทางประชาสัมพันธ์ที่แตกต่างกันได้ คาดว่า พวกเราจะเจาะตลาดสหรัฐก่อนเพราะเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้ซอฟต์แวร์สูง”

เวียดนามมีศูนย์ซอฟต์แวร์ใหญ่๒แห่ง(Photo:Internet)

จากการตระหนักว่า นี่เป็นหน่วยงานที่มีโอกาสมากมายในการพัฒนา ดังนั้นในยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ รัฐบาลก็ได้ประกาศใช้แนวทาง นโยบายให้สิทธิพิเศษต่างๆเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์พัฒนา ปัจจุบันในเวียดนามมีศูนย์ซอฟต์แวร์ใหญ่๒แห่งคือ ศูนย์ซอฟต์แวร์ของบริษัทFPT ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคLáng Hòa Lacในกรุงฮานอยและศูนย์ซอฟต์แวร์Quang Trung ในนครโฮจิมินห์ซึ่งนับเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าที่สำคัญเพื่อให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่มีส่วนร่วมให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ./.