(VOVworld) –  เมื่อปี๒๐๑๔ เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอในด้านอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นร้อยละ๔๐ของยอดเงินลงทุนของทั้งประเทศและอสังหาริมทรัพย์อยู่อันดับ๒ในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติรองจากอุตสาหกรรมแปรรูปและผลิตซึ่งจากปัจจัยที่สะดวกในปัจจุบัน อสังหาริมทรัพย์กำลังเป็นด้านที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ

อสังหาริมทรัพย์ยังตงเป็นด้านทที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจลงทุน

ตามรายงานจากกรมการลงทุนจากต่างประเทศแห่งกระทรวงวางแผนและการลงทุน ในเวลา๑๑เดือนของปี๒๐๑๔ นักลงทุนต่างชาติได้จดทะเบียนลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในเวียดนามรวม๓๒โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียน๑๗.๓๓พันล้านเหรียญสหรัฐ นายซื๋อหงอกเคือง ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า“ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังอยู่ในช่วงขาลง ดังนั้น โอกาสเข้าร่วมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติจึงสูงมากและแหล่งเงินทุนเอฟดีไอก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยโดยญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลีและสิงคโปร์เป็นประเทศเอเชียที่ให้ความสนใจลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนามมากที่สุด”

ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเผยว่า ปี๒๐๑๕  บรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงสนใจลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ต่อไปเพราะตลาดนี้มีการขยายตัวและเริ่มฟื้นตัว โอกาสในเวลาข้างหน้าก็มีมากเพราะ เวียดนามจะเข้าร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีและกลุ่มการค้าเสรีต่างๆ นอกจากนี้ กฎหมายที่อยู่อาศัยฉบับแก้ไข กฎหมายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการผ่อนผันข้อกำหนดต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนาม นายเหงวียนหิวเกื่อง หัวหน้าสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฮานอยกล่าวว่า“กฎหมายอนุญาตให้นักลงทุน นักธุรกิจ องค์กรต่างชาติซึ่งหมายความว่า ขยายเป้าหมายที่สามารถซื้อและถือกรรมสิทธิที่อยู่อาศัย ดังนั้น ปี๒๐๑๕จะเป็นปีที่องค์กรต่างชาติเข้าร่วมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามเป็นจำนวนมาก”

นอกจากการดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอแล้ว อสังหาริมทรัพย์ยังเป็นด้านที่ดึงดูดใจชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนด้วยซึ่งคิดเป็นร้อยละ๒๐ของจำนวนเงินที่ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศส่งกลับในทุกๆปี โดยเฉพาะ เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐซึ่งจะทำให้เงินลงทุนของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศในด้านนี้จะเพิ่มขึ้นในเวลาข้างหน้า นายเหงวียนห่งเซินหัวหน้าแผนกกำหนดราคาและให้คำปรึกษาด้านการเงินของบริษัทซาวิลล์ฮานอยกล่าวว่า“พวกเรากำลังผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างเข้มแข็ง ควบคู่กันนั้นคือคำมั่นของรัฐบาลในการผ่อนผันระเบียบราชการและผสมผสานอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น ดังนั้น พวกเราเห็นว่า ไม่เพียงแต่แหล่งเงินทุนเอฟดีไอเท่านั้นหากแหล่งเงินทุนภายในประเทศก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกันเพราะบรรดานักลงทุนและธนาคารได้เตรียมพร้อมแหล่งลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์แล้วโดยรอแค่โอกาสที่เอื้ออำนวยเท่านั้น”

ทั้งนี้ ถึงแม้จะไม่อาจยืนยันได้ว่า อสังหาริมทรัพย์จะสามารถสร้างก้าวกระโดดในการดึงดูดเงินทุนจากต่างชาติได้หรือไม่แต่จากการฟื้นตัวในปัจจุบันพร้อมระเบียบและนโยบายที่เพิ่งประกาศใช้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะสามารถแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อก และจะฟื้นตัวในปี๒๐๑๕และปีต่อๆไป./.