(VOVWORLD) -ในความพยายามปฏิบัติยุทธศาสตร์ “ Make in Vietnam” Querychat ซึ่งเป็นบริการที่ใช้จุดเด่นจากระบบคลาวด์ของบริษัท Got It ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในวงการเทคโนโลยีสารสนเทศ หลังการเปิดตัวเป็นเวลา 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2019 ถึงขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญของทางบริษัทฯ ได้พัฒนา Querychat ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อตอบสนองการของยุคใหม่
ทีมงานของ GotIt! ในสหรัฐ (khoahoc&phattrien) |
ในช่วงที่เริ่มทำตลาด จุดแข็งของ Querychat คือระบบสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลภายในสถานประกอบการที่สามารถสั่งการด้วยเสียงโดยระบบ Querychat สามารถตอบคำถามต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลของบริษัทจากฐานข้อมูลที่ป้อนไว้ โดยผู้ใช้งานแค่ถามคำถามด้วยปากเปล่าเท่านั้น ซึ่งสะดวกกว่าการต้องเดินไปถามข้อมูลตามแผนกต่าง ๆ และช่วยแก้ไขข้อจำกัดเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดในการค้นหา และปัจจุบัน ทางบริษัทฯ ได้พัฒนาความสามารถของ Querychat ให้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานมากขึ้น นาย เลแองหยุง ผู้ที่ดูแล Got It AI เวียดนาม และเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาของ Got It กล่าวว่า
“เราเห็นศักยภาพของตลาดใหม่ในตอนที่เราพัฒนา Querychat นั่นคือ ระบบConversation AI ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าได้แบบอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น ในแผนกลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทอี – คอมเมิร์ซ จะต้องตอบคำถามต่างๆ ของลูกค้าที่ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นคำถามที่ซ้ำ ๆ กัน ซึ่งเรื่องนี้สามารถนำระบบอัตโนมัติ Conversation AI มาใช้จัดการได้ โดยสามารถลดปริมาณงานของแผนกลูกค้าสัมพันธ์ได้มากถึงร้อยละ 90.”
นาย เลแองหยุง เผยต่อไปว่า ผลิตภัณฑ์นี้ของทางบริษัท Go It สามารถใช้งานได้ดีในภาษาอังกฤษและทางบริษัทฯ กำลังพัฒนาและเดินหน้าหาลูกค้าในตลาดสหรัฐ จนถึงขณะนี้ Conversation AI มีลูกค้ารายใหญ่ๆ แล้ว รวมทั้งบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป
“เป้าหมายของเราคือมุ่งสู่ตลาดโลก ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ของเราต้องสามารถใช้งานผ่านภาษาต่างๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ใช้พื้นฐานของระบบ Chatbot ที่ปัจจุบันมีแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ถ้าหากบริษัทสตาร์ทอัพใดต้องการพัฒนาเป็นบริษัทระดับ ก่อนอื่นต้องเจาะตลาดสหรัฐให้ได้ก่อน นั่นคือสาเหตุที่เรากำลังใช้พลังทุกแหล่งเพื่อเจาะตลาดสหรัฐ ต่อจากนั้น เราจะขยายไปยังตลาดอื่นๆ ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ”
สำนักงานของบริษัทฯ ที่ฮานอย ( genk.vn) |
สำหรับบริษัท Got It AI เวียดนาม ถ้าหากประสบความสำเร็จในตลาดสหรัฐ ก็จะสามารถพัฒนาเป็นบริษัทระดับโลกได้อย่างยั่งยืน นาย เลแองหยุง แสดงความเชื่อมั่นว่า
“ผมมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของผลิตภัณฑ์ Got It AI ในตลาดสหรัฐเพราะว่า ขณะนี้ในทั่วโลกยังไม่มีผลิตภัณฑ์เหมือนที่เรากำลังพัฒนา ส่วนเรื่อง Chatbot ขณะนี้มีหลายบริษัทในทั่วโลกให้บริการแล้ว แต่การจะนำไปใช้งานในบริษัทสักแห่งก็ต้องใช้เวลาและแรงงานไม่น้อย แต่โปรแกรม Conversation AI ของบริษัทเราแค่ป้อนประวัติข้อมูลการสนทนากับลูกค้าเท่านั้นก็สามารถตอบคำถามต่าง ๆ ของลูกค้าได้ทันที”
ปัจจุบันแอพ Conversation AI ของ Got It คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลลูกค้าแบบอัตโนมัติ แต่ในอนาคต ทางบริษัทฯ ได้วางแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ให้มีความสามารถที่เพิ่มมากขึ้น
“พวกเราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ของ Got It AI ให้เป็นระบบตอบคำถามอัตโนมัติที่สามารถตอบได้ทุกคำถาม รวมทั้งสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เช่น ผู้ใช้สามารถถามความคิดเห็นของ Chatbot เกี่ยวกับเนื้อหาในหนังสือเรื่องหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องมีแหล่งบุคลากรที่เหมาะกับงาน โดยเรากำลังพยายามหานักศึกษายอดเยี่ยมในมหาวิทยาลัยชั้นนำของเวียดนามเข้ามาทำงาน พร้อมทั้งดึงดูดผู้ที่มีทักษะความสามารถของบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ในทั่วโลกอีกด้วย”
แอพฯ Conversation AI ของบริษัท |
จากการมีวิศวกรที่ส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนาม แอพฯ Conversation AI ของบริษัทถือเป็นการแสดงให้เห็นเกี่ยวกับความพยายามของสตาร์ทอัพเวียดนามเพื่อแปรความฝัน “Make in Vietnam” ให้กลายเป็นความจริง
“ในฐานะทำงานด้านเทคโนโลยี ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่รัฐบาลมียุทธศาสตร์ที่ถูกต้องในการแนะแนวให้บริษัทด้านเทคโนโลยีปฏิบัติตามแนวทาง Make in Vietnam พวกเรากำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ดังกล่าว Make in Vietnam มีศักยภาพสูง จากการมีบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวนมาก เราควรคิดเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ Make in Vietnam โดยเน้นวิจัยเพื่อปรับปรุงให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีความสมบูรณ์และขายดี”
ด้วยคำขวัญ “เมื่อทำก็ต้องทำอย่างสุดความสามารถ” ทีมผู้เชี่ยวชาญ ของ Got It AI เวียดนามกำลังพยายามเดินไปสู่ยอดแห่งความสำเร็จต่าง ๆ ในด้านเทคโนโลยี และนำนวัตกรรมและสติปัญญาของคนเวียดนามไปสู่ตลาดโลก.