รัฐสภาอภิปรายครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไข
(VOVworld) – บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้ชื่นชมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ได้มีความพยายามในการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และแสดงความคิดเห็นต่อข้อกำหนดว่าด้วยการตรวจสอบอำนาจ บทบาทของสถานประกอบการและระเบียบการดำเนินงานของรัฐสภา รวมทั้งข้อกำหนดเกี่ยวกับที่ดิน
(VOVworld) – ในการอภิปรายวันที่๕เดือนนี้ ก่อนที่รัฐสภาอนุมัติร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไข บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้ชื่นชมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ได้มีความพยายามในการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และแสดงความคิดเห็นต่อข้อกำหนดว่าด้วยการตรวจสอบอำนาจ บทบาทของสถานประกอบการและระเบียบการดำเนินงานของรัฐสภา รวมทั้งข้อกำหนดเกี่ยวกับที่ดิน
|
ผู้แทนรัฐสภาแสดงความเห็นในที่ประชุม |
เกี่ยวกับระเบียบการตรวจสอบอำนาจ นายหวี่งหงอกด๊างผู้แทนรัฐสภาจังหวัดบิ่งเยืองกล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขระบุว่า อำนาจรัฐมีเอกภาพ มีการแบ่งงาน การประสานและการตรวจสอบระหว่างสำนักงานต่างๆของรัฐในการปฏิบัติอำนาจนิติบัญญัติ บริหารชี้นำและตุลาการซึ่งเป็นเนื้อหาที่สำคัญโดยการตรวจสอบระหว่างสำนักงานต่างๆของรัฐในการปฏิบัติอำนาจต่างๆดังกล่าวเป็นจุดใหม่ที่มีความก้าวหน้า“ผมเห็นชอบการตรวจสอบอำนาจรัฐ อย่างไรก็ดี ปัญหานี้ยังไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในบรรพอื่นๆ ผมขอเสนอว่า ควรเพิ่มเติมข้อกำหนดที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการตรวจสอบระหว่างสำนักงานต่างๆของรัฐในบรรพและมาตราเกี่ยวกับประธานประเทศ รัฐบาลและศาล”
ข้อกำหนดเกี่ยวกับที่ดินก็เป็นเนื้อหาที่ผู้แทนรัฐสภาจำนวนมากให้ความสนใจซึ่งนายบุ่ยแหม่งหุ่ง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดบิ่งเฟื๊อกกล่าวว่า ที่ดินคือทรัพยากรพิเศษของประเทศดังนั้น ร่างรัฐธรรมนูญระบุว่า ที่ดินได้รับการบริหารตามแผนพัฒนาและตามกฎหมายจึงยังไม่ถูกต้องเพราะถ้ากำหนดเช่นนี้ก็หมายความว่า บทบาทของการวางแผนพัฒนาเท่ากับบทบาทของกฎหมาย นอกจากนี้ การวางแผนพัฒนาที่ขาดแบบแผนและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงจะทำให้การใช้ที่ดินไม่เกิดประโยชน์ อีกด้านหนึ่ง เวียดนามกำลังสร้างสรรค์นิติรัฐสังคมนิยม นายบุ่ยแหม่งหุ่งกล่าวว่า “ผมขอเสนอให้ยกเลิกส่วนวางแผนพัฒนาในเนื้อหาเกี่ยวกับการบริหารที่ดินในร่างรัฐธรรมนูญ ปัญหาวางแผนพัฒนาและแผนใช้ที่ดินควรให้กฎหมายที่ดินกำหนด เกี่ยวกับสิทธิและ ภาระหน้าที่ขององค์กรและบุคคลที่รัฐมอบสิทธิการใช้ที่ดิน ผมเห็นว่า สิทธิใช้ที่ดิน ที่จริง คือสิทธิด้านทรัพย์สิน ดังนั้น รัฐธรรมนูญควรยืนยันสิทธิการใช้ที่ดินเป็นสิทธิด้านทรัพย์สินเพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่การวางแผนพัฒนาและเวนคืนที่ดิน อีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้ที่ดินต้องมีหน้าที่ใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพไม่ปล่อยให้ที่ดินรกร้างว่างเปล่าหรือสิ้นเปลือง เกี่ยวกับการเวนคืนที่ดิน รัฐธรรมนูญควรกำหนดว่า รัฐสภาและสภาประชาชนระดับจังหวัดเป็นสำนักงานตัวแทนของประชาชนในการพิจารณาถึงการเวนคืนที่ดิน”
ผู้แทนหลายท่านได้แสดงความเห็นพ้องกับส่วนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและชนเผ่าในร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข นาย เหงวียนแยงอุ๊ต ผู้แทนรัฐสภาจ.เกียนยางเสนอให้มีการระบุชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับงานด้านชนเผ่าเนื้อหาเกี่ยวกับงานด้านชนเผ่าได้ถูกระบุในบรรพหลายบรรพของร่างรัฐธรรมนูญซึ่งได้รับการชื่นชมจากพี่น้องชนเผ่าต่างๆโดยเฉพาะส่วนที่ระบุถึงชนกลุ่มน้อยเพราะเป็นแนวทางที่สำคัญของนโยบายโดยให้ระบุว่าทุกชนเผ่าร่วมเป็นประชาชาติเดียวในประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
สำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ติดตามการประชุมหารือของรัฐสภาในครั้งนี้ได้แสดงความเห็นว่า การปฏิบัติและปกป้องรัฐธรรมนูญจะต้องยึดเป้าหมายประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม ผู้มีสิทธิ์หมากญือมาย ที่อ.เดี๋ยนบ่านจ.กว๋างนามได้เห็นพ้องกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์นิติรัฐสังคมนิยมที่ระบุในร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข โดยเฉพาะเนื้อหา3ประเด็นใหญ่คือ รัฐธรรมนูญกับโครงสร้างอำนาจ รัฐธรรมนูญกับสิทธิมนุษยชนและพลเมือง บทบาทการนำของพรรคและระเบียบการปกป้องรัฐธรรมนูญผมเห็นว่าความคิดเห็นของผู้แทนรัฐสภาที่เสนอในที่ประชุมนั้นสอดคล้องกับสถานการณ์ของสังคมปัจจุบัน ซึ่งจากการแก้ไขนั้น รัฐสภาต้องให้ความสนใจเพื่อให้รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ตามสถานการณ์ของประเทศและของโลกเพื่อรับใช้ประชาชนและเพื่อพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง
ส่วนนายกาวหงอกเติม ประธานแนวร่วมนครญาจางเสนอให้ผู้แทนรัฐสภาให้ความสนใจหารือเกี่ยวกับบทบาทของแนวร่วมปิติภูมิเวียดนามในร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพื่อให้แนวร่วมส่งเสริมบทบาทหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้น เป็นองค์กรการเมืองของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างสรรค์สังคมแห่งประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม นายกาววันหว่าย ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในฮานอยเห็นว่า รัฐธรรมนูญควรระบุอย่างชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบในการเป็นตัวแทนของประชาชน เรียกร้องให้สำนักงานของรัฐและข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี ยกระดับประสิทธิภาพการพบปะกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง รวบรวมความเห็นของประชาชนอย่างเปิดเผยและมีประชาธิปไตย ผลักดันกการสนทนาโดยตรงระหว่างสำนักงานภาครัฐและประชาชนเพื่อสร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในสังคม./.