(VOVworld)- ในโอกาสเข้าร่วมสัปดาห์สุดยอดเอเปก2015 ณ ฟิลิปปินส์ ประธานประเทศเจืองเติ้นซางและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้เป็นสักขีพยานพิธีลงนามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยในแถลงการณ์รวม47ข้อได้มีการย้ำอีกครั้งถึงบทบาทเป็นแกนกลางของอาเซียนในการเสริมสร้างและธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันในการกระชับความร่วมมือให้สอดคล้องกับคำมั่นต่างๆของอาเซียนเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประชาคมที่มีการเคลื่อนไหวบนพื้นฐานของกฎหมายและมาตรฐานคุณค่าร่วมเช่นเดียวกับการสร้างสรรค์ภูมิภาคที่สามัคคี สันติภาพ เสถียรภาพและยั่งยืน ร่วมแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบด้านความมั่นคงแบบบูรณการ เพื่อปฏิบัติวิสัยทัศน์แห่งความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ รัฐบาลทั้งสองประเทศจะให้ความร่วมมือใน7ด้านหลักได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคงการป้องกันประเทศและตุลาการ การปฏิบัติกฎหมาย ทะเลและมหาสมุทร วัฒนธรรม-สังคม วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี ความร่วมมือพหุภาคี

ผู้นำทั้งสองประเทศเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฟิลิปปินส์

ด้านความร่วมมือทางการเมือง จะมีการเพิ่มจำนวนและรูปแบบการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับและมุ่งสู่การเปิดโทรศัพท์สายด่วนระหว่างผู้นำระดับสูงของสองประเทศ

ในด้านเศรษฐกิจ พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าการบริการและการลงทุนให้สูงขึ้นในโอกาสรำลึกครบรอบ40ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี2016

ด้านความร่วมมือการรักษาความมั่นคง การป้องกันประเทศ ตุลาการและการปฏิบัติกฎหมาย ทั้งสองฝ่ายธำรงการประชุมประจำปีกลุ่มปฏิบัติงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านกลาโหมเวียดนาม-ฟิลิปปินส์ ผลักดันการปฏิบัติกลไกความร่วมมือที่มีอยู่เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกองกำลังทหารต่างๆของสองประเทศเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถของทั้งสองฝ่ายในการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงทั้งเก่าและใหม่โดยเฉพาะการก่อการร้ายระหว่างประเทศและอาชญากรรมข้ามชาติ ยืนยันคำมั่นไม่อนุญาตให้องค์กรหรือบุคคลใดๆใช้ดินแดนของประเทศตนเพื่อทำการเคลื่อนไหวก่อความเสียหายให้แก่อีกฝ่าย

สำหรับความร่วมมือทางทะเลและมหาสมุทร ผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงร่วมมือระหว่างตำรวจทะเลเวียดนามและกองกำลังป้องกันชายฝั่งฟิลิปปินส์ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆของทั้งสองประเทศ ส่งเสริมกลไกความร่วมมือในด้านการประมง ความร่วมมือทางทะเลในทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของกฎหมายของแต่ละประเทศและกฎหมายสากล

ด้านความร่วมมือพหุภาคี ทั้งสองประเทศเห็นพ้องผลักดันความร่วมมือประสานงานและสนับสนุนกันในกลไกความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เหมาะสมเช่นเดียวกับการที่จะพยายามแปรวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี2025ให้เข้าสู่ชีวิต เสริมสร้างบทบาทเป็นแกนกลางของอาเซียนในโครงสร้างที่หลากหลายของภูมิภาค ยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นในการแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ ค้ำประกันความปลอดภัยในการเดินเรือและบินบินในทะเลตะวันออกที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี1982 ไม่ใช้กำลังหรือขู่ที่จะใช้กำลังตลอดจนไม่มีปฏิบัติการที่เพิ่มความซับซ้อนให้แก่สถานการณ์ในภูมิภาค.