พายเรือคายัคล่องสำรวจถ้ำฟองญา-แก๋บ่าง

จังหวัดกว๋างบิ่งห์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น"อาณาจักร"แห่งถ้ำ โดยมีถ้ำน้อยใหญ่มากกว่า 300 แห่งที่มีความงามอย่างลึกลับและน่ามหัศจรรย์ เช่น ถ้ำเซินด่อง (Son Doong) ถ้ำฟองญา(Phong Nha) ถ้ำเทียนเดื่อง (Thien Duong) ถ้ำแอ๊น  (En) เป็นต้น ซึ่งห่างจากเมือง ด่งเฮ้ย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 50 กม. ห่างจากเมืองหลวงฮานอยไปทางใต้ประมาณ 500 กม. อุทยานแห่งชาติ ฟองญาแก๋บ่าง (Phong Nha Ke Bang) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาเจื่องเซิน ในอำเภอโบ๊แจก จังหวัดกว๋างบิ่งห์ ได้รับการรับรองจากองค์การวิทยาศาสตร์ การศึกษา และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก นี่เป็นหนึ่งในพื้นที่ภูเขาหินปูนที่กว้างที่สุดในโลกด้วยพื้นที่กว่า 200,000 เฮกตาร์ จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้คือมีระบบภูเขาหินปูนอายุนับล้านปีที่มีถ้ำมากกว่า 300 แห่งและระบบแม่น้ำใต้ดินที่ซับซ้อน โดยระบบถ้ำในท้องถิ่นนี้สวยงามอย่างน่ามหัศจรรย์ยิ่งด้วยหินงอกหินย้อยธรรมชาติขนาดยักษ์ หินที่ถูกกัดเซาะจากน้ำจนเป็นรูปทรงพิเศษมากมาย และตั้งแต่ต้นปี 2022 ศูนย์บริการการท่องเที่ยวฟองญา - แก๋บ่าง ได้เปิดบริการการท่องเที่ยวใหม่คือการค้นคว้าความลึกลึกลับของถ้ำฟองญาโดยเรือคายัค คุณเหงวียนเฟืองแทง นักท่องเที่ยวจากจังหวัดเหงะอานและคุณเหงวียนจูงแถ่งชาวนครเถื่อเทียนเว้ ที่เข้าร่วมกิจกรรมทัวร์ค้นคว้าเมืองกว๋างบิ่งห์เผยว่า

"ดิฉันเคยเที่ยวฟองญามาก่อนแล้วและหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมทัวร์ครั้งใหม่นี้ ก็รู้สึกว่านี่เป็นการเดินทางที่สามารถเก็บประสบการณ์แตกต่างจากครั้งก่อนมาก เราสามารถสัมผัสธรรมชาติได้เต็มที่และได้ค้นพบมุมมองใหม่ของฟองญา"

"ผมทราบข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำฟองญา ถ้ำเซินด่องและถ้ำแอ๊นมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้พาครอบครัวไปเที่ยวถ้ำฟองญา ยอดเยี่ยมมาก ส่วนการบริการที่นี่ก็ดีมากเช่นกัน"

ในทัวร์สำรวจถ้ำฟองญา นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกิจกรรมการพายเรือคายัคล่องไปตามแม่น้ำใต้ดินที่ยาวที่สุดในโลกเพื่อชมหินงอกหินย้อย ชมความงามของถ้ำและตัวอักษรของชาวจามปาโบราณที่ถูกแกะสลักบนหน้าผาในถ้ำ  สำรวจป่าดึกดำบรรพ์ฟองญา-แก๋บ่างและพักแรมริมลำธาร นายหว่างจูงแถ่ง รองหัวหน้าฝ่ายการค้าศูนย์การท่องเที่ยวฟองญา-แก๋บ่าง กล่าวว่านี่คือจุดนัดพบที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัยและหลงใหลในการค้นคว้าสิ่งแปลกใหม่ของธรรมชาติ"ศูนย์ท่องเที่ยวฟองญา-แก๋บ่างเปิดบริการทัวร์นี้เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่การท่องเที่ยวและช่วยให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสสำรวจถ้ำในตอนกลางคืน ก่อนหน้านี้เมื่อมาเยือนฟองญา ผู้มาเยือนไม่ค่อยอยากที่จะอยู่ต่อในตอนกลางคืนเพราะไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำ ดังนั้น ในตอนนี้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฟองญา กว๋างบิ่งห์ จะมีทางเลือกมากขึ้นคือตอนกลางวันมี 2 รูปแบบทัวร์ และตอนกลางคืนมีอีก 1 รายการทัวร์"

ถ้ำเซินด่อง

นอกจากระบบถ้ำที่ฟองญา-แก๋บ่างแล้ว ที่กว๋างบิ่งห์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีถ้ำที่มีชื่อเสียงอีกแห่งคือถ้ำเซินด่องซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกโดยชาวบ้านเมื่อปี 1990 และในปี 2009 คณะสำรวจถ้ำ British Vietnam Caving Expedition นำโดย นาย Howard Limbert ได้เข้าไปสำรวจภายในและหลังจากนั้นในปี 2009คณะสำรวจร่วมกับนิตยสาร National Geographic ได้ประกาศให้ถ้ำเซินด่องเป็นถ้ำหินปูนธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2013 ถ้ำเซินด่องได้รับการบันทึกโดย กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ว่าเป็นถ้ำธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้ำมีความยาวรวมเกือบ 9 กม. กว้างราว160 เมตร สูงถึง 200 เมตร อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ถ้ำเซินด่องมีความพิเศษและเป็นที่จับตาสนใจของคนทั่วโลกก็คือมีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์อยู่ภายในถ้ำ มีหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่จำนวนมาก ที่สูงกว่า 80 เมตร มีป่าดึกดำบรรพ์ที่กำลังพัฒนา มีสภาพอากาศที่แตกต่างรวมถึงมีแม่น้ำในถ้ำที่ยังไม่มีใครสามารถสำรวจถึงจุดสิ้นสุด ซึ่งนิตยสารวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับโลก Smithsonian ได้จัดอันดับถ้ำเซินด่องเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 21 ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวในการสำรวจและการผจญภัย นาย หวูด๋ายทั้ง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคจังหวัด กว๋างบิ่งห์ กล่าวว่า"นิตยสารท่องเที่ยวทั่วโลกได้จัดอันดับจังหวัดกว๋างบิ่งห์เป็นหนึ่งใน 29 จุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดที่สุดในโลกโดย และกว๋างบิ่งห์ยังติดอันดับต้น ๆ ของประเทศในด้านการท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน การปรับปรุงสภาพแวดล้อมด้านการท่องเที่ยว การยกระดับคุณภาพของบริการด้านการท่องเที่ยวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา"

ในช่วงกลางปี 2022 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ผู้บริหารของจังหวัดกว๋างบิ่งห์และผู้เชี่ยวชาญของคณะสำรวจถ้ำของอังกฤษได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในงานวิจัยและสำรวจถ้ำในกว๋างบิ่งห์ ซึ่งความพยายามของสมาคมสำรวจถ้ำแห่งสหราชอาณาจักรได้มีส่วนทำให้จังหวัด กว๋างบิ่งห์ เป็นที่รู้จักในนาม "อาณาจักรแห่งถ้ำ" และสามารถสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักในแผนที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติทั้งในและต่างประเทศ./.