เวียดนามส่งเสริมและค้ำประกันสิทธิมนุษยชนตามข้อเสนอของสภาสิทธินุษยชนแห่งสหประชาชาติ
Thu Hoa -  
(VOVWORLD) - เวียดนามกำลังพยายามปฏิบัติข้อเสนอต่างๆตามกลไกการตรวจสอบเป็นประจำหรือ UPR รอบที่ 3 ของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอย่างสมบูรณ์และจริงจังจนประสบความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในการส่งเสริมการค้ำประกันสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในด้านแรงงาน สังคมและความเสมอภาคทางเพศ ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การปฏิบัติวิสัยทัศน์ แนวทางและ ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในทุกด้านบนเจตนารมณ์ “ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”
แม้ได้ดำเนินงานมาแค่กึ่งวาระ แต่เวียดนามก็ได้ประสบผลงานที่น่ายินดีในการค้ำประกันและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในด้านแรงงาน สังคมและความเสมอภาคทางเพศ (baoquocte.vn) |
เมื่อเดือนมกราคม ปี 2019 เวียดนามได้เห็นพ้องกับข้อเสนอ 241 ข้อตามกลไก UPR รอบที่ 3 และได้ปฏิบัติข้อเสนอต่างๆอย่างพร้อมเพรียง แม้ได้ดำเนินงานมาแค่กึ่งวาระ แต่เวียดนามก็ได้ประสบผลงานที่น่ายินดีในการค้ำประกันและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในด้านแรงงาน สังคมและความเสมอภาคทางเพศเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในภูมิภาค
สำหรับการปรับปรุงกรอบทางนิตินัยและนโยบายด้านแรงงาน ประมวลกฎหมายแรงงานเวียดนามฉบับปี 2019 มีข้อกำหนดที่สอดคล้องอนุสัญญาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนขององค์การแรงงานสากลหรือ ILO และสหประชาชาติที่เวียดนามเป็นภาคี เวียดนามกำลังจัดทำเอกสารเพื่อเข้าร่วมอนุสัญญาฉบับที่ 87 ของ ILO ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและสิทธิในการรวมตัว อีกทั้งเตรียมให้แก่การเข้าร่วมอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของแรงงานอพยพและครอบครัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงระเบียบการและระบบกฎหมายเพื่อค้ำประกันและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนเพื่อให้เวียดนามเข้าใกล้มาตรฐานระดับโลก
ส่วนงานด้านการแก้ปัญหาความยากจนและสวัสดิการสังคมของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมาได้ประสบผลงานที่น่ายินดี โดยในช่วงปี 2016-2020 อัตราครอบครัวยากจนได้ลดลงเหลือร้อยละ 2.75 โดยลดลงเฉลี่ยร้อยละ 1.43 ต่อปี อัตราครอบครัวยากจนในอำเภอที่ยากจนลดลงเหลือร้อยละ 24 โดยลดลงเฉลี่ยร้อยละ 5.65 ต่อปี โครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนและสวัสดิการสังคมอย่างยั่งยืนช่วงปี 2021-2030 ตั้งเป้าหมายว่า จะแก้ปัญหาความยากจนในหลายมิติอย่างครอบคลุม ยั่งยืน ปัญหาผู้ที่หลุดพ้นจากความยากจนแล้วกลับไปยากจนอีกครั้ง ช่วยเหลือครอบครัวยากจนให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถเข้าถึงบริการสังคมขั้นพื้นฐาน ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและช่วยเหลือท้องถิ่นที่ยากจน อีกทั้งยกระดับคุณภาพแหล่งบุคลากร สร้างงานทำที่มั่นคงให้แก่ผู้ที่มีฐานะยากจนและประชาชนในเขตที่ยากจน ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาคและชนเผ่าต่างๆ ค้ำประกันการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการปฏิบัติสวัสดิการสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งเพื่อปฏิบัติข้อเสนอตามกลไก UPR กระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมได้ยื่นเสนอให้นายกรัฐมนตรีประกาศใช้มติที่กำหนดขั้นตอนการตรวจสอบครอบครัวที่ยากจน ครอบครัวที่ใกล้เกณฑ์ยากจนและครอบครัวที่มีฐานะปานกลางในช่วงปี 2021-2025 อีกทั้งทำการวิจัย แก้ไขและเพิ่มเติมนโยบายแก้ปัญหาความยากจนในหลายมิติ รวมถึงงานทำ สาธารณสุข การศึกษา ที่อยู่อาศัย น้ำประปา สุขอนามัยและการสื่อสารตามแนวทางขยายการช่วยเหลือ สร้างงานทำและรายได้ที่มั่นคง ลดการช่วยเหลือแบบให้เปล่าเพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
การสัมมนาระหว่างประเทศเกี่ยวกับร่างรายงานกึ่งวาระเกี่ยวกับการปฏิบัติข้อเสนอต่างๆตามกลไกการตรวจสอบเป็นประจำหรือ UPR รอบที่ 3 (baoquocte.vn) |
ส่วนในการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมปี 2020 นายกรัฐมนตรีได้ประกาศมติที่ 2282 ที่อนุมัติโครงการขยายการเข้าร่วมของสตรีในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารและการวางแผนงานด้านบุคลากรระยะปี 2021-2030 เพื่อส่งเสริมศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของสตรี มุ่งสู่การปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความเสมอภาคทางเพศและการมอบอำนาจให้แก่สตรี ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มีนาคมปี 2021 รัฐบาลได้ประกาศมติที่ 28 เกี่ยวกับยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยความเสมอภาคทางเพศระยะปี 2021-2030 เพื่อลดช่องว่างระหว่างเพศ อำนวยความสะดวกและสร้างโอกาสให้เพศชายและเพศหญิงสามารถเข้าร่วมและได้รับประโยชน์จากด้านต่างๆของชีวิตสังคมอย่างเท่าเทียมกันและมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เพื่อปฏิบัติข้อเสนอเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศตามกลไก UPR กระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมได้ขยายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน งานทำ ยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศระยะปี 2021-2030 โดยเน้นความเสมอภาคทางเพศในด้านการเมือง เศรษฐกิจและแรงงาน ส่วนกฎหมายความเสมอภาคทางเพศก็ได้รับการวิจัยและปรับปรุงแก้ไข
การปฏิบัติข้อเสนอตามกลไก UPR รอบที่ 3 ให้สอดคล้องกับแนวทางและนโยบายที่ถูกระบุในเอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ได้แสดงให้เห็นถึงคำมั่นและการปฏิบัติที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามเพื่อค้ำประกันสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงนโยบายที่มีมนุษยธรรมของพรรคและรัฐเวียดนามบนเจตนารมณ์ “ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”.
Thu Hoa