นาย ฝ่ามกวางเหียว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม

สมาชิกใหม่ 14 ประเทศจากผู้ลงสมัครทั้งหมด 17 ประเทศได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นตัวแทนของ 5 กลุ่มภูมิภาค ได้แก่ แอฟริกา เอเชีย-แปซิฟิก ยุโรปตะวันออก ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ยุโรปตะวันตกและประเทศอื่นๆ โดยกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีการแข่งขันมากที่สุดเพราะ มี6 ประเทศลงสมัครในขณะที่ทำการเลือกเพียง 4 ประเทศเท่านั้น ซึ่งประเทศที่ได้รับเลือกก็คือ เวียดนาม บังคลาเทศ คีร์กีซสถานและมัลดีฟส์ ในการกล่าวปราศรัยต่อสื่อมวลชนหลังการประกาศผลการลงคะแนน นาย ฝ่ามกวางเหียว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า

“การที่เวียดนามได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนวาระปี 2023-2025 โดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติถือว่ามีความหมายที่ยิ่งใหญ่ เป็นการยืนยันถึงสถานะของเวียดนามและการรับทราบความพยายามของเวียดนามในการผลักดันและปกป้องสิทธิมนุษยชนในเวลาที่ผ่านมา สามารถกล่าวได้ว่า นี่คือความพยายามที่ยิ่งใหญ่และเป็นการรับทราบถึงความพยายามของเวียดนามในการผลักดันและปกป้องสิทธิมนุษยชนในเวลาที่ผ่านมา นี่คือความพยายามอย่างมาก เป็นแนวทาง นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐในการผลักดันและปกป้องสิทธิมนุษยชน และเป็นหนึ่งในเนื้อหาหลักในการสร้างสรรค์นิติรัฐสังคมนิยมที่พวกเรากำลังมุ่งสู่ ประชาคมระหว่างประเทศซึ่งเราตั้งความคาดหวังอย่างสูงว่า การที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 2 นอกเหนือจากความพยายามในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนแล้ว เวียดนามจะมีส่วนร่วมต่อกิจกรรมต่างๆของประชาคมโลกอีกด้วย”

การที่เวียดนามได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025 ได้รับการชื่นชมจากเพื่อนมิตรชาวฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก โดยถือว่า นี่เป็นการยอมรับของประชาคมระหว่างประเทศต่อบทบาทของเวียดนาม และยังเป็นความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการพัฒนาที่ถูกต้องซึ่งเวียดนามได้เลือกไว้ นาย Gérard Daviot อดีตนายกสมาคมมิตรภาพฝรั่งเศส-เวียดนามหรือ AAFV ประเมินว่า

“ผมคิดว่า การเลือกเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติถือเป็นเรื่องปกติและถูกต้อง เพราะนี่คือเส้นทางที่เวียดนามได้วางไว้และดำเนินการได้สำเร็จ เวียดนามกำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง ผมก็ถือว่าตนเองเป็นพลเมืองโลก และให้ความสำคัญต่อเส้นทางที่เวียดนามเลือก ซึ่งเป็นเส้นทางที่เหมาะสมและชื่นชมผู้นำและประชาชนเวียดนาม นี่คือการยอมรับของโลก ขณะนี้ เวียดนามได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแล้ว และต้องยอมรับว่า นี่เป็นการยอมรับของคนทั้งโลก ผมขอแสดงความยินดีกับผู้นำและประชาชนเวียดนามที่ได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่โลกชื่นชมเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน”

นาย Gérard Daviot อดีตนายกสมาคมมิตรภาพฝรั่งเศส-เวียดนามหรือ AAFV

เช่นเดียวกับนาย Daviot นาง Hélène Luc สมาชิกวุฒิสภากิตติมศักดิ์ที่ได้อยู่เคียงข้างกับเวียดนามเป็นเวลาหลายทศวรรษทั้งในช่วงของการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชและการสร้างชาติได้แสดงความเห็นว่า นี่คือข่าวดีและสำคัญทั้งของเวียดนามและสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

“ดิฉันดีใจมากที่ได้ยินข่าวนี้และถือว่านี่เป็นข่าวสำคัญมาก ดิฉันเชื่อมั่นว่า การได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จะช่วยเวียดนามแก้ปัญหาได้มากมาย และบทบาทใหม่นี้จะช่วยให้เวียดนามทำได้หลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตยในสหประชาชาติต่อไป และเวียดนามจะเสร็จสิ้นหน้าที่และความรับผิดชอบ นี่คือสิ่งที่ดีและดิฉันรู้สึกมีความสุขมาก”

ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความกระตือรือร้นและเป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมอนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนส่วนใหญ่โดยสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆประกาศ จนถึงปี 2021 เวียดนามได้ให้สัตยาบันและเข้าร่วมอนุสัญญาขั้นพื้นฐานของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ 7 ฉบับจาก 9 ฉบับ ให้สัตยาบันและเข้าร่วมอนุสัญญา 25 ฉบับขององค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือ ILO รวมถึงอนุสัญญาขั้นพื้นฐาน 7 ฉบับ จาก 8 ฉบับ อนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่เวียดนามเป็นสมาชิก เวียดนามให้คำมั่นที่จะปฏิบัติและถือว่า นี่เป็นความรับผิดชอบทางการเมืองและทางกฎหมายของรัฐ

การที่เวียดนามได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025 นั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมเพราะเป็นการสานต่อส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพต่อกิจกรรมของสหประชาชาติในการสร้างสรรค์สันติภาพ การพัฒนาและการค้ำประกันสิทธิมนุษยชน อีกทั้ง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของเพื่อนมิตรชาวต่างชาติต่อเวียดนามเมื่อเวียดนามได้ประสบความสำเร็จในวาระ 2014-2016 เข้าร่วมกิจกรรมของสภาสิทธิมนุษยชนอย่างแข็งขัน ส่งเสริมความคิดริเริ่มที่แสดงให้เห็นถึงนิมิตหมายและได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ.