ที่บ้านของคุณเฮอเนือง บียา ที่หมู่บ้านอีอาเตียว อำเภอ กือกูอิน จังหวัดดั๊กลัก เมื่อเสร็จฤดูเก็บเกี่ยวกาแฟ ทั้งครอบครัวได้ร่วมกันเตรียมวัตถุดิบเพื่อหมักเหล้าอุไม่ว่าจะเป็นการล้างไหทั้งเล็กและใหญ่  เก็บใบตอง แกลบ หัวเชื้อใช้หมักเหล้า เป็นต้นโดยปีนี้ครอบครัวคุณเฮอเนืองจะหมักเหล้าอุหลายขนาดรวม8ไหเพื่อใช้ในช่วงตรุษเต๊ต เธอเผยว่า กว่าจะได้เหล้าอุที่อร่อยนอกจากต้องมีวัตถุดิบที่ดีแล้วยังต้องกะเวลาให้พอดี โดยแต่ละครอบครัวจะมีวิธีการหมักเหล้าเฉพาะเพื่อให้ออกรสชาดที่โดดเด่น วัตถุดิบสำคัญในการหมักเหล้าคือข้าวสวยผสมกับหัวเชื้อและแกลบที่สะอาด ใส่ทุกอย่างลงในไหและปิดด้วยใบตองให้สนิทแล้วเก็บในที่แห้ง ซึ่งคุณเฮอเนืองเผยว่าเคล็ดลับในการหมักเหล้าอุอยู่ที่หัวเชื้อที่ทำจากสมุนไพรส่วนขั้นตอนการทำหัวเชื้อนั้นถือเป็นเคล็ดลับเฉพาะของครอบครัว

“หัวเชื้อใช้หมักเหล้าเราต้องทำเองถึงจะมีคุณภาพและปลอดภัยเราต้องเลือกสมุนไพรที่มีสรรพคุณต่อสุขภาพ นอกนั้นเทคนิกในการผสมหัวเชื้อของสตรีและไหหมักเหล้านั้นก็มีผลต่อรสชาดของเหล้า”

เตรียมหมักเหล้า

ที่หมู่บ้าน อีอาเตียว ครอบครัวของนายมาปาม ได้ชื่อว่าเป็นครอบครัวที่ทำเหล้าอุอร่อยที่สุด โดยเขารู้จักเคล็ดลับของการหมักเหล้าตั้งแต่ยังเด็กและได้สานต่อประเพณีของครอบครัวเพื่อทำเหล้าอุไว้ดื่มเองและขายให้แก่ชาวบ้าน เขาเผยว่าตัวเองจะพยายามรักษาและสืบสานให้คนรุ่นหลังวิธีกรรมและเคล็ดลับในการทำเหล้าอุเพราะเดี๋ยวนี้ชาวบ้านนิยมทำแบบอุตสาหกรรมกันมากแล้ว

“ครอบครัวผมมีอาชีพทำเหล้าอุมาหลายชั่วคนและเป็นที่รู้จักกันดีของชาวบ้านดังนั้นผมจึงทุ่มเทเพื่อพยายามให้อาชีพนี้ได้รับการพัฒนาสืบทอดต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมรักษาประเพณีของชนเผ่าตนด้วย”

สำหรับชนกลุ่มน้อยที่อาศัยในเขตเตยเงวียน รวมทั้งชนเผ่าเอเด เหล้าอุคือเครื่องดื่มของ “อย่าง” หรือเทพเจ้าเบื้องบน จึงเป็นน้ำมงคลที่นำความโชคดีมาให้แก่ทุกคนดังนั้นในงานที่สำคัญต่างๆรวมทั้งเทศกาลของชุมชนหมู่บ้านจะต้องมีเหล้าอุเป็นเครื่องดื่มสำคัญ โดยการดื่มเหล้าอุนอกจากเป็นการแสดงหน้าที่แห่งความสำนึกในบุญคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแล้วยังเป็นการสื่อถึงความเป็นชุมชนที่สามัคคีพร้อมมิตรไมตรีของเจ้าของบ้านต่อเเขกที่มาเยือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านลักษณะการนั่งล้อมวงดื่มเหล้าท่ามกลางเสียงกลองเสียงฆ้องที่บรรเลงเพลงพื้นเมืองต่างๆ

วัฒนธรรมการดื่มเหล้าอุเหมือนจะทำให้ทุกคนผูกพันใกล้ชิดกันมากขึ้นและเสริมสร้างความสามัคคีของทั้งชุมชน ส่งเสริมจิตใจแห่งการช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกในปีใหม่.