การส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำมีการขยายตัว(Photo:Internet)

ในภาพรวมการส่งออกของเวียดนาม กลุ่มสินค้าเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำยังคงรักษาเสถียรภาพและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นซึ่งตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ใน๙เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกในกลุ่มนี้บรรลุ๒หมื่น๔ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ๑๐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำยังคงนำเป็นอันดับ๑ มีมูลค่าการส่งออก๔พัน๕ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๓.๕ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๑ ส่วนข้าวมีปริมาณการส่งออก๖ล้าน๒แสนตัน คิดเป็นมูลค่า๒พัน๗ร้อย๘๐ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในเบื้องต้นจากการปฏิบัตินโยบายให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อพยุงราคาข้าว จากเป้าหมายพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน รัฐบาลได้วางแนวทางก่อสร้างคลังสำรองข้าว๔ล้านตันซึ่งเป็นสิ่งที่สถานประกอบการส่งออกข้าวต้องปฏิบัติเพื่อให้เวียดนามกลายเป็นประเทศส่งออกข้าวมืออาชีพ นางBùi Thị Thanh Tâm รองผู้อำนวยการบริษัทอาหารภาคเหนือเผยว่า “ประเทศรัสเซีย อินเดียและพม่าได้หยุดการส่งออกข้าวเป็นการชั่วคราวเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองและพยุงราคาข้าวภายในประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องให้ความสนใจ ดังนั้น พวกเราไม่ควรรีบนำข้าวออกไปขายในขณะที่ราคาข้าวกำลังต่ำ แต่ต้องสำรองเพื่อรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อนถึงจะนำออกไปขายซึ่งจะทำให้มีกำไรมากขึ้นอีกทั้งปกป้องผลประโบชน์ให้แก่เกษตรกร”   ตามข้อมูลของสมาพันธ์อาหารเวียดนาม  เวียดนามจะสามารถทะลุเป้าหมายส่งออกข้าว๗ล้านตันได้ภายในปี๒๐๑๒นี้  ส่วนใน๙เดือนที่ผ่านมา เวียดนามยังสามารถส่งออกกาแฟได้๑ล้าน๓แสน๖หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่า๒พัน๘ร้อย๕๐ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะ  เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เวียดนามได้แซงหน้าบราซิลกลายเป็นประเทศส่งออกกาแฟมากเป็นอันดับ๑ของโลก  ส่วนการส่งออกมะม่วงหิมพานต์บรรลุ๑แสน๖หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า๑พันล้านเหรียญสหรัฐทำให้เวียดนามอยู่อันดับ๑ของโลก หนึ่งในสินค้าส่งออกหลักในกลุ่มสินค้าป่าไม้คือ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ได้มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วโดยใน๙เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกบรรลุเกือบ๓พัน๔ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ

เวียดนามเป็นประเทศส่งออกกาแฟมากเป็นอันดับ๑ของโลก(Photo:Internet)

บรรดานักวิชาการทางเศรษฐกิจเห็นว่า การขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำในเวลาที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการเกษตรเวียดนามในขณะที่เศรษฐกิจโลกซบเซา อย่างไรก็ดี ตลาดโลกยังมีความผันผวนยากที่จะคาดการณ์ได้ โดยเฉพาะ ในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ ดังนั้น บรรดาสถานประกอบการต้องรู้จักใช้โอกาสต่อไปโดยเฉพาะ ต้องมีนโยบายช่วยเหลือเพื่อผลักดันการผลิต สร้างเงื่อนไขล่วงหน้าให้แก่การส่งออกอย่างยั่งยืน ในการประชุมประจำเดือนกันยายนของรัฐบาล ท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้กล่าวว่า “ปัจจุบัน ราคาข้าวกำลังอยู่ในระดับสูง มีตลาดรองรับ การส่งออกกำลังดี ปริมาณการผลิตข้าวเพิ่มขึ้นทุกปี  ถ้าพวกเราให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่เกษตรกรได้มากขึ้นในฤดูข้าวนาปรังนี้การเก็บเกี่ยวก็จะได้ผลดีต่อไป จากจุดแข็งของการส่งออกปลาบาซา ปลาสวายและกุ้ง บวกกับมีตลาดรองรับ และการส่งออกมีการขยายตัวอย่างเข้มแข็ง พวกเราต้องส่งเสริมจุดแข็งและศักยภาพ โดยเฉพาะจุดแข็งทางด้านตลาด และการผลิต นอกจากนี้ พวกเราต้องผลักดันการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก”

เวียดนามอยู่อันดับ๑ของโลกในการส่งออกมะม่วงหิมพานต์(Photo:Internet)

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เผยว่า ใน๙เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกบรรลุ๘หมื่น๓พัน๗ร้อย๘๐ล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่าการส่งออกมากกว่าการนำเข้าซึ่งทำให้เวียดนามได้เปรียบดุลย์การค้าประมาณ๓๔ล้านเหรียญสหรัฐ และกลุ่มสินค้าการเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำมีส่วนร่วมในการขยายตัวของการส่งออกพอสมควร./.