(VOVWORLD) - จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่ามีแนวชายฝั่งยาวกว่า 305 กม. มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะปริมาณน้ำมันสำรองที่มากที่สุดของประเทศ อีกทั้งมี 5 จากทั้งหมด 8 อำเภอและเมืองของจังหวัดฯที่ติดกับทะเล และเป็นท้องถิ่นที่มีความได้เปรียบเกี่ยวกับท่าเรือน้ำลึก ประตูสู่ทะเลของเขตตะวันออกภาคใต้ ด้วยศักยภาพเหล่านี้ จังหวัดบ่าเหรียะ หวุ่งเต่า มีความได้เปรียบมากมายในการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การสำรวจและขุดเจาะน้ำมัน การท่องเที่ยวและท่าเรือ ในเวลาที่ผ่านมา ทางจังหวัดฯได้เกาะติดสถานการณ์ที่เป็นจริงอย่างใกล้ชิด ส่งเสริมและใช้จุดแข็งอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลอย่างเข้มแข็ง
จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า มีชายฝั่งยาวกว่า 300 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะสมกับการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล |
ตั้งแต่ปี 2018 เวียดนามได้ประกาศใช้ยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลอย่างยั่งยืนจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2045 โดยจนถึงปี 2030 เวียดนามเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งทางทะเล บรรลุมาตรฐานขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลอย่างยั่งยืน วิสัยทัศน์ถึงปี 2045 เวียดนามเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งทางทะเล พัฒนาอย่างยั่งยืน มีความเจริญรุ่งเรือง มีความมั่นคงและความปลอดภัย เศรษฐกิจทางทะเลมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และเวียดนามเป็นฝ่ายรุกและมีความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและโลกเกี่ยวกับทะเลและมหาสมุทร
ในยุทธศาสตร์ดังกล่าว จังหวัดบ่าเหรียะหวุงเต่ามีสถานะและบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับเศรษฐกิจของเขตตะวันออกภาคใต้เท่านั้น หากยังของประเทศด้วย ในการประชุมพัฒนาเขตตะวันออกภาคใต้ซึ่งจัดขึ้น ณ จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในการประเมินศักยภาพและจุดแข็งพิเศษของจังหวัด นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า
“สถานะและบทบาทของจังหวัดบ่าเหรียะหวุงเต่าในการพัฒนาเขตตะวันออกภาคใต้และประเทศมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งทั้งในด้านความมั่นคง กลาโหม เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ดังนั้น จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ต้องภาคภูมิใจเกี่ยวกับบทบาทและตำแหน่งทางภูมิยุทธศาสตร์ของตน ไม่เพียงแต่ในระดับประเทศเท่านั้น หากยังรวมถึงระดับนานาชาติอีกด้วยเพื่อมีแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม”
จากกการตระหนักได้ดีถึงความสำคัญ ทางจังหวัดฯจึงได้ดำเนินการตามมติเกี่ยวกับยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลอย่างยั่งยืนของเวียดนามจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2045 บนเจตนารมณ์ “การพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของการเติบโตแห่งสีเขียว” อีกทั้ง ใช้พลังทุกแหล่งทั้งภายในและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อสร้างสรรค์โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะระบบขนส่งที่เชื่อมโยงระบบท่าเรือกับทางหลวง นแกจากนี้จังหวัดบ่าเหรียะหวุงเต่ายังก่อสร้างระบบคมนาคมทางบกที่กว้างขวางและพร้อมเพรียง โดยเฉพาะในจังหวัดมีถนน 3 สายที่ได้รับการโหวตให้เป็นถนนที่สวยที่สุดในเวียดนามที่เชื่อมกับแนวชายฝั่งยาว 78 กม. ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างก้าวกระโดดให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล
เมื่อก่อน จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่ามีท่าเรือไม่กี่แห่ง ซึ่งเน้นให้บริการสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและการประมงเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างระบบท่าเรือที่ได้รับการกำหนดให้เป็นท่าเรือพิเศษระดับประเทศ นาย ฝ่ามเวียดแทง เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ยืนยันว่า
“จังหวัดบ่าเหรียะหวุงเต่ามีท่าเรือน้ำลึก ก๊ายเมป-ถิหวาย ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือน้ำลึก 20 แห่งที่มีศักยภาพที่สุดในโลก การพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม นอกจากนั้น บนเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีคือยึดมั่นแก้ไขอุปสรรค รวมทั้งการปรับปรุงการวางผังพัฒนาท่าเรือน้ำลึกก๊ายเมป-ถิหวายเพื่อให้ท่าเรือแห่งนี้ไม่เป็นเพียงท่าเรือธรรมดาเท่านั้น หากต้องพัฒนาเป็นท่าเรือขนส่งระหว่างประเทศอีกด้วย”
ยอดปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลผ่านระบบท่าเรือของจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ต่อปี ท่าเรือก๊ายเมป-ถิหวายเป็นท่าเรือแห่งเดียวในเวียดนามที่มีเรือแล่นไปยังยุโรปและอเมริกาโดยตรง และยังเป็นท่าเรือที่มีการเดินเรือไปยังสหรัฐมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นาย เจิ่นเถื่องชี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคมนาคมขนส่งจังหวัดบ่าเหรียะ หวุ่งเต่า กล่าวว่า
“ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ท่าเรือ ก๊ายเมป-ถิหวาย เป็นท่าเรือแห่งเดียวที่สามารถรับเรือและตู้คอนเทนเนอร์ที่มีระวางขับน้ำกว่า 200,000 ตัน กลายเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ด้วยปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่าเรือก๊ายเมป-ถิหวาย ได้ติดกลุ่มท่าเรือ 50 แห่งที่รองรับตู้คอนเทนเนอร์ได้มากที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งได้ยืนยันถึงสถานะและบทบาทของท่าเรือน้ำลึกของเวียดนามบนเวทีโลกและเปิดแนวทางใหม่สำหรับอุตสาหกรรมท่าเรือเวียดนามบนเส้นทางแห่งการพัฒนาและการผสมผสาน”
ปัจจุบัน จังหวัดบ่าเหรียะหวุงเต่าได้จัดทำโครงการจัดตั้ง “เขตการค้าเสรีที่มีความผูกพันกับท่าเรือน้ำลึกในเขตก๊ายเมป” โดยมีเป้าหมายจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมที่มีความผูกพันกับเขตตัวเมืองอุตสาหกรรมและตัวเมืองริมฝั่งทะเล โดยเฉพาะขณะนี้ ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่มีการเชื่อมโยงหลายรูปแบบระหว่างท่าเรือก๊ายเมป-ถิหวาย สนามบินลองแถ่ง ศูนย์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในนครโฮจิมินห์ บิ่งเยือง ด่งนายและท้องถิ่นอื่น ๆในเขตตะวันออกภาคใต้กำลังได้รับการส่งเสริมลงทุน ซึ่งจะค้ำประกันการเชื่อมโยงอย่างพร้อมเพรียงและต่อเนื่องในเขตตะวันออกภาคใต้กับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนั้น การก่อตั้งเขตการค้าเสรี ก๊ายเมป ที่มีการเชื่อมโยงกับระเบียงอุตสาหกรรม-ตัวเมืองตะวันออก - ตะวันตกที่มีระยะทางเกือบ 300 กม. ทอดยาวจาก หมกบ่าย จังหวัดไตนิงห์ ถึงก๊ายเมป-ถิหวาย จะสร้างความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของเวียดนามเมื่อเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคและโลก เพื่อพัฒนาจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่าให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจทางทะเลของประเทศ ด้วยศักยภาพ จุดแข็ง ความสนใจและการชี้นำที่ใกล้ชิดจากส่วนกลางและท้องถิ่น จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า กำลังมีโอกาสมากมายเพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจทางทะเลของประเทศและเป็นเสาหลักในการเติบโตที่สำคัญของประเทศ.