สินค้าเกษตรเวียดนามใช้โอกาสจากตลาดอี - คอมเมิร์ซ

(VOVWORLD) - ในสภาวการณ์ที่การค้าระหว่างผู้ผลิตสินค้าเกษตรเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างประเทศประสบอุปสรรคนานัปการเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 การค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ถือเป็นมาตรการที่ดีที่สุด ซึ่งควรได้รับการขยายผลในอุตสาหกรรมการเกษตรเวียดนาม



สินค้าเกษตรเวียดนามใช้โอกาสจากตลาดอี - คอมเมิร์ซ - ảnh 1ลิ้นจี่แทงห่าขายในบูธออนไลน์ของจังหวัดหายเยืองผ่านทาง Lazada 

ตั้งแต่เวลา 00.00 ของวันที่ 14 พฤษภาคม ลิ้นจี่แทงห่าเริ่มขายในบูธออนไลน์ของจังหวัดหายเยืองในกรอบโครงการแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าผ่านทาง Lazada ด้วยราคาพิเศษ นาย ฝ่ามวันยาง หัวหน้ากลุ่มปลูกลิ้นจี่ตามมาตรฐาน VietGap ของตำบลแทงเซิน อำเภอแทงห่าเผยว่า " สินค้าที่เรานำมาขายใน Lazada ต้องเป็นสินค้าที่เรามั่นใจ มีตราประทับที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้เกี่ยวกับสารตกค้าง แหล่งกำเนิดของสารกำจัดศัตรูพืชและการดูแลแบบอินทรีย์ เป็นต้น"

คาดว่า ผลผลิตลิ้นจี่ของจังหวัดหายเยืองในปีนี้จะบรรลุ 55,000 ตัน โดยเฉพาะที่อำเภอแทงห่าจะบรรลุ 40,000 ตัน แต่จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ตั้งแต่ตอนแรก คณะกรรมการประชาชนจังหวัดหายเยืองได้จัดทำแผนการขายลิ้นจี่ผ่านตลาดอี - คอมเมิร์ซต่างๆ เช่น Voso.vn, Sendo.vn และ Lazada.vn นาย เจิ่นวันกวน รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดหายเยืองแสดงความคิดเห็นว่า การขายผลิตภัณฑ์การเกษตรของจังหวัดหายเยือง โดยเฉพาะลิ้นจี่ในตลาดอี - คอมเมิร์ซเป็นเรื่องที่จำเป็นและสอดคล้องกับแนวโน้มของการค้าในปัจจุบัน "จังหวัดหายเยืองได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อขายสินค้าการเกษตร โดยหนึ่งในมาตรการที่มีประสิทธิภาพคือการขายในตลาดอี - คอมเมิร์ซ เรากำลังประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันการขายลิ้นจี่ในตลาดอี - คอมเมิร์ซและในเร็วๆนี้ เราจะนำผลิตภัณฑ์การเกษตรอื่นๆไปขายในตลาดอี - คอมเมิร์ซด้วย"

ส่วน Amazon global Selling ซึ่งเป็นตลาดอี - คอมเมิร์ซ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็กำลังขยายความร่วมมือและสนับสนุนสถานประกอบการผลิตสินค้าการเกษตรของเวียดนามผ่านการค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติ ซึ่งที่น่าสนใจคือการปฏิบัติโครงการ "ยุคแห่งการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด -สินค้าเวียดนามเจาะตลาดโลกอย่างกว้างไกล" เพื่อสนับสนุนผู้ค้าและสินค้าเวียดนามบนเส้นทางเจาะตลาดโลก นาง หลายเหวียดแอง รองอธิบดีกรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัล สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์แสดงความคิดเห็นว่า "การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 กำลังสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายต่อสถานประกอบการเวียดนาม ซึ่งสถานประกอบการผลิตและจำหน่ายต่างเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การประกอบธุรกิจและพัฒนาผ่านระบบดิจิทัลเพื่อเจาะตลาดเวียดนามและโลก เวียดนามกำลังมีการขยายตัวของการค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติเข้มแข็งที่สุดในโลก คือร้อยละ 3.7 แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อผลักดันกระบวนการนี้ ไม่เพียงแต่ต้องมีแนวทางและนโยบายที่ดีเท่านั้น หากยังต้องการความพยายามของสถานประกอบการและตลาดอี - คอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น Amazonด้วย"

ก่อนที่ลิ้นจี่ถูกขายในตลาดอี - คอมเมิร์ซ สินค้าเกษตรต่างๆของเวียดนาม เช่น ข้าว ชา กาแฟและพริกไทย ก็ได้ขายในตลาดอี - คอมเมิร์ซเช่นกัน นาย หว่างซวนเจื่อง รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาระบบการเกษตรสังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรเวียดนามกล่าวว่า            "ตลาดอี - คอมเมิร์ซมีความหมายสำคัญในการพัฒนาการเกษตรของเวียดนาม โดยเฉพาะอำนวยความสะดวกให้เกษตรและลูกค้าสามารถพูดคุยและหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้ การขายสินค้าเกษตรในตลาดอี - คอมเมิร์ซได้ช่วยให้ลูกค้าในทั่วโลกรู้จักผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับการผลิตในท้องถิ่นต่างๆของเวียดนาม โดยเฉพาะโครงการชนบทใหม่และ OCOP ซึ่งช่วยให้ประเทศต่างๆทั่วโลกรู้จักผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษของเวียดนามและหาโอกาสร่วมมือกัน"

การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 กำลังซับซ้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อของ ดังนั้น ตลาดอี – คอมเมิร์ซคือช่องทางที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้ผู้ขายนำสินค้าพร้อมข้อมูลไปแนะนำในตลาดได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผู้ผลิตและสินค้าปลอดสารพิษได้อย่างสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด