การเพิ่มทักษะความสามารถของระบบธนาคารในการรับมือกับความผันผวนของนโยบายการเงินโลก
(VOVWORLD) -เช้าวันที่29มีนาคม ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดการประชุมสภาให้คำปรึกษาด้านนโยบายการเงินแห่งชาติไตรมาสที่1ของปี2018ภายใต้อำนวยการของนาย เวืองดิ่งเหวะ รองนายกรัฐมนตรีและประธานสภาฯ
นาย เวืองดิ่งเหวะ รองนายกรัฐมนตรีและประธานสภาฯกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (Photo: TTXVN)
|
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม รองนายกรัฐมนตรี เวืองดิ่งเหวะได้ให้ข้อสังเกตว่า ใน3เดือนแรกของปี2018 เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามมีสัญญาณที่น่ายินดี คาดว่า อัตราการขยายตัวในไตรมาสที่1ของปี2018จะอยู่ที่ร้อยละ7.4 ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ10ปีที่ผ่านมา ภาวะเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม กิจกรรมรายรับงบประมาณดำเนินไปเป็นอย่างดี ดุลการชำระเงินของเวียดนามอยู่ในระดับสูงเนื่องจากการส่งออก การส่งเงินกลับประเทศและเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ส่วนการกู้เงินก็ดำเนินไปอย่างมีเสถียรภาพ
รองนายกรัฐมนตรี เวืองดิ่งเหวะ ได้กำชับให้สมาชิกสภาฯต้องอัพเดทสถานการณ์ ให้คำปรึกษาให้แก่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการบริหารนโยบายด้านการเงิน การผสานการปฏิบัตินโยบายนี้กับนโยบายเศรษฐกิจมหภาคอื่นๆ “ขอบเขตการเปิดผสมผสานของเศรษฐกิจนั้นกว้างมากในขณะที่เศรษฐกิจของเราอยู่ในระดับจำกัด ในสภาวการณ์ปัจจุบัน พวกเราต้องให้คำปรึกษาให้แก่รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีในการบริหารนโยบายการเงิน ควบคู่กันนั้นคือนโยบายด้านการค้าและนโยบายเศรษฐกิจมหภาคอื่นๆในปี2018และปีต่อๆไปเพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจมหภาค เพิ่มทักษะความสามารถของระบบธนาคารและค้ำประกันการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ”
ในการนี้ สมาชิกสภาฯเห็นว่า เศรษฐกิจโลกในปี2018มีสัญญาณที่น่ายินดี อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้นแต่ต้องประสานอย่างใกล้ชิดระหว่างนโยบายการเงินกับนโยบายงบประมาณเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อตามเป้าหมายที่วางไว้ เฝ้าติดตามสถานการณ์การปรับเพิ่มดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือFEDและโครงการปรับปรุงภาษีของสหรัฐ.