นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เจรจากับประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ และยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่
(VOVWORLD) - เมื่อบ่ายวันที่ 21 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมประจำปีฟอรั่มเศรษฐกิจโลก WEF Davos ครั้งที่ 55 และกิจกรรมทวิภาคีในสวิตเซอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เจรจากับนาง Karin Keller – Sutter ประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และนาง Karin Keller – Sutter |
ในการนี้ ผู้นำทั้งสองท่านได้ชื่นชมพัฒนาการที่น่ายินดีในหลายด้านในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านการเมือง การทูต การค้า การลงทุน ความร่วมมือในการพัฒนา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศึกษาและฝึกอบรม เป็นต้น และเห็นพ้องกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นเป็นหุ้นส่วนในทุกด้านด้วยหลักการและการกำหนดร่วมที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้าวก้าวกระโดดและนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเข้าสู่ส่วนลึก รอบด้านและจริงจังมากขึ้น ทั้งในระดับทวิภาคี ภูมิภาคและโลก
ผู้นำทั้งสองท่านได้ชื่นชมศักยภาพความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยเห็นพ้องเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทน ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนามกับสมาคมเขตการค้าเสรียุโรปหรือ EFTA ฟื้นฟูการเจรจาข้อตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนพหุภาคีเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจและส่งเสริมให้สถานประกอบการลงทุนอย่างยั่งยืนในเวียดนามและสวิตเซอร์แลนด์
ส่วนประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ได้ชื่นชมข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และแสดงความพร้อมที่จะขยายความร่วมมือกับเวียดนามในด้านใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการและจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย เช่น นวัตกรรม การปรับเปลี่ยนดิจิทัล เทคโนโลยีขั้นสูง AI และเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น ผู้นำทั้งสองท่านยังให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหม การฝึกอบรม ยกระดับทักษะความสามารถและสนับสนุนการเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพ การวิจัย การเจรจาและลงนามในข้อตกลงร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง เป็นต้น
หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองท่านได้ออกแถลงการณ์ยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างเวียดนามกับสวิตเซอร์แลนด์ |
หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองท่านได้ออกแถลงการณ์ยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างเวียดนามกับสวิตเซอร์แลนด์ โดยเห็นพ้องในหลักการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นเป็นหุ้นส่วนในทุกด้านและประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ในความร่วมมือระหว่างสองประเทศในปัจจุบัน พร้อมทั้งพยายามปฏิบัติก้าวเดินที่เป็นรูปธรรมเพื่อเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนามกับสมาคมเขตการค้าเสรียุโรปโดยเร็ว เพิ่มการสนทนาและความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจ เช่น นวัตกรรม การเงินแห่งสีเขียว ลิขสิทธิ์ทางปัญญา การถ่ายทอดประสบการณ์เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศในเวียดนาม ความพยายามแก้ไขความท้าทายต่างๆ ในด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ทั้งสองฝ่ายยังยืนยันถึงบทบาทสำคัญของความร่วมมือในฟอรั่มพหุภาคีต่างๆ และมีส่วนร่วมต่อความเจริญรุ่งเรืองและความมีเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก พยายามแก้ไขความท้าทายของโลก รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความมั่นคงของแหล่งน้ำ ทั้งสองฝ่ายแสดงการสนับสนุนลัทธิพหุภาคีบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและหลักการขั้นพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมทั้งยืนยันอีกครั้งถึงบทบาทสำคัญของการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 หรือ UNCLOS 1982
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมการสนทนายุทธศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม – WEF |
ส่วนในบ่ายวันที่ 21 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในการสนทนานโยบายพิเศษภายใต้หัวข้อ “ก้าวรุดหน้าสู่อนาคต วิสัยทัศน์ของเวียดนามเกี่ยวกับนวัตกรรมและบทบาทของทั่วโลก” โดยส่งสารที่เข้มแข็งเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่เป็นจุดหมายปลายทางเชิงยุทธศาสตร์ของนักลงทุนต่างชาติ ความมุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัตินโนยายการพัฒนาแบบก้าวกระโดดเพื่อใช้โอกาสในยุคอัฉริยะเพื่อให้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนดิจิทัลเป็นแหล่งพลังช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามบรรลุเป้าหมายที่วางไว้คือ พัฒนาเป็นเศรษฐกิจที่พัฒนาและมีรายได้ต่อหัวประชากรอยู่ในระดับสูงภายในปี 2045 ซึ่งสารนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้รับคำชื่นชมจากผู้แทนที่เข้าร่วมการสนทนาเป็นจำนวนมาก.