การปฏิรูปเงินเดือนเพื่อเพิ่มผลิตภาพของแรงงานและดึงดูดผู้ที่มีความสามารถ (Photo VNplus)

ที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 7 สมัยที่ 12 จะเน้นหารือเกี่ยวกับระดับเงินเดือนใหม่ โครงสร้างเงินเดือนและเงินโบนัสใหม่ ซึ่งร่างโครงการนี้จะส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่พนักงานราชการนับล้านคน

ถ้าหากเปรียบเทียบกับเงินเดือนขั้นพื้นฐานที่แบ่งตามท้องถิ่นที่รัฐบาลได้ประกาศบังคับใช้ในปี 2018 เงินเดือนขั้นพื้นฐานของเจ้าหน้าที่พนักงานราชการในตอนนี้ตอบสนองความต้องการร้อยละ 40 ของการดำรงชีวิต ช่องว่างรายได้ระหว่างเจ้าหน้าที่พนักงานยังค่อนข้างสูง รายได้นอกเหนือจากเงินเดือนและการบริหารเงินเดือนยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างจริงจัง กลไกการตรวจสอบรายได้ยังขาดประสิทธิภาพ

สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิตและดึงดูดผู้ที่มีความสามารถ

สำหรับร่างโครงการปฏิรูปเงินเดือนครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่คือได้มีการประกาศระบบบัญชีเงินเดือนสำหรับเจ้าหน้าที่พนักงานภาครัฐตามตำแหน่งงานโดยอาศัยฐานเงินเดือนเมื่อเริ่มรับราชการและสอดคล้องกับสภาวะของเศรษฐกิจ ตามจำนวนเงินเดือนที่จะได้รับสูงสุดแทนการคิดคำนวณตามขั้นเงินเดือนแบบที่ผ่านมา

สิ่งที่น่าสนใจคือ บัญชีเงินเดือนในปัจจุบันที่มี 7 บัญชีจะลดเหลือ 5 บัญชี ซึ่งจะมี 2 บัญชีสำหรับเจ้าหน้าที่พนักงานราชการและ 3 บัญชีสำหรับกองกำลังติดอาวุธ นายเหงียนกวางหยุง อธิบดีกรมเงินเดือนสังกัดกระทรวงกิจการภายในเผยว่า            “หากนโยบายเงินเดือนใหม่ได้รับการปฏิบัติตามมติการปฏิรูปของคณะกรรมการกลางพรรค เงินเดือนของเจ้าหน้าที่พนักงานราชการจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ต้องมีการแบ่งตามหน่วยงานและค้ำประกันสิทธิพิเศษให้หน่วยงานสามารถพัฒนาและสร้างกลไกใหม่เพื่อเพิ่มเงินเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่พนักงานทุกคน”

นายเจิ่นก๊วกตว๋าน สมาชิกสภาทฤษฎีส่วนกลางเผยว่า นโยบายเงินเดือนนี้ควรระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายการปฏิรูประบบเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งสำหรับทั้งระบบการเมือง การแบ่งระดับเจ้าหน้าที่พนักงานเพื่อจัดทำบัญชีเงินเดือนให้สอดคล้องกับลักษณะงานและประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่พนักงานในแต่ละปี            “ถ้าหากเราแบ่งเจ้าหน้าที่พนักงานราชการตามลักษณะดังกล่าว เราจะมีพื้นฐานเพื่อจัดทำบัญชีเงินเดือนให้สอดคล้องมากขึ้นและจัดทำเบี้ยเลี้ยงอาวุโส เงินประจำตำแหน่งและเบี้ยเลี้ยงอาชีพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด”

ค้ำประกันประสิทธิภาพในการปฏิบัติ

นายบุ่ยสีเหลยะ รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการปัญหาสังคมของสภาแห่งชาติเผยว่า เพื่อสามารถปฏิรูปนโยบายเงินเดือน ก่อนอื่นต้องปฏิรูป เปลี่ยนแปลงใหม่และยกระดับทักษะความสามารถและประสิทธิภาพของสำนักงานภาครัฐเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐที่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินในการจ่ายเงินเดือน            “ควรมีการเปลี่ยนแปลงในการให้งบประมาณภาครัฐโดยถ้าหากหน่วยงานใด เช่น สาธารณสุขและการศึกษาสามารถหางบประมาณได้เอง ก็ควรมอบอำนาจให้พวกเขาจ่ายเงินเดือนเองเพื่อลดภาระของงบประมาณแผ่นดิน สองคือต้องทำให้โครงสร้างภาครัฐมีความกระทัดรัดตามมติที่ 18 ของคณะกรรมการกลางพรรคเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ระบบการเมือง สามคือต้องยกระดับทักษะความสามารถและประสิทธิภาพในการบริหารของสำนักงานภาครัฐบนพื้นฐานของการมอบหมายหน้าที่ตำแหน่งงานให้ถูกต้อง”

หาก 3 ปัจจัยดังกล่าวได้รับการค้ำประกัน นโยบายเงินเดือนจะสามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าหน้าที่พนักงานได้และเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การเพิ่มผลิตภาพ ยกระดับประสิทธิภาพในการรับใช้ประชาชนและมีส่วนร่วมป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น

จากการมีลักษณะก้าวกระโดด ร่างโครงการปรับปรุงนโยบายเงินเดือนที่ได้รับการหารือในการประชุมครั้งนี้ถูกคาดหวังว่า จะสร้างหัวเลี้ยวหัวต่อให้แก่การผลิตและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานให้ดีขึ้น.