การเข้าร่วมซีพีทีพีพีสะท้อนให้เห็นถึงคำมั่นที่เข้มแข็งของเวียดนามในการเปลี่ยนแปลงใหม่และผสมผสานเข้ากับกระแสโลก

(VOVWORLD) - วันที่ 12 พฤศจิกายน ในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 6 สมัยที่ 14 บรรดาผู้แทนจะลงคะแนนอนุมัติมติให้สัตยาบันข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือซีพีทีพีพี หลังจากประธานประเทศ เหงียนฟู้จ่อง อ่านรายงานเสนอให้สัตยาบันข้อตกลงซีพีทีพีพีในการประชุมสภาแห่งชาติ โดยสมาชิกสภาแห่งชาติได้แสดงความเห็นว่า ในฐานะประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการเจรจาและลงนามข้อตกลงซีพีทีพีพี เวียดนามกำลังมีทั้งโอกาสและความท้าทายไม่น้อยในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก

การเข้าร่วมซีพีทีพีพีสะท้อนให้เห็นถึงคำมั่นที่เข้มแข็งของเวียดนามในการเปลี่ยนแปลงใหม่และผสมผสานเข้ากับกระแสโลก - ảnh 1รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมสภาแห่งชาติ (quochoi.vn) 

 

ข้อตกลงซีพีทีพีพีที่มีการเข้าร่วมของ 11 เศรษฐกิจในย่านเอเชียแปซิฟิกจะมีผลบังคับใช้ในปลายเดือนธันวาคมนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมออสเตรเลียได้ให้สัตยาบันข้อตกลงซีพีทีพีพีและกลายเป็นประเทศที่ 6 ที่ให้สัตยาบันข้อตกลงฉบับนี้ การที่เวียดนามเข้าร่วมและให้สัตยาบันข้อตกลงซีพีทีพีพีโดยเร็วได้ช่วยแสดงให้เห็นถึงคำมั่นที่เข้มแข็งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่และการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในทุกด้านและกว้างลึก ยืนยันถึงบทบาทและสถานะภูมิศาสตร์ทางการเมืองที่สำคัญของเวียดนามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนเอเชียแปซิฟิก ยกระดับสถานะของประเทศในกลุ่มอาเซียน ภูมิภาคและโลก

ยกระดับสถานะทางการเมืองและเศรษฐกิจของเวียดนาม

โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ทางการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคและโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีการผันผวนอย่างซับซ้อน การให้สัตยาบันข้อตกลงซีพีทีพีพีช่วยให้เวียดนามมีโอกาสยกระดับความสามารถเพื่อรับมือ เสริมสร้างสถานะเพื่อปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งพาตนเอง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย ควบคู่กับการเสริมสร้าง ผลักดันงานด้านกลาโหมและความมั่นคง การที่ข้อตกลงซีพีทีพีพีมีผลบังคับใช้จะมีส่วนร่วมผลักดันการผสานผลประโยชน์ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศสมาชิกซีพีทีพีพีมีความลึกซึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศสมาชิกที่มีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้แสดงความเห็นว่า “การที่เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าร่วมซีพีทีพีพีจะสะท้อนอย่างเข้มแข็งถึงแนวทางการเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม ยืนยันถึงบทบาทและสถานะทางภูมิศาสตร์การเมืองที่สำคัญของเวียดนามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนเอเชียแปซิฟิก ยกระดับสถานะของประเทศในกลุ่มอาเซียน ภูมิภาคและโลก ส่วนในด้านเศรษฐกิจ ตลาดของประเทศที่เข้าร่วมซีพีทีพีพีมีขอบเขตใหญ่ โดยมีจีดีพีคิดเป็นร้อยละ 13.5 ของจีดีพีโลก รวมทั้งญี่ปุ่นซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก ดังนั้น การเข้าร่วมซีพีทีพีพีจะนำผลประโยชน์มาสู่เวียดนาม  ตามผลการวิจัยอย่างเป็นทางการที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวางแผนและการลงทุนปฏิบัติเมื่อเดือนกันยายนปี 2017 ปรากฎว่า ซีพีทีพีพีสามารถช่วยให้จีดีพีและการส่งออกของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.32 และอยู่ที่ 4.04ในปี 2035”

เปลี่ยนความท้าทายและอุปสรรคให้กลายเป็นโอกาสพัฒนาในทุกด้าน

นอกกรอบการประชุมสภาแห่งชาติ บรรดาผู้แทนได้แสดงความเห็นว่า การให้สัตยาบันข้อตกลงซีพีทีพีพีจะยืนยันถึงบทบาทและสถานะของเวียดนามในภูมิภาคและโลก เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจให้แก่เวียดนามผ่านการผลักดันการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การค้า ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนผลักดันการส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังตลาดใหญ่ๆ นาย เจิ่นแองต๊วน ผู้แทนสภาแห่งชาตินครโฮจิมินห์ได้แสดงความเห็นว่า ทุกการผสมผสานย่อมก็จะมีความท้าทาย โดยเฉพาะการแข่งขันจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง “เมื่อผสมผสานเข้ากับกระแสโลก จะต้องพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สินค้าการบริการ รวมทั้งราคา คุณภาพ รูปแบบและความหลากหลาย พวกเราต้องมีข้อคิดริเริ่มเปลี่ยนแปลงใหม่ ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการผลิตเพื่อช่วยพัฒนาสถานประกอบการเวียดนามในกระบวนการผลิตและเพิ่มผลการทำงาน”

ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามเมื่อเข้าร่วมซีพีทีพีพีคือขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้นในเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง ผลักดันบรรยากาศการแข่งขันของประเทศ เพื่อสร้างโอกาสเมื่อเข้าร่วมข้อตกลง รัฐบาลยังต้องผลักดันการประชาสัมพันธ์เพื่อให้สถานประกอบการเล็งเห็นถึงโอกาสและความท้าทายเมื่อเข้าร่วมข้อตกลงซีพีทีพีพี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เจิ่นหว่างเงิน แสดงความเห็นว่า “ข้อตกลงฉบับนี้ไม่เพียงแต่มีลักษณะด้านเศรษฐกิจเท่านั้น หากยังเป็นข้อตกลงที่รอบด้านและก้าวหน้า ซีพีทีพีพีไม่เพียงแต่กล่าวถึงปัญหาภาษีเท่านั้น หากยังกล่าวถึงการลงทุน ลิขสิทธิ์ทางปัญญา การจัดซื้อของรัฐบาล แรงงาน การลงทุนในตลาดการบริการ จุดเด่นของข้อตกลงคือให้ความสนใจถึงสถานประกอบการ รวมทั้งสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งช่วยผลักดันการปรับปรุงกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดในเวียดนามให้มีความสมบูรณ์ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของข้อตกลงซีพีทีพีพี ผมคิดว่า ต้องจัดสรรข้อมูลมากขึ้นให้แก่สถานประกอบการเพื่อให้พวกเขาเล็งเห็นถึงโอกาสและความท้าทายเมื่อเวียดนามเข้าร่วมซีพีทีพีพี”

ข้อตกลงซีพีทีพีพีสร้างโอกาสมากมายให้แก่สถานประกอบการ แต่เพื่อผสมผสานและพัฒนาให้ประสบความสำเร็จ นอกจากการทำหน้าที่ของรัฐและรัฐบาล สถานประกอบการเวียดนามก็ต้องเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสาน หาแนวทางที่ถูกต้องและสอดคล้องกับการพัฒนาของตน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด