(VOVworld) – ในสภาวการณ์ที่จีนติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง 981 ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามอย่างผิดกฎหมาย ประชาชนเวียดนามทั้งภายในและต่างประเทศได้มีความสามัคคีกันโดยเรียกร้องให้จีนถอนแท่นขุดเจาะทันทีและยุติปฏิบัติการที่ผิดพลาดในทะเลตะวันออกโดยประชาชนเวียดนามได้จัดการชุมนุม เดินขบวนประท้วงอย่างสันติและมีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรักชาติ อีกทั้งให้กำลังใจประชาชนและทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่บนเกาะที่ห่างไกล ชาวเวียดนามทุกคนกำลังร่วมแรงร่วมใจเพื่อสร้างความสามัคคีที่เข้มแข็ง มุ่งใจสู่ปิตุภูมิเพื่อประเทศ อธิปไตยเหนือเกาะแก่งและทะเลของปิตุภูมิ

เยาวชนเวียดนามสามัคคีเพื่ออธิปไตยเหนือเกาะแก่งและทะเลของปิตุภูมิ

นับตั้งแต่จีนติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง 981 ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามอย่างผิดกฎหมายมากกว่า 2 เดือน เวียดนามยังคงใช้ความอดกลั้น แสดงให้เห็นถึงเจตนาดีและใช้ทุกช่องทางการสนทนาเพื่อคัดค้านและเรียกร้องให้จีนถอนแท่นขุดเจาะและเรือคุ้มกันทุกลำออกจากเขตทะเลของเวียดนามทันที ปฏิบัติตามกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 แต่อย่างไรก็ตาม จีนกลับมีคารมที่บิดเบือนความจริง โยนความผิดให้แก่เวียดนามต่อประชาคมโลก โจมตีเรือปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทางทะเลของเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด ประชาชนเวียดนามทุกคนกำลังสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อต่อสู้พิทักษ์รักษาอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่งที่ศักดิ์สิทธิ์ของปิตุภูมิ
สามัคคีคือความแข็งแกร่ง-บทเรียนจากอดีต
ชัยชนะของประชาชนเวียดนามในสงครามต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกาเพื่อกู้ชาติในช่วงปี 1954-1975 โดยเฉพาะชัยชนะฤดูใบไม้ผลิปี 1975 คือสัญลักษณ์ของชัยชนะแห่งการปฏิวัติและสติปัญญาของมนุษย์ เป็นเหตุการณ์ที่มีความหมายสำคัญระหว่างประเทศที่ยิ่งใหญ่และมีลักษณะแห่งยุคที่ลึกซึ้ง การส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติไม่เพียงแต่เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ต่อชัยชนะของสงครามในอดีตเท่านั้น หากยังมีคุณค่าต่อภารกิจแห่งการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในปัจจุบันอีกด้วย  ท่าน ฝ่ามเท้เหยวียด อดีตประธานแนวร่วมปิตุภูมิส่วนกลางเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า จากประวัติศาสตร์ของเวียดนามในยุคต่างๆได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความสามัคคีคือพลังแห่งความเข้มแข็งที่สามารถเอาชนะศัตรูผู้รุกรานในทุกสภาวการณ์ถึงแม้จะต้องประสบความยากลำบากหรืออันตรายก็ตาม“ผมคิดว่า พวกเราต้องยึดหลักปฏิบัติตามแนวทางเอาชนะความโหดร้ายรุนแรงด้วยพลังความสมานฉันท์และความชอบธรรม ถือบทเรียนของบรรพบุรุษและพลังของประชาชาติคือปัจจัยชี้ขาดต่อชัยชนะ ก่อนหน้าความสำเร็จในการขับไล่นักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและจักรวรรดินิยมอเมริกา พวกเราได้เอาชนะศัตรูมาหลายครั้ง ผมคิดว่าต้องใช้พลังของประชาชนทุกชั้นชน ประชาชาติและศาสนาเพื่อสร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ สนับสนุนแนวทางของพรรคและรัฐและปกป้องอธิปไตย ส่งเสริมให้ประชาชนทุกชั้นชนและประชาชาติให้การสนับสนุนและปกป้องภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศ”
เมื่อมีความสามัคคี ประชาชนเวียดนามทุกหมู่เหล่าจะรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อฟันฝ่าอุปสรรค ความท้าทาย ปกป้องเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ

การเดินขบวนประท้วงจีนของชาวเวียดนามที่อาศัยในเม็กซิโก

พลังของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติในสภาวการณ์ความตึงเครียดในทะเลตะวันออก
เวียดนามเป็นประเทศที่ใฝ่สันติภาพและไม่ยอมให้ประเทศหนึ่งประเทศใดข่มขู่เพื่อละเมิดอธิปไตยเหนือดินแดน เกาะแก่งและทะเลของตน ต่อปฏิบัติการของจีนที่ละเมิดเขตน่านน้ำ มีการกระทำที่ยั่วยุ ปลุกปั่นและข่มขู่ เวียดนามยังคงยืนหยัดปฏิบัติตามแนวทางสนทนาและมีเจตนาที่ดี แต่ถ้าหากจีนยังคงเดินหน้าใช้ความรุนแรง ประชาชนเวียดนามก็พร้อมใจที่จะร่วมกันปกป้องประเทศซึ่งท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันถึงทัศนะดังกล่าวว่า “พวกเรามีความปรารถนาในสันติภาพและมิตรไมตรีอยู่เสมอแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานการค้ำประกันเอกราช ความเป็นตัวของตัวเอง อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้งเขตทะเลและไม่ยอมรับการแลกอธิปไตยที่ศักดิ์สิทธิ์กับสันติภาพและมิตรภาพที่เพ้อฝัน”
ปฏิบัติการที่ผิดกฎหมายของจีนได้ทำให้ประชาชนเวียดนามมีความไม่พอใจและท่าทีของรัฐและประชาชนต่อปฏิบัติการยั่วยุปลุกปลั่นของจีนในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความรักชาติ ความสามัคคีและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ที่ได้รับการธำรงอย่างมั่นคงโดยภายในประเทศ ผู้นำของพรรค รัฐและประชาชนจากแผ่นดินใหญ่ได้มอบของขวัญและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องแก่เจ้าหน้าที่กำลังพิทักษ์รักษาอธิปไตยเหนือเกาะแก่งและทะเลที่ศักดิ์สิทธิ์ของปิตุภูมิซึ่งถือเป็นการให้กำลังใจที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจในการปฏิบัติงาน เมื่อเร็วๆนี้ ตัวแทนดีเด่นของกองเยาวชนในทั่วประเทศได้รวมตัวกันในโครงการ “ขบวนการเยาวชนเพื่อทะเลและเกาะแก่งของปิตุภูมิ 2014” โดยเดินทางไปเยี่ยมเยือนทหารและประชาชนบนหมู่เกาะเจื่องซาหรือสเปรตลีและแท่นตรวจการทางทะเลดีเค1 คุณ เลแค้งชี สมาชิกของกองเยาวชนกรุงฮานอยได้แสดงความเห็นว่า“ดิฉันได้เตรียมของขวัญหลายชุด เช่น พวงกุญแจและของใช้แฮนด์เมดและพวกเรายังได้จัดการแสดงรายการนาฏศิลป์ซึ่งถือเป็นของขวัญทั้งด้านวัตถุและจิตใจเพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารให้ยืนหยัดและมีความมุ่งมั่นรักษาอธิปไตยของประเทศต่อไป”
ไม่เพียงแต่ประชาชนภายในประเทศเท่านั้นหากชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศก็แสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความสามัคคีและมุ่งใจสู่ปิตุภูมิอีกด้วยโดยในหลายประเทศ ชมรมชาวเวียดนามได้จัดการชุมนุมและเดินขบวนประท้วงจีนอย่างสันติหลายครั้ง ท่าน เหงียนฟู๊บิ่ง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนายกสมาคมประสานความสัมพันธ์ของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศได้เผยว่า ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศหลายคนยังเก็บรักษาและรวบรวมเอกสารที่พิสูจน์ให้เห็นว่า จีนมีคำเรียกร้องที่ผิดพลาดเกี่ยวกับดินแดน เกาะแก่งและทะเล โดยเฉพาะชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศหลายคนได้วิเคราะห์และมีข้อโต้แย้งอย่างมีเหตุผลที่ยืนยันถึงอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปตรลีในฟอรั่มระหว่างประเทศซึ่งจากปฏิบัติการของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ ประชาคมโลกได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับความชอบธรรมและมีความสามัคคีอย่างแน่นแฟ้นกับเวียดนามเพื่อรักษาสันติภาพ ท่าน เหงียนฟู๊บิ่งได้เผยว่า“เมื่อปิตุภูมิถูกรุกราน ชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศต่างพร้อมใจสามัคคี ผมเห็นว่า นี่คือสิ่งที่สำคัญเพราะพวกเราต่างเป็นลูกหลานของมังกรและนางฟ้า ผมคิดว่า ในอนาคต ถ้าการส่งเสริมจิตใจนี้ได้รับการเผยแพร่ ชมรมชาวเวียดนามก็จะเข้าร่วมมากขึ้น พวกเรายังเรียกร้องให้ชมรมชาวเวียดนามรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเป้าหมายร่วมคือพิทักษ์รักษาอธิปไตย เกาะแก่ง ทะเลและปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศ”
จากสถานการณ์ที่เป็นจริงได้แสดงให้เห็นว่า ความสามัคคียังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ในทุกยุคทุกสมัยโดยในสมัยสงครามเพื่อปกป้องประเทศ กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติคืออาวุธที่แหลมคมเพื่อให้ประชาชนเวียดนามต่อสู้และชนะศัตรู ส่วนในภารกิจแห่งการสร้างสรรค์สันติภาพ ความสามัคคีได้เชื่อมโยงประชาชนทุกชั้นชนให้เป็นหนึ่งเดียว ร่วมแรงร่วมใจเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคม สร้างสรรค์ประเทศให้พัฒนาเข้มแข็งยิ่งขึ้น เกียรติประวัติแห่งความสามัคคียังช่วยให้ประชาชาติเวียดนามเป็นฝ่ายรุกในการขยายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็งเพื่อให้ชาวโลกเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับความชอบธรรมและมีความสามัคคีกับประชาชนเวียดนามเพื่อร่วมกันรักษาสันติภาพและความยุติธรรม ตลอดจนคุณค่าที่ดีงามของมนุษย์./.