(VOVworld) –  ภายหลัง๘เดือนที่รัฐบาลเวียดนามปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจสังคม คาดว่าจะบรรลุ๑๒ดัชนีจากทั้งหมด๑๔ดัชนีด้านเศรษฐกิจสังคมที่วางไว้ในปี๒๐๑๔ซึ่งผลสำเร็จนี้จะเป็นพื้นฐานเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้และสร้างเงื่อนไขล่วงหน้าที่สะดวกเพื่อให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายที่สูงกว่าในปี๒๐๑๕

ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนาม( Photo:Botaichinh)

สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีในแทบทุกด้านเนื่องจากความพยายามของทั้งระบบการเมือง ชมรมนักธุรกิจและประชาชนทั่วประเทศ

คาดว่าจะบรรลุดัชนีที่สำคัญหลายดัชนี

สำหรับจำนวนดัชนีที่คาดว่าจะบรรลุนั้นประกอบด้วย อัตราการขยายตัวจีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ๕.๘  ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไออยู่ที่ร้อยละ๕ซึ่งการพยากรณ์นี้มาจากการสังเกตุคือ เศรษฐกิจเวียดนามที่กำลังฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ ตัวเลขทางเศรษฐกิจในบางด้านมีอัตราการขยายตัวสูง เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ดัชนีซีพีไอเพิ่มขึ้นในระดับต่ำตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจุบัน ราคาสินค้าในท้องตลาดทรงตัว จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม จีดีพีอยู่ที่ร้อยละ๕.๕๔ ซึ่งจากดัชนีเหล่านี้ อาจยืนยันว่า อัตราจีดีพีในปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ๕.๘ 

อุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิตมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ร้อยละ๘.๑ การเกษตรมีการพัฒนา มูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำอยู่ที่เกือบ๕พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๒๕เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๓ ส่วนภาคบริการก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

การควบคุมด้านต่างๆของเศรษฐกิจมหภาคแสดงให้เห็นว่า ค่าเงินด่งทรงตัว เงินสำรองอยู่ในระดับสูง ส่วนการส่งออกมีอัตราการขยายตัวที่ไม่สูงนักแต่ได้เปรียบดุลการค้า๑.๗พันล้านเหรียญสหรัฐ สิ่งที่น่าสนใจคือ ปีก่อนๆ การส่งออกของสถานประกอบการที่มีเงินทุนจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอมีส่วนร่วมสำคัญแต่นับตั้งแต่ปลายปี๒๐๑๓ การส่งออกของสถานประกอบการภายในประเทศอยู่ที่ร้อยละ๑๑ การนำเข้าเพิ่มขึ้นโดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเครื่องจักร และวัตถุดิบเพื่อทำการผลิตและจำกัดการนำเข้าสินค้าบริโภคซึ่งแสดงให้เห็นถึงการบริหารการนำเข้าที่มีประสิทธิภาพ

การเบิกจ่ายเงินเอฟดีไอ เงินทุนโอดีเอและเงินกู้ด้วยดอกเบี้ยต่ำอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะ การเบิกจ่ายเงินโอดีเอได้ทำสถิติใหม่อยู่ที่กว่า๓พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๔๑เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีกลาย

ตามข้อมูลสถิติจนถึงเดือนสิงหาคม มีสัญญาณที่น่ายินดีคือความไว้วางใจของนักลงทุนในการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นโดยมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ และขยายการผลิต นอกจากนี้ยังมีสถานประกอบการประมาณ๑หมื่นแห่งที่เคยประกาศปิดกิจการได้กลับมาเปิดอีกครั้ง

ท่านเหงวียนถิห่งรองผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนาม( Photo:Vn.Economy)

ประสานนโยบายบริหารเศรษฐกิจมหภาคอย่างคล่องตัว

แม้ว่าเศรษฐกิจมหภาคจะอยู่ภายใต้การควบคุมแต่ก็ยังขาดความยั่งยืนเนื่องจากอัตราการขยายตัวสินเชื่ออยู่ในระดับต่ำ อุปสงค์ในภาพรวมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีดังนั้นใน๔เดือนที่เหลือของปีนี้ รัฐบาลจะเน้นแก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิตประกอบธุรกิจและเพิ่มอุปสงค์ในภาพรวมผ่านมาตรการต่างๆ  เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย นางเหงวียนถิห่งรองผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนามเผยว่า เพื่อช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย ธนาคารชาติได้ชี้นำให้บริษัทบริหารทรัพย์สินขององค์การสินเชื่อต่างๆซื้อหนี้เสีย๗๐ถึง๑๐๐ล้านล้านด่ง“ในเวลาข้างหน้า ธนาคารชาติจะชี้นำให้องค์การสินเชื่อต่างๆขยายการใช้กองทุนป้องกันความเสี่ยงเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสียและประสานกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสำรวจอุปสรรคในมติ๕๓เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้เสียของรัฐบาลเพื่อแก้ไขอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย นอกจากนี้ ต้องมีการประสานระหว่างกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเจตนารมณ์ของมติ๕๓เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาหนี้เสียอย่างรวดเร็ว”

ปัญหาที่๒ที่รัฐบาลกำลังชี้นำหน่วยงานทุกระดับปฏิบัติคือ การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจซึ่งในช่วงเวลานี้ต้องการการชี้นำอย่างเด็ดขาดโดยต้องปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะ สถานประกอบการและระบบธนาคารผ่านมาตรการครบวงจรเพื่อมีส่วนร่วมบรรลุอัตราการขยายตัว

นอกจากนี้ การลดระเบียบราชการที่ไม่จำเป็นก็จะช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การผลิต การลงทุน ปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อีกทั้งทำการสำรวจ สรุปผล ประเมินและมีข้อเสนอเกี่ยวกับการยกเลิกแผนพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐฏิจ สิ้นเปลืองงบประมาณและมีปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น กีดขวางตลาดและการพัฒนา  เกี่ยวกับปัญหานี้ ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้กล่าวว่า“ทุกๆสังคมต่างบริหารด้วยกฎหมาย ยุทธศาสตร์ และแผนพัฒนา คุณภาพการวางแผนของพวกเรายังไม่สูงนัก ส่งผลให้เกิดความสิ้นเปลืองและความเดือดร้อน ดังนั้นกระทรวงวางแผนและการลงทุนต้องเป็นที่ปรึกษาให้แก่รัฐบาลเพื่อวางแผนพัฒนาที่สามารถปฏิบัติได้จริง  ปัจจุบัน มีแผนพัฒนาจำนวนมากดังนั้นต้องยกเลิกแผนที่ขาดประสิทธิภาพและคงแผนที่มีความเหมาะสม"

จากความพยายามของทั้งระบบการเมือง ชมรมนักธุกิจและประชาชน เวียดนามกำลังค่อยๆบรรลุดัชนีเศรษฐกิจสังคมของปี๒๐๑๔ซึ่งเป็นสัญญาญที่น่ายินดีที่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจเวียดนามกำลังฟื้นตัวอย่างสม่ำเสมอ สร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาในระดับสูงกว่า และยั่งยืนยิ่งขึ้นในปี๒๐๑๕./.