(VOVWORLD) -ภายหลังเกือบ 11 เดือนที่เกิดการปะทะ รัสเซีย ยูเครนและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถแสวงหาเสียงพูดเดียวกันเพื่อยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ถึงแม้ประชาคมโลกได้ผลักดันการเจรจาต่างๆ แต่โอกาสเพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพยังคงอยู่ไกลเอื้อม ซึ่งการแสวงหาเสียงพูดเดียวกันเพื่อยุติการปะทะและการบรรลุข้อตกลงสันติภาพยังคงเป็นความท้าทายต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและประชาคมโลก
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี (Photo: AP) |
ในประกาศเมื่อวันที่ 8 มกราคม กองทัพรัสเซียเผยว่า ได้ทำการโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่เมือง Kramatorsk ประเทศยูเครน หลังจากที่ระยะเวลาหยุดยิง 36 ชั่วโมงที่รัสเซียประกาศเพียงฝ่ายเดียวหมดลงในเช้าวันเดียวกัน ซึ่งรัสเซียได้ยืนยันว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้ทหารยูเครน 600 นายเสียชีวิต
บรรดานักวิเคราะห์ระหว่างประเทศได้เผยว่า แม้จะถูกปฏิเสธจากยูเครนแต่ข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียยังถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า การปะทะในยูเครนยังไม่สามารถยุติลงได้ในเร็ว ๆ นี้
สถานการณ์การปะทะที่ซับซ้อน
ภายหลังเกือบ 11 เดือนที่เกิดการปะทะ รัสเซียกำลังควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคใต้ของยูเครน เมื่อเร็วๆนี้ รัสเซียได้ปรับปรุงกลยุทธ์ในสมรภูมิตามแนวทางลดการเข้าควบพื้นที่และเปิดการโจมตีด้วยขีปนาวุธและเครื่องบินไร้คนขับเพื่อบุกเข้าดินแดนของยูเครน ซึ่งการปะทะระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้นทุกวันในสมรภูมิต่างๆ ในขณะที่ กองทัพยูเครนได้รับการช่วยเหลือด้านอาวุธที่ทันสมัย เช่น ปืนใหญ่พิสัยไกล จากฝ่ายตะวันตก
สำนักข่าวกรองของสหรัฐได้พยากรณ์ว่า ทั้งรัสเซียและยูเครนจะมีทหารเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บฝ่ายละประมาณ 1 แสนนาย ถึงแม้รัสเซียและยูเครนประกาศจำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บที่ต่ำกว่าที่เป็นจริง แต่บรรดาผู้สังเกตการณ์เห็นว่า การปะทะในตัวเมืองและการโจมตีด้วยปืนใหญ่จะสร้างความสูญเสียอย่างหนักให้แก่ทั้งสองฝ่าย
สิ่งที่น่ากังวลคือแม้จะได้รับความสูญเสียอย่างหนักแต่การปะทะยังไม่มีสัญญาณที่จะยุติลง ในประกาศเมื่อวันที่ 8 มกราคม นาย Sergei Kiriyenko รองปลัดสำนักงานประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูตินได้ชี้ชัดว่า “หน้าที่ที่ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูตินได้วางไว้ให้แก่ยุทธนาการทหารพิเศษจะได้รับการปฏิบัติให้แล้วเสร็จและแน่นอนว่าจะได้รับชัยชนะ” ส่วนเจ้าหน้าที่ของยูเครนได้ปฏิเสธคำสั่งหยุดยิงเพื่อสนับสนุนกิจกรรมฉลองเทศกาลคริสต์มาสตามแบบนิกายออร์โธดอกซ์เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่รัสเซียเสนอ พร้อมทั้งยืนยันว่า จะขยายการโจมตีในทุกแนวรบที่มุ่งเป้าไปยังกองทัพรัสเซีย
บรรดานักวิเคราะห์ระหว่างประเทศได้ประเมินว่า สถานการณ์การปะทะในยูเครนยังคงมีความซับซ้อนมาก และเป็นความท้าทายใหญ่ต่อความพยายามฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพที่ประชาคมโลกกำลังมุ่งปฏิบัติ
โอกาสให้แก่การเจรจาสันติภาพ
แม้จะมีสถานการณ์ที่น่ากังวล แต่ประชาคมโลกยังเชื่อมั่นต่อโอกาสการสนทนาระหว่างรัสเซียกับยูเครนและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝ่ายที่มีอิทธิพลต่อการปะทะ โดยมีหลายพื้นฐานที่สำคัญที่ยืนยันความไว้วางใจนี้ หนึ่งคือแม้การปะทะที่เกิดขึ้นอย่างดุเดือดแต่รัสเซียและยูเครนยังคงธำรงกลไกการสนทนาที่จำเป็นเพื่อจัดการแลกเปลี่ยนเชลยศึกหลายครั้งในเวลาที่ผ่านมา เมื่อเร็วๆนี้ ในการแลกเปลี่ยนเชลยศึก เมื่อวันที่ 8 มกราคม แต่ละฝ่ายได้ปล่อยเชลยศึก 50 คน ก่อนหน้านั้น เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้จัดการแลกเปลี่ยนเชลยศึก 2 ครั้ง รวมเชลยศึกนับร้อยคน บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า การเจรจาเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเชลยศึกอาจกลายเป็นพื้นฐานเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายขยายการเจรจาในปัญหาอื่นๆ รวมทั้งปัญหาการหยุดยิง
สองคือ จากการได้รับความสูญเสียทั้งด้านชีวิตและเศรษฐกิจ รัฐบาลทั้งสองประเทศกำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่ โดยเฉพาะแรงกดดันภายในประเทศเกี่ยวกับการยุติการปะทะ ในขณะที่ รัฐบาลประเทศตะวันตก โดยเฉพาะประเทศยุโรปก็เผชิญปัญหานี้เช่นกัน การมุ่งสู่ข้อตกลงยุติการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงเป็นกระบวนการที่ยาวไกล เต็มไปด้วยความท้าทายและต้องการความพยายามและเจตนาที่ดีของฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องและประชาคมโลก.