(VOVworld)–จากความต้องการที่จะส่งเสริมให้เด็กๆและคนในชนบทที่ยากจนได้มีโอกาสอ่านหนังสือและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆมากขึ้น ใน๑๕ปีที่ผ่านมา บรรดาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของโครงการ“ตู้หนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้และความเพลิดเพลิน”ได้จัดตู้หนังสือฟรีนับร้อยตู้ซึ่งแม้จะเป็นโครงการที่ทำกันอย่างเงียบๆแต่ก็ถือว่ามีความหมายเป็นอย่างมากโดยทางรายการขอนำเสนอเรื่องราวของโครงการนี้ผ่านบทความเรื่อง“โครงการตู้หนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้และความเพลิดเพลินให้แก่เด็กๆ”

โครงการ“ทูตแห่งการบริจาคหนังสือให้แก่เด็กๆในชนบทเวียดนาม๑พันคน”(Photo: baomoi.com)

โครงการ“ตู้หนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้และความเพลิดเพลิน”ของกลุ่มอดีตนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายอัจฉริยะก๊วกหอกเว้ปีการศึกษา๑๙๖๑– ๑๙๖๔ได้รับการปฏิบัติเมื่อปี๑๙๙๙โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดช่องว่างทางความรู้ระหว่างเด็กๆในชนบทกับเด็กๆในตัวเมือง ในตลอด๑๐ปีที่ผ่านมา ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ นายแพทย์โห่ดั๊กยวีพร้อมกับบรรดาสมาชิกในกลุ่มได้เดินทางไปทั่วทุกแห่งหนเพื่อรณรงค์ขอรับบริจาคหนังสือจนสามารถจัดตู้หนังสือได้๕๐๐ตู้ให้แก่เด็กๆในจังหวัดและนครต่างๆโดยในตอนแรกแต่ละตู้มีหนังสือ๒๐๐เล่มโดยเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษา คุณธรรม วิทยาศาสตร์ และบันเทิงเพื่อตอบสนองความต้องการของเด็กและประชาชนในเขตที่ห่างไกลความเจริญ  
เมื่อปี๒๐๐๙ โครงการดังกล่าวได้รับการถ่ายโอนให้แก่กลุ่มเยาวชนในนครโฮจิมินห์ จากแนวทาง “ทุกคนต้องมีโอกาสอ่านหนังสือ” บรรดาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้ปฏิบัติโครงการทางด้านสังคมหลายโครงการเพื่อรณรงค์ให้ชุมชนบริจาคหนังสือให้แก่ผู้ยากจน จนถึงปัจจุบัน โครงการนี้สามารถจัดตู้หนังสือได้๗๐๐ตู้ในทั่วประเทศพร้อมจำนวนหนังสือที่เพิ่มขึ้นเป็น๒เท่า คุณเฉิ่นถิ่กิมทวา หัวหน้าโครงการเผยว่า“หลังจากสานต่อโครงการนี้จากกลุ่มอดีตนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายอัจฉริยะก๊วกหอกเว้ ตั้งแต่ปี๒๐๐๙มาจนถึงปัจจุบัน กลุ่มเยาวชนต่างๆสามารถขยายตู้หนังสือได้อีก๒๐๐ตู้ในทั่วประเทศ  ปัจจุบัน พวกเรามีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครประมาณ๗๐คน  เมื่อมีบุคลากรมากแล้ว พวกเราก็สามารถทำการสำรวจตู้หนังสือที่จัดทำแล้วพร้อมทั้งจัดกิจกรรมการกุศลควบคู่กับกิจกรรมของตู้หนังสือเพื่อสนับสนุนให้แก่การส่งเสริมการอ่านในท้องถิ่นต่างๆ”

กลุ่มอาสาสมัครได้รวบรวมหนังสือ ทำการแบ่งประเภท (Photo:thanhnien )

จากการตระหนักถึงความหมายของโครงการ ประชาชนจำนวนมากในท้องถิ่นต่างๆที่ได้รับการติดตั้งตู้หนังสือจึงได้สนับสนุนทั้งแรงกาย แรงใจ และทรัพย์สิน รวมทั้งมอบหนึ่งห้องในบ้านเพื่อติดตั้งตู้หนังสือให้แก่เด็กๆ  ที่อำเภอฟองเดี่ยน จังหวัดเถื่อเทียนเว้ และอำเภอยวีเซวียน นครตามกี่ จังหวัดกว่างนาม เป็นต้น  โครงการนี้ได้รับการปฏิบัติมาสิบปีแล้วและจนถึงปัจจุบันก็ยังคงเกิดประโยชน์แก่ชุมชน แหล่งหนังสือส่วนใหญ่ได้รับการบริจาคจากสำนักพิมพ์ ร้านขายหนังสือที่ขายในราคาถูกและจากประชาชน เดือนละ๒ครั้ง กลุ่มอาสาสมัครได้รวบรวมหนังสือ ทำการแบ่งประเภทและบรรจุหีบห่อเพื่อส่งไปยังแหล่งที่ต้องการหนังสือ  สำหรับหนังสือที่ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายก็จะนำไปแลกกับหนังสือเล่มใหม่  แม้จะทำงานฟรี แถมยังต้องควักเงินในกระเป๋าเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางปฏิบัติโครงการ แต่โครงการติดตั้งตู้หนังสือที่พวกเขาปฏิบัติต่างประสบความสำเร็จอย่างงดงาม  คุณฝ่ามหว่างฟุกเฮี้ยว นักศึกษามหาวิทยาลัยเปิดนครโฮจิมินห์เผยว่า “ผมเรียนด้านสังคมศาสตร์ ดังนั้นทักษะในการเชื่อมโยงแหล่งพลังในสังคมจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การเข้าร่วมโครงการนี้ช่วยให้ผมมีทักษะการทำงานเป็นทีม เข้าใจเทคโนโลยีการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์และเครือข่ายสังคมออนไลน์”
ปัจจุบัน โครงการนี้กำลังดำเนินการภายใต้แนวคิดต่างๆเช่น การแนะนำให้เด็กๆรู้จักใช้ประโยชน์จากหนังสือทั้งการค้นคว้าและรู้จักรักษาหนังสือ คุณเฉิ่นถิ่เฟืองจาง อาสาสมัครคนหนึ่งกล่าวว่า “อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของพวกเราในปัจจุบันคือ ต้องทำอย่างไรเพื่อให้โครงการนี้มีพลังจูงใจในชุมชน เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและช่วยให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นในกิจกรรมของกลุ่มอาสาสมัคร นอกจากนี้ ต่อข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์ และเวลาเพราะส่วนใหญ่ตู้หนังสือได้รับการติดตั้งในจังหวัดและนครที่ห่างจากนครโฮจิมินห์แต่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครอาศัยอยู่ในนครโฮจิมินห์เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น พวกเราต้องหาทางติดต่อกับผู้เก็บรักษาหนังสือในท้องถิ่นเพื่อเสนอให้พวกเขาดูแลตู้หนังสือให้ดี”

เด็กๆในอำเภอไตยางอ่านหนังสือ(Photo:thanhnien )

นอกจากการจัดตู้หนังสือเพื่อให้เด็กๆและประชาชนที่ยากจนได้อ่านฟรีแล้ว กลุ่มอาสาสมัครยังมีกิจกรรมการกุศลโดยส่งเสริมให้นักเรียนอ่านหนังสือในช่วงหยุดฤดูร้อน ปัจจุบัน กลุ่มอาสาสมัครกำลังเร่งมือปฏิบัติโครงการ“ทูตแห่งการบริจาคหนังสือให้แก่เด็กๆในชนบทเวียดนาม๑พันคน”เพื่อรณรงค์ชุมชนบริจาคหนังสือ๑หมื่นเล่มเพื่อติดตั้งตู้หนังสือ๒๕ตู้ให้แก่หมู่บ้าน๒๕แห่งในอำเภอไตยางและดงยางซึ่งเป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดในจังหวัดกว่างนามที่ไม่มีหอสมุดหรือตู้หนังสือเลย หนังสือที่เต็มไปด้วยน้ำใจได้ถูกมอบให้แก่ทางการท้องถิ่นด้วยความปรารถนาที่จะเพิ่มพูนความรู้ให้แก่เด็กๆและคนในชนบท./.

Mỹ Dung– Thu Hằng