(VOVWORLD) - กระบวนการแข่งขันในการผลิต ประกอบธุรกิจและการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสร้างฐานะและแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนได้รับการปฏิบัติโดย สมาคมเกษตรกรส่วนกลางเวียดนามมาตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งหลังการปฏิบัติมาเป็นเวลา 33 ปี กระบวนการนี้ได้ กลายเป็นกระบวนการที่กว้างลึกและการปฏิวัติของชนชั้นเกษตรเวียดนามในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ
บ่อเลี้ยงกุ้งในจังหวัดบากเลียว (Dân Việt) |
ถ้ามาเยือนตำบลเดี่ยนหาย อำเภอดงหาย จังหวัดบากเลียวในวันนี้ เราจะเห็นบ่อเลี้ยงกุ้งที่คึกคักด้วยรถบรรทุกที่วิ่งเข้าออก นาง เหงียนแทงถวี เจ้าของบริษัทสัตว์น้ำเอกชน ถวีบากเลียว ซึ่งเป็น 1 ในเกษตรกรดีเด่น 300 คนในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาที่ได้รับการยกย่องสดุดีจากสมาคมเกษตรกรส่วนกลางเวียดนามกล่าวว่า บริษัทของเธอมีบ่อเลี้ยงกุ้งกว่า 300 บ่อ แต่ละบ่อกว้างประมาณ 1,000 -1,500 ตารางเมตร ซึ่งได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดมาใช้ในการเลี้ยง
“ในช่วงก่อน ดิฉันเลี้ยงกุ้งในบ่อธรรมชาติ แต่ใน 4 ปีมานี้ ได้เลี้ยงในเรือนกระจกไฮเทค คลุมบ่อด้วยผ้าใบและส่งออกไปยังต่างประเทศ การเลี้ยงในเรือนกระจำไฮเทคบวกกับมีกุ้งพันธุ์ที่ดี มีผู้เชี่ยวชาญดูแลและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ทำให้ประสบความสำเร็จมากถึงร้อยละ 90”
ไม่เพียงแต่ลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูงในการเลี้ยงกุ้งเท่านั้น แต่นางถวียังร่วมมือกับสถานประกอบการส่งออก และเป็นตัวแทนรับซื้อสัตว์น้ำจากเกษตรกรในท้องถิ่นให้แก่สถานประกอบการเหล่านี้อีกด้วย ซึ่งบริษัทของเธอได้สร้างงานทำให้แก่แรงงาน 100 คนด้วยเงินเดือนตั้งแต่ 10-20 ล้านด่งต่อคน นอกจากนี้ เธอยังเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลต่างๆ เช่น มอบข้าวและอาหารให้แก่ครอบครัวที่ยากจน สร้างงานทำและก่อสร้างบ้านเอื้ออาทรมูลค่านับสิบล้านด่ง ก่อสร้างสะพานและถนนเพื่อมีส่วนช่วยสร้างโฉมใหม่ให้แก่ภูมิลำเนา
คุณหว่างมิงห์ทั้ง ในตำบลหายนิง อำเภอกว๋างนิง จังหวัดกว๋างบิ่งห์ก็หนึ่งในผู้ที่พยายามสร้างฐานะเพื่อหลุดพ้นจากความยากจน ถึงแม้เคยไปทำงานในต่างประเทศแต่เขาก็ตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อสร้างฐานะจากการเลี้ยงกุ้งขาวและหมู หลังการทำธุรกิจนี้เป็นเวลา 10 ปี ปัจจุบัน เขามีบ่งเลี้ยงกุ้งที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 3 เฮกตาร์และเลี้ยงหมูพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดสารพิษ นายทั้งบอกว่า
“การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราเลี้ยงกุ้งแบบอินทรีย์ทั้งหมด ต้องเรียนรู้ประสบการณ์และศึกษาตลอดไป รวมทั้งต้องเป็นผู้ที่หลงไหลในอาชีพนี้เพื่อสามารถทุ่มเทได้อย่างเต็มที่”
สำหรับขบวนการเกษตรกรแข่งขันในการผลิตและประกอบธุรกิจนับวันมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีธุรกิจครัวเรือนหลายแห่งที่สามารถทำการผลิตขนาดใหญ่ ใช้เงินทุนนับแสนล้านด่ง ดึงดูดแรงงานนับร้อยคนและสร้างรายได้นับหมื่นล้านด่งต่อปี นาง บุ่ยถิเทิม อุปนายกสมาคมเกษตรกรส่วนกลางเวียดนามได้ประเมินว่า
“ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ขบวนการนี้มีความแตกต่างกับช่วงก่อน คือมีเศรษฐกิจแบบฟาร์ม สหกรณ์ เกษตรกรรมแบบหมุนเวียน แบบอินทรีย์ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น”
นอกจากนี้ สมาคมเกษตรกรทุกระดับยังส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ รณรงค์และยกย่องสดุดีเกษตรกรดีเด่นในการผลิตและประกอบธุรกิจในท้องถิ่นอย่างทันการณ์เพื่อดึงดูดความสนใจของเยาวชนมากขึ้น นาย เจิ่นดังเซิม นายกสมาคมเกษตรกรจังหวัดบั๊กนิงห์กล่าวว่า
“เราไม่เพียงแต่เปิดการรณรงค์เท่านั้น หากเรายังเป็นคนกลางโดยใช้แหล่งพลังและชื่อเสียงของตนเพื่อเชื่อมโยงนักวิทยาศาสตร์และสถานประกอบการเพื่อช่วยเกษตรกรจำหน่ายสินค้าและผลิตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ”
ในเวลาที่ผ่านมา มีตัวอย่างเกษตรกรหลายคนที่ได้ฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพและใช้ความได้เปรียบต่างๆ ของท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่เพื่อพัฒนารูปแบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพ กลายเป็นธุรกิจครัวเรือนดีเด่นในการผลิตและประกอบธุรกิจที่มีผู้ปฏิบัติตามเป็นจำนวนมาก.