หุบเขาแห่งความรัก

หุบเขาแห่งความรักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนครดาลัดแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการหลายแห่ง นาย เหงียนวันลอง ผู้อำนวยการเขตท่องเที่ยวหุบเขาแห่งความรักแสดงความคิดเห็นว่า เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทางบริษัทได้เน้นรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยกระดับคุณภาพบริการและลดราคา “ปัจจุบันนี้ พวกเรากำลังเน้นตลาดภายในประเทศ จัดบริการรถรับส่งและจุดพักผ่อนที่ปลอดภัยเพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกสบายใจ”

ตามข้อมูลสถิติของหน่วยงานการท่องเที่ยวจังหวัดเลิมด่ง การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลให้สถานประกอบการ 180 แห่งและครอบครัวที่ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเกือบ 660 ครอบครัวต้องหยุดกิจการมานานกว่า 2 เดือน แรงงานในภาคอุตสาหกรรมการการท่องเที่ยวกว่า 4,000 คนถูกเลิกจ้าง ลดเวลาทำงานหรือถูกลดเงินเดือน

นาง เหงียนถิบิ๊กหงอก รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดเลิมด่งเผยว่า หน่วยงานการท่องเที่ยวได้ส่งเอกสารต่อทางการปกครองจังหวัดฯเพื่อเสนอมาตรการยกเลิกหรือชะลอการเก็บภาษีจากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งมีนโยบายสนับสนุนต่างๆ เช่น ยกเลิกหรือลดดอกเบี้ยเงินกู้ พักหนี้ คิดค่าไฟฟ้าสำหรับร้านอาหารและโรงแรมใน้เรทราคาการผลิตแทนราคาไฟฟ้าของภาคบริการ เป็นต้น            “เราได้ยื่นเอกสารอย่างทันท่วงทีเพื่ออำนวยความสะดวกให้บริษัทนำเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของหน่วยงานสาธารณสุขในการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19”

การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 สองระลอกได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อรายได้ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของจังหวัดเลิมด่ง ดังนั้น สถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเลิมด่งได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โดยเฉพาะร่วมกันลดราคาตั้งแต่ร้อยละ 30-60 และเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว นาย เลตังจ่องเหงียะ ผู้อำนวยการบริษัท Vietravel ดาลัดได้ยืนยันว่า            “ในโครงการโปรโมชั่น เราแนะนำทัวร์ใหม่ๆให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น การไปเที่ยวหาเมฆ การท่องเที่ยวเชิงการเกษตร การศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยเผ่าจูรู เป็นต้น”

ส่วนนาย ฟานวันดา รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเลิมด่งได้ยืนยันว่า การท่องเที่ยวคือภาคเศรษฐกิจหลักของจังหวัดฯ และเลิมด่งยังคงเป็นจุดนัดพบที่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ดังนั้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีผลิตภัณฑ์เฉพาะ ลดราคาแต่ไม่ลดคุณภาพ            “จังหวัดเลิมด่งจะเดินพร้อมกับสถานประกอบการเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยกำชับให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติกลไกและนโยบายของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในจังหวัด”./.