(VOVWORLD) - การตรวจสอบย้อนกลับคือเงื่อนไขชี้ขาดที่จะทำให้สินค้าเวียดนามสามารถเจาะตลาดต่างประเทศได้อย่างสะดวก ที่นครโฮจิมินห์ หลังการปฎิบัติมติเกี่ยวกับการใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับระยะปี 2021 - 2030 เป็นเวลา 2 ปี สินค้าเวียดนามสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในประเทศต่างๆได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผ่านช่องทางจำหน่ายสินค้าของสถานประกอบการของชาวเวียดนามโพ้นทะเล
รายการ "จุดนัดพบของชาวเวียดนามโพ้นทะเล" เมื่อเดือนกรกฎาคมช่วยเชื่อมโยงสถานประกอบการภายในประเทศกับนักธุรกิจชาวเวียดนามในต่างประเทศ (โฟโต M.P) |
จากประสบการณ์ในการนำเห็ดหลินจือมาจำหน่ายในแพลตฟอร์ม Amazon ของสหรัฐ ด็อกเตอร์ เลหว่างเท้ ชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของบริษัทระบบนิเวศ The VOS จำกัด ได้ยืนยันว่า นอกจากการดูแลเรื่องคุณภาพแล้ การตรวจสอบย้อนกลับก็ถือเป็น “การค้ำประกัน” ให้สินค้าเวียดนามได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวต่างชาติมากขึ้น
“ ในการส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังตลาดสหรัฐ เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีใบรับรอง มีสิทธิบัตรและผลการทดสอบต่าง ๆ นอกจากนี้ เราต้องทราบว่า สหรัฐมีเงื่อนไขอะไรบ้าง อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต้องใช้วัตถุดิบออร์แกนิก ต้องได้รับการทดสอบจากห้องปฏิบัติการไหน ได้มาตรฐานอะไร และต้องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ซึ่งไม่สามารถทำการปลอมแปลงได้”
ส่วนนาย เหงียนหงอกหลวน ซีอีโอของบริษัทเชื่อมโยงการค้าทั่วโลกจำกัดที่ส่งออกกาแฟยี่ห้อ Meet More Coffee ก็ย้ำถึงความสำคัญในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าที่ส่งออกไปยังต่างประเทศว่า จากการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เข้มงวดของประเทศนำเข้าเกี่ยวกับการเปิดเผยแหล่งที่มาของสินค้าได้ช่วยให้สินค้าของบริษัทฯ สามารถจำหน่ายในตลาดต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน
“สำหรับบริษัทของเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องได้มาตรฐาน ISO มีใบรับรองและฐานข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของสินค้าแต่ละงวดอย่างสมบูรณ์ แล้วทำ QR code ให้แก่สินค้า นอกจากนี้ สถานประกอบการต้องมีแผนกตรวจสอบภายในและต้องลงทุนในด้านธรรมาภิบาล”
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ Meet More ได้รับความนิยมจากลูกค้าจำนวนมากโดยได้มีจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่างๆทั่วประเทศและจากการบรรลุมาตรฐานการส่งออกที่เข้มงวดที่สุด สินค้าของบริษัทฯได้ถูกจำหน่ายในตลาดกาแฟ 20 แห่ง เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐและออสเตรเลีย เป็นต้น
นาย เหงียนหงอกหลวน ชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศออสเตรเลีย ซีอีโอของ Meet More Coffee (โฟโต Ngọc Xuân) |
นอกจากนั้น สถานประกอบการหลายแห่งยังลงทุนในเรื่องระบบการตรวจสอบย้อนกลับและการฝึกอบรมบุคลากรในด้านนี้ นาง โด๋ตู้ Trace ผู้อำนวยการฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของบริษัท Blue Saigon เผยว่า ทางบริษัทพยายามค้ำประกันด้านตรวจสอบย้อนกลับ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและใช้ QR code เพื่อยกระดับคุณภาพและผลักดันการจำหน่ายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
“เรามีทีมที่สามารถใช้แอพแอพพลิเคชั่นทุกแอพในตลาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การตรวจสอบย้อนกลับ มีสำนักงานหลายแห่งให้การสนับสนุนเรา ช่วยให้เราสามารถตอบสนองเงื่อนไขของผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและหุ้นส่วนที่นำเข้าได้”
การตรวจสอบย้อนกลับถือเป็นเงื่อนไขชี้ขาดในขณะที่เวียดนามส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น สำหรับสินค้าการเกษตรของเวียดนาม ตลาดที่นำเข้า เช่น จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐและสหภาพยุโรปต่างมีเงื่อนไขนี้และในความเป็นจริง ทุกประเทศต่างมีแนวโน้มเพิ่มเงื่อนไขให้นับวันเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น สถานประกอบการต้องตอบสนองทุกเงื่อนไขเพื่อสามารถส่งออกได้ นาย เลืองมิงห์ฮวน หัวหน้าสถาบันพัฒนาสถานประกอบการเผยว่า
“การตรวจสอบย้อนกลับคือมาตรการเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความโปร่งใสและคำมั่นของสถานประกอบการต่อคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้าว่า สินค้าสามารถตอบสนองเงื่อนไขในด้านคุณภาพ ปลอดสารพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามข้อกำหนดขององค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งสร้างความไว้วางใจให้แก่หุ้นส่วนและผู้บริโภค ช่วยผลักดันความสัมพันธ์ทางการค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สินค้าบนตลาดโลก”
ปัจจุบันนี้ เวียดนามได้ผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึกผ่านการเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีรุ่นใหม่หลายฉบับ แต่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยืนยันคุณภาพของสินค้าเวียดนามในตลาดต่างประเทศ นอกจากการสนับสนุนของรัฐบาลแล้ว สถานประกอบการก็ต้องพยายามพัฒนา เกาะติดแนวโน้มตลาดและตอบสนองเงื่อนไขที่เข้มงวดต่างๆของตลาดส่งออก โดยเฉพาะในเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับและการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อช่วยให้สินค้าและเครื่องหมายการค้าของเวียดนามสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน.