(VOVworld) –  ภายหลัง๓ปีที่ปฏิบัติโครงการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วน ในจำนวนสถานประกอบการ๙๙แห่งที่ได้รับการแปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนแล้วมีถึง๔๔แห่งสังกัดกระทรวงคมนาคมขนส่งโดยทางกระทรวงคมนาคมขนส่งวางเป้าไว้ว่า จะแปรสถานประกอบการที่เหลือเป็นบริษัทหุ้นส่วนให้เสร็จภายในปี๒๐๑๕

ท่านดิงลาทังรัฐมนตรีคมนาคมขนส่ง (Photo: VOV )

ตามโครงการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนช่วงปี๒๐๑๑ถึงปี๒๐๑๕ที่นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติ มีสถานประกอบการ๕๐๐แห่งจะต้องแปรเป็นบริษัทหุ้นส่วน แต่กระบวนการนี้ได้ดำเนินไปอย่างล่าช้า  ดังนั้น ผลสำเร็จดังกล่าวของหน่วยงานคมนาคมขนส่งจึงมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งโดยใน๓ปีที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมขนส่งได้ถือการแปรสถานประกอบการเป็นบริษัทหุ้นส่วนเป็นก้าวกระโดดเพื่อปรับปรุงกลไกการบริหารให้ดีขึ้น ระดมเงินทุนจากบรรดาผู้ถือหุ้น ลดหนี้ ยกระดับประสิทธิภาพของการผลิตและประกอบธุรกิจซึ่งตามแนวทางนี้ ในปี๒๐๑๓ กระทรวงคมนาคมขนส่งได้แปรสถานประกอบการ๑๑แห่งเป็นบริษัทหุ้นส่วน เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนการแปรเครือบริษัท๙แห่งจากทั้งหมด๑๐แห่งเป็นบริษัทหุ้นส่วน และจากผลสำเร็จในเบื้องต้นนี้ ทางกระทรวงคมนาคมขนส่งได้ผลักดันการแปรสถานประกอบการที่รัฐไม่ได้มีเงินทุนจดทะเบียน๑๐๐% เครือบริษัท๑๑แห่ง สถานประกอบการ๒๕แห่ง หน่วยงานอื่นๆและสถานประกอบการขนส่งทางรถไฟเป็นบริษัทหุ้นส่วน  ท่านดิงลาทังรัฐมนตรีคมนาคมขนส่งกล่าวว่า“จากผลสำเร็จที่ได้ประสบมา พวกเราจะปฏิบัติตามการชี้นำของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายแปรสถานประกอบการที่เหลือให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนช่วงปี๒๐๑๔ถึงปี๒๐๑๕ สำหรับสถานประกอบการที่รัฐไม่ต้องถือหุ้นจะเปลี่ยนมาเป็นบริษัทหุ้นส่วน”

ตามแผนการ ในไตรมาสที่๑ปี๒๐๑๔ กระทรวงคมนาคมขนส่งจะแปรเครือบริษัท๑๐แห่งให้แล้วเสร็จ ต่อจากนั้นจะแปรสถานประกอบการเกือบ๔๐แห่งและหน่วยงานอื่นๆเป็นบริษัทหุ้นส่วน  ส่วนเวียดนามแอร์ไลน์เมื่อปรับโครงสร้างเสร็จจะมีบริษัทแม่คือเครือบริษัทการบินเวียดนาม พร้อมบริษัทลูก๑๕แห่งและบริษัทร่วมทุน๑๒แห่ง ทั้งนี้จะส่งผลดีต่อการประกอบธุรกิจของเวียดนามแอร์ไลน์เพื่อกลายเป็นบริษัทการบินที่ทันสมัย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ๓ในภูมิภาคและมีคุณภาพการบริการที่ได้มาตรฐานสากลภายในปี๒๐๑๕  จากการตระหนักได้ดีว่า การแปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนเป็นแนวโน้มของกระบวนการผสมสผานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก ดังนั้น เจ้าหน้าที่บริหารกระทรวงและสถานประกอบการมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่นี้ให้เป็นผลสำเร็จ  รัฐมนตรีดิงลาทังกล่าวต่อไปว่า“พวกเรามอบหมายหน้าที่ให้บรรดารัฐมนตรีช่วยดูแลการแปรสถานประกอบการเป็นบริษัทหุ้นส่วน  หากทำไม่ได้ บรรดารัฐมนตรีช่วยก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนประธานและผู้อำนวยการสถานประกอบการนั้นๆจะถูกย้ายไปทำงานอื่น”

ในที่ประชุมเพื่อปฏิบัติหน้าที่แปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วน ที่จัดขึ้น ณ กรุงฮานอย เมื่อเร็วๆนี้ ท่านเหงียนเติ้นหยุง นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมความตั้งใจอันแน่วแน่ของกระทรวงคมนาคมขนส่งในการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วน และเห็นด้วยกับการเชิดชูความรับผิดของหัวหน้าหน่วยงาน“รัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดแต่ละคนต้องเชิดชูความรับผิดชอบเพราะนี่เป็นหน้าที่ที่พรรคและรัฐมอบหมายให้ ระเบียบมีอยู่แล้ว แต่ปัญหาในปัจจุบันคือความรับผิดชอบ โดยเฉพาะ ความรับผิดชอบของหัวหน้าเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพ และความตั้งใจ นี่เป็นมาตรการที่มีลักษณะชี้ขาดถึงผลสำเร็จ”

ท่านเหงียนเติ้นหยุงเผยว่า รัฐบาลจะประกาศใช้มติเกี่ยวกับบางมาตรการเพื่อผลักดันการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนช่วงปี๒๐๑๓ถึงปี๒๐๑๕ คำสั่งของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการผลักดันการปรับโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐจนถึงปี๒๐๑๕และมติของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการประกาศใช้มาตรฐานในการแบ่งประเภทสถานประกอบการภาครัฐซึ่งเป็นพื้นฐานทางนิตินัยพร้อมกับระเบียบและนโยบายที่สะดวกเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคและยกระดับทั้งปริมาณและคุณภาพของการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนในเวลาข้างหน้า./.

Tô Tuấn-VOV5