(VOVworld) –  ปี๒๐๑๔ การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจได้รับการผลักดันอย่างรวดเร็วโดยเน้น๓ด้านที่สำคัญคือการปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะ สถานประกอบการและระบบธนาคารการเงิน แม้ว่าผลสำเร็จที่ได้ประสบมายังไม่สมความปรารถนาแต่มาตรการต่างๆของรัฐบาลเพื่อผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจได้เกิดประสิทธิผลและสร้างพื้นฐานเพื่อผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในระยะต่อไป

ดร.เหงียนดึ๊กเกียน รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งรัฐสภา(Photo: quandoinhandan)

ภายหลัง๓ปีที่ปฏิบัติ จนถึงปัจจุบัน โครงการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจได้เกิดประสิทธิภาพซึ่งผลสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดคือ การสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค เงินเฟ้อได้รับการควบคุม คุณภาพเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บนพื้นฐานของผลสำเร็จในเบื้องต้น ปี๒๐๑๔ รัฐบาลได้ผลักดันกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายปรับปรุงระบบเศรษฐกิจ สร้างสรรค์รูปแบบขยายตัวใหม่ ลดเงินเฟ้ออย่างรวดเร็วเพื่ออำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน  รัฐบาลได้ชี้นำกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆปรับปรุงพื้นฐานทางนิตินัยให้มีความสมบูรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างใน๓ด้านที่สำคัญคือ การลงทุนสาธารณะ สถานประกอบการภาครัฐและระบบการเงินธนาคาร ดร.เหงียนดึ๊กเกียน รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งรัฐสภากล่าวว่า“ความตั้งใจทางการเมืองเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจแสดงให้เห็นในเอกสารกฎหมายและเริ่มเกิดประโยชน์ในชีวิต แม้ว่า การปฏิบัติยังไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในเบื้องต้นแต่ก็ได้เปิดแนวทางที่สำคัญ”

จากการปฏิบัติตามการชี้นำของรัฐบาล ตั้งแต่ต้นปีนี้ การปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะได้รับการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงโดยสามารถยกเลิกโครงการที่ขาดประสิทธิภาพ๔๒โครงการ แก้ไขปัญหาการลงทุนอย่างกระจัดกระจายและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ กรอบกฎหมายก็ได้รับการปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ แผนการลงทุนในระยะยาวจากส่วนกลางถึงภูมิภาคได้ถูกนำมาใช้แทนแผนการในระยะสั้น กระทรวง หน่วยงาน และท้องถิ่นต่างๆจัดสรรเงินทุนตามลำดับความสำคัญของโครงการและเน้นจัดสรรเงินทุนให้แก่โครงการที่กำลังปฏิบัติ

ดร.เลดังยวันผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ(Photo: doanhnhansaigon)

การปรับปรุงโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐค่อยๆแก้ไขข้อบกพร่องและดำเนินมาตรการต่างๆอย่างแข็งขัน เช่น ขยายการปรับปรุงกรอบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์เพื่อผลักดันการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนซึ่งจนถึงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีเครือบริษัท๙๐แห่งจากทั้งหมด๑๐๘แห่งที่มีโครงการปรับปรุงโครงสร้างได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่มีอำนาจและปัจจุบัน มีสถานประกอบการ๑๒๖แห่งที่ได้รับการแปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนซึ่งในนั้นมีสถานประกอบการ๑๐๗แห่งเข้าด้วยกันที่ได้รับการแปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนและผนวกสถานประกอบการอีก๑๒แห่ง ที่น่าสนใจคือ ในจำนวนสถานประกอบการที่ได้รับอนุมัติโครงการแปรเป็นบริษัทหุ้นส่วน มีสถานประกอบการที่มีขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น เครือบริษัทสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามและเครือบริษัทการบินเวียดนาม นอกจากนี้ ยังมีเครือบริษัท๑๐แห่งของกระทรวงคมนาคมขนส่งและท่าเรือใหญ่๔แห่งคือไฮฟอง ดานัง กว๋างนิงและญาจาง อย่างไรก็ดี ในเวลาข้างหน้า ต้องเพิ่มมาตรการแบบบูรณาการเพื่อผลักดันการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนตามแผนที่วางไว้ ดร.เลดังยวันผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจให้ข้อสังเกตุว่า“ในเวลาที่ผ่านมา การแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนส่วนใหญ่มุ่งสู่เป้าหมายเท่านั้นหากยังไม่สามารถปรับปรุงโครงสร้างในทุกด้านได้เพราะสิ่งนี้ต้องมีการตัดสินใจด้านกฎหมายและการตรวจสอบพิเศษ ปัญหาอยู่ที่ว่า ต้องมีมาตรการเพื่อสามารถปฏิบัติโครงการปรับปรุงโครงสร้างในทุกด้านอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

ในกระบวนปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ การปรับปรุงโครงสร้างระบบการเงิน และธนาคารในเวลาที่ผ่านมาเกิดประสิทธิภาพมากที่สุดซึ่งจนถึงปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหาธนาคารที่ประสบปัญหาได้๘แห่งจากทั้งหมด๙แห่ง รัฐบาลได้อนุมัติระยะที่๒ของโครงการปรับปรุงโครงสร้างระบบธนาคารซึ่งตามนั้นจะปรับปรุงและผนวกธนาคารอีก๖ถึง๗แห่งเข้าด้วยกัน นอกจากการปรับปรุงองค์กรสินเชื่อธนาคารแล้ว การแก้ไขปัญหาหนี้เสียก็ได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มงวดจนทำให้หนี้เสียลดลงครึ่งหนึ่ง

ควบคู่กับการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ คาดว่า อัตราการขยายตัวจีดีพีในปี๒๐๑๔จะอยู่ที่ร้อยละ๕.๘ สิ่งที่น่ายินดีคือ หลังจากที่ได้แปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนแล้ว สถานประกอบการหลายแห่งมีอัตราการขยายตัวที่มีเสถียรภาพและพัฒนาซึ่งแสดงให้เห็นว่า การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจกำลังเดินถูกทิศทางและตอบสนองความต้องการพัฒนาและการผสมผสานของเวียดนาม./.