ส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในจังหวัดบ่าเหรียะ - หวุงเต่า

(VOVWORLD) - การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่อาศัยธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นพร้อมกับการศึกษาเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกำลังกลายเป็นแนวโน้มที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ จากความได้เปรียบต่างๆในการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ทางการจังหวัดบ่าเหรียะ –หวุงเต่าได้ปฏิบัตินโยบายและมาตรการต่างๆเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ชุมชน
ส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในจังหวัดบ่าเหรียะ - หวุงเต่า - ảnh 1 ส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในจังหวัดบ่าเหรียะ - หวุงเต่า

 จากการมีริมฝั่งทะเลยาวถึง 300 ก.ม. มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม น้ำทะเลใสสะอาดและป่าดงดิบที่มีความหลากหลายของระบบนิเวศ จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่ามีศักยภาพสูงในการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นักลงทุนจึงก่อสร้างฟาร์มเกษตรเพื่อให้บริการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมทั้งสร้างบ้านพักใต้ร่มไม้ใหญ่และบริเวณริมลำธาร ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว นาย บุ่ยวันทั้ง เจ้าของฟาร์ม Green Farm อำเภอโจว์โด๊ก จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าเผยว่า            “พวกเราร่วมมือกับฟาร์มอื่นๆเพื่อสร้างความหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตประจำวันในจังหวัด พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับสำนักงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทัวร์ที่น่าสนใจต่างๆ รวมไปถึงจัดเทศกาลและกิจกรรมประจำเดือนเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว

ที่จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่า นักท่องเที่ยวจะได้ถ่ายรูปสวยๆและทานผลไม้ที่สดอร่อยในสวนต่างๆ พร้อมทั้งศึกษาวิธีการปลูกต้นไม้ตามมาตรฐาน ชมฟาร์มเลี้ยงไก่ เม่น หมูป่า กระต่าย สุนัขฟุ๊ก๊วก และการสาธิตการเพาะปลูกพืชต่างๆ ซึ่งสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว นาง เหงียนทูเหวะ นักท่องเที่ยวจากนครโฮจิมินห์แสดงความคิดเห็นว่า            “ฉันรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้มาเยือนฟาร์มเชิงนิเวศแบบนี้ที่จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่า ที่นี่อากาศดีช่วยให้เราได้สัมผัสทิวทัศน์ธรรมชาติต่างๆ

นอกจากนี้ ฟาร์มเกษตรต่างๆในจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่า ยังประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์สนับสนุนการท่องเที่ยว ถึงแม้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศในจังหวัดฯจะประสบผลที่น่ายินดีในเบื้องต้น แต่นี่ยังเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบกระจัดกระจายที่ขาดความเป็นมืออาชีพในการให้บริการ ขาดการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับสถานประกอบการและผู้บริหารเพื่อพัฒนาและจัดผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว ดังนั้น นี่คือหนึ่งในหน้าที่สำคัญของผู้บริหารและหน่วยงานการท่องเที่ยวจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่า ซึ่งหน่วยงานการท่องเที่ยวของจังหวัดฯกำลังปฏิบัติแผนการที่เป็นรูปธรรมเพื่อใช้ศักยภาพของธรรมชาติที่มีอยู่ ลงทุนพัฒนาเขตนิเวศต่างๆ ยกระดับคุณภาพการบริการ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศเพื่อมีส่วนร่วมต่อการเพิ่มรายได้มวลรวมประชาชาติของจังหวัด ยืนยันบทบาท จุดแข็งและเครื่องหมายการค้าของจังหวัดฯมากขึ้น นาย จิ่งห่าง ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าเผยว่า            “พวกเรากำลังเสนอให้คณะกรรมการจังหวัดฯ ทำการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านมาร์เกตติ้งเพื่อฝึกอบรมการตลาดออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายย่อยเพื่อช่วยให้พวกเขามีทักษะความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ให้มาเที่ยวจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่ามากขึ้น

ปัจจุบันนี้ นอกจากจัดทำแผนการฟื้นฟูและพัฒาการท่องเที่ยว หน่วยงานการท่องเที่ยวจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่ายังเน้นผลักดันโครงการโปรโมชั่นการท่องเที่ยวภายในประเทศ บนพื้นฐานของการเชื่อมโยงสถานประกอบการ โรงแรม บริษัทนำเที่ยวและบริษัทขนส่งกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเพื่อจัดทัวร์ใหม่ๆที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อให้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็นพื้นฐานพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมต่อภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมของจังหวัดฯในอนาคต.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด