สถานประกอบการเวียดนามเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเข้มแข็งเพื่อปฏิบัติและรับโอกาสจากอีวีเอฟทีเอ

(VOVWORLD) -ข้อตกลงการค้าและการลงทุนเวียดนาม - สหภาพยุโรปหรืออีวีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมปี 2020 ควบคู่กับรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานทุกระดับ สถานประกอบการเวียดนามก็ได้เตรียมตัวอย่างรอบคอบและเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเข้มแข็งในการเข้าร่วมอีวีเอฟทีเอเพื่อรับโอกาสจากข้อตกลงนี้ได้อย่างเต็มที่
สถานประกอบการเวียดนามเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเข้มแข็งเพื่อปฏิบัติและรับโอกาสจากอีวีเอฟทีเอ - ảnh 1นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก และผู้แทนระดับสูงเยือนบูธแสดงสินค้ากาแฟอานท้าย จังหวัดดั๊กลักในงานแสดงสินค้างจีน - อาเซียนครั้งที่ 13

จากการเป็นสถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจด้านกาแฟ พริกไทยและสินค้าเกษตรในเขตที่ราบสูงเตยเงวียน ในเวลาที่ผ่านมา บริษัท Simexco Dak Lak จำกัดได้วิจัยตลาดโลกอย่างรอบคอบเพื่อทำความเข้าใจถึงความต้องการของแต่ละท้องถิ่น โดยตระหนักดีว่ายุโรปเป็นตลาดที่มีมาตรฐานที่เข้มงวดทั้งด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบย้อนกลับ สุขอนามัยของอาหารและสภาพแวดล้อมของการผลิต เป็นต้น

นอกจากช่วยให้ท้องถิ่น สถานประกอบการและประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีขึ้น ทางบริษัท ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับครัวเรือนเกษตรกรรมหลายร้อยครัวเรือนโดยชี้แนะ สนับสนุนการผลิตกาแฟและพริกไทยให้ตรงตามความต้องการของตลาดและรับซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรป นาย เหงียนเตี๊ยนหยุง ผู้อำนวยการโครงการผลิตกาแฟอย่างยั่งยืนสังกัดบริษัท Simexco Dak Lak ระบุว่า เมื่ออีวีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้ อุปสรรคทางเทคนิคและมาตรฐานที่เข้มงวดจากตลาดสหภาพยุโรปจะไม่เป็นปัญหาต่อบริษัท            “ในเวลาที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ให้ความสนใจถึงปัญหานี้มาก ซึ่งช่วยให้สินค้าเกษตรของเวียดนามสามารถเจาะตลาดนี้ง่ายขึ้นและได้รับสิทธิพิเศษมากขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับประเทศผู้นำเข้าเหล่านี้ มีมาตรฐานด้านคุณภาพสูง  ดังนั้นภาคการเกษตรของเวียดนามและบริษัท Simexco จึงต้องสร้างพื้นที่ปลูกวัตถุดิบที่ตอบสนองมาตรฐานนี้ได้ โดยเฉพาะแก้ไขปัญหาสารตกค้างในพืช

เนื่องด้วยเป็นท้องถิ่นที่มีจุดแข็งในการผลิตสินค้าเกษตรสำคัญเพื่อการส่งออก เช่น กาแฟ พริกไทย ยางพารา มะม่วงหิมพานต์ แป้งมันสำปะหลังและน้ำผึ้ง สถานประกอบการต่างๆในดั๊กลัก ได้มีประสบการณ์ในการนำสินค้าเกษตรเจาะตลาดต่างๆ โดยเฉพาะตลาดอียู บริษัทหุ้นส่วนลงทุนและพัฒนากาแฟ อานท้าย ที่มีประสบการณ์ในการส่งออกกาแฟคั่วและกาแฟสำเร็จรูปเป็นเวลาหลายปี ได้เน้นปรับปรุงคุณภาพ รูปแบบและยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อพัฒนาในตลาดอียูโดยเฉพาะเมื่อข้อตกลงอีวีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้ นายเหงียนซวนเหลย ผู้อำนวยการบริษัทฯ เผยว่า “นี่คือโอกาสให้สถานประกอบการเจาะตลาดที่มีมาตรฐานการนำเข้าที่เข้มงวด แต่เราก็ประสบความยากลำบากมากมายเพราะกำลังต้องแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ จากประเทศอื่นๆ ในหลายปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯต้องเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพิ่มผลิตภาพแรงงานและให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการในการผสมผสาน”

นอกจากสถานประกอบการเกษตร สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าหนัง สัตว์น้ำและเครื่องเฟอร์นิเจอร์ ในหลายปีที่ผ่านมา สินค้าที่เป็นจุดแข็งของเวียดนามในการส่งออกก็เป็นฝ่ายรุกเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงอีวีเอฟทีเอโดยมุ่งเน้นการจัดสรรวัตถุดิบ เตรียมบุคลากร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่เพื่อสนับสนุนสถานประกอบการ สำนักงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อช่วยให้สถานประกอบการมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับข้อกำหนดแหล่งที่มาของสินค้า ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อได้รับสิทธิพิเศษในด้านภาษี นายหวูเตี๊ยนหลก ประธานวีซีซีไอได้กล่าวถึงหนังสือคู่มือเกี่ยวกับอีวีเอฟทีเอที่หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือวีซีซีไอจัดทำว่า “ด้วยความปรารถนาที่จะให้การช่วยเหลือสถานประกอบการลดความยากลำบากในการหาความรู้เกี่ยวกับคำมั่นสำคัญในข้อตกลงอีวีเอฟทีเอ วีซีซีไอได้เรียบเรียงหนังสือคู่มือเกี่ยวกับอีวีเอฟทีเอ หนังสือเล่มนี้ถูกเรียบเรียงโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งและมีประสบการณ์เป็นอย่างมากในการให้คำปรึกษาแก่สถานประกอบการเอฟทีเอในหลายปีที่ผ่านมา

สัญญาณที่น่ายินดีในเดือนแรกของการปฏิบัติอีวีเอฟทีเอคือ การส่งออกของเวียดนามไปยังอียูได้บรรลุเกือบ 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว และเมื่อวันที่ 22 กันยายน ข้าวหอมของเวียดนามงวดแรกรวม 126 ตันก็ถูกส่งออกไปยังอียูด้วยภาษี 0% นี่คือผลสำเร็จที่น่ายินดี โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยังคงมีขึ้นอย่างรุนแรงและอีวีเอฟทีเอยังคงเป็นข้อตกลงใหม่สำหรับสถานประกอบการส่วนใหญ่ จากการมีศักยภาพสูง อีวีเอฟทีเอกำลังเปิดประตูกว้างต้อนรับสถานประกอบการเวียดนาม ถึงแม้เส้นทางเจาะตลาดอียูไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่น ความรู้ทางการตลาดและการสนับสนุนจากทางการปกครองทุกระดับ สำนักงานที่เกี่ยวข้องและสถานประกอบการเวียดนามจะมีความมั่นใจในการเจาะตลาดอียูและมีส่วนแบ่งที่มั่นคงในตลาดที่กว้างใหญ่นี้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด