การสัมมนาภายใต้หัวข้อ “เศรษฐกิจเวียดนามในระยะกลาง ตั้งแต่ปี 2021-2025: ฟื้นฟูและก้าวรุดหน้า” (Photo: baotainguyenmoitruong.vn)

ในการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “เศรษฐกิจเวียดนามในระยะกลาง ตั้งแต่ปี 2021-2025: ฟื้นฟูและก้าวรุดหน้า” ที่มีขึ้นเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ศูนย์ข้อมูลและพยากรณ์เศรษฐกิจสังคมแห่งชาติสังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้พยากรณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในระยะปี 2021-2025 ซึ่งจะเป็นไปได้สองทาง โดยทางแรกคือ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ 6.3 ต่อปี ถ้าหากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่ยังคงมีขึ้นอย่างซับซ้อนในทั่วโลก การปฏิบัติมาตรการช่วยเหลือต่างๆของรัฐบาลมีประสิทธิผลในระดับปานกลาง ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจและการค้าขยายตัวในระดับต่ำ ส่วนทางที่สองคืออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในระยะเดียวกันนี้จะบรรลุเกือบร้อยละ 6.8 ต่อปี ถึงแม้ตัวเลขจะลดลงนิดหน่อยหลังปี 2021 แต่จะมีการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพในปีต่อๆไป นาย ฟานดึ๊กเฮี๊ยว รองอธิบดีกรมวิจัยการบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางแสดงความคิดเห็นว่า ในเวลาข้างหน้า เป้าหมายคือมุ่งเน้นแก้ไขผลกระทบของวิกฤตโควิด -19 ธำรงอัตราการขยายตัวและผลักดันกระบวนการปฏิรูประเบียบกลไกและปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ            “พวกเราตระหนักได้ดีว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน การปฏิรูปโครงสร้างของสถานประกอบการ จำเป็นต้องเร่งใช้โอกาสอย่างรวดเร็วเพื่อให้สถานประกอบการมีความคล่องตัวและสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น นอกจากนโยบายการเงิน จำเป็นต้องมีการปฏิรูประเบียบกลไกเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิรูปและความคล่องตัวของสถานประกอบการ”

ประชาคมระหว่างประเทศได้ชื่นชมมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือสถานประกอบการ ประชาชนและระบบเศรษฐกิจของรัฐบาลเวียดนามเพื่อผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากซึ่งช่วยให้จีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 2.91 ในปี 2020 นี่คือพื้นฐานสำคัญเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2021 ในสถานการณ์ปัจจุบัน เวียดนามให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและยั่งยืน จากการเป็นเศรษฐกิจที่มีสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและธุรกิจครัวเรือนถึงร้อยละ 97 และเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เศรษฐกิจเวียดนามยังคงต้องได้รับการสนับสนุนต่อไป ด้วยการใช้มาตรการให้สิทธิพิเศษด้านภาษีและสินเชื่อแทนวงเงินกระตุ้นโดยตรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในปี 2020 สภาแห่งชาติได้อนุมัติกฎหมายฉบับต่างๆ เช่น กฎหมายสถานประกอบการ กฎหมายการลงทุน กฎหมายการลงทุนตามรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน เป็นต้น ซึ่งกฎหมายเหล่านี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในปี 2020 รัฐบาลได้จัดทำเอกสารต่างๆเพื่อผลักดันการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นเอกสารทางนิตินัยสำคัญที่มีผลต่อชมรมสถานประกอบการและได้รับความคาดหวังว่า จะสร้างกรอบทางนิตินัยอย่างสมบูรณ์เพื่อสนับสนุนบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจของเวียดนามในปี 2021 นาย เหงียนดิ่งกุง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจแสดงความคิดเห็นว่า“การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ได้ย้ำถึงก้าวกระโดดในการปฏิรูประเบียบราชการ ซึ่งเน้นปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์และพัฒนาตลาดที่ใช้ปัจจัยการผลิตเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตลาดกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพื่อให้ตลาดเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการระดม จัดสรรและใช้แหล่งพลังที่มี ถ้าหากเราทำได้ดี ผมเชื่อว่า ประสิทธิภาพในการใช้แหล่งพลังต่างๆจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้เศรษฐกิจอาจบรรลุร้อยละ 8-9 ต่อปี”

เวียดนามกำลังอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด ดังนั้น เพื่อสามารถธำรงผลงานนี้ได้ จำเป็นต้องแก้ไขอุปสรรคต่างๆของเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงใหม่แนวความคิดและกลไกระเบียบนโยบายตามแนวทางสร้างสรรค์บรรยากาศที่เอื้ออำนวย ส่งเสริมและระดมการเข้าร่วมของเศรษฐกิจภาคเอกชน ส่งเสริมและระดมพลังที่จำเป็นเพื่อลงทุนให้แก่วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งทดลองการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เป็นก้าวกระโดดในด้านกลไกและนโยบาย นาย ลี้ด่ายหุ่ง จากสถาบันเศรษฐศาสตร์เวียดนามเสนอว่า “ปี 2021 เป็นปีที่เวียดนามเริ่มปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจในระยะ 5 ปีและ 10 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญต่อเศรษฐกิจเวียดนาม จากการจำลองตัวอย่างในการวิเคราะห์และพยากรณ์ ทางสถาบันได้เสนอ 3 แนวทางและย้ำเป็นพิเศษถึงแนวทางขั้นพื้นฐานที่เวียดนามอาจมีการขยายตัวถึงร้อยละ 5.49 ในปี 2021”

ควบคู่กับการใช้วงเงินกระตุ้นเพื่อฟื้นฟูและผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ รัฐบาลเวียดนามยังพยายามผลักดันการประยุกต์ใช้รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการและประชาชน นอกจากนี้ การพัฒนาอี – คอมเมิร์ซและการเพิ่มการประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลในการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการ โดยเฉพาะการอาศัยแอพลิเคชั่นใหม่ๆ จะช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้และปีต่อๆไป.