(VOVworld) – โครงการโรงกลั่นปิโตรเคมีงีเซินในเขตเศรษฐกิจงีเซิน-แทงฮว้าเพิ่งได้รับการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม รวมยอดเงินลงทุนกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามซึ่งการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโครงการสำคัญนี้ และจำนวนเงินลงทุน FDI ที่ไหลเข้าประเทศใน 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 1 หมื่น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้นั้นแสดงให้เห็นว่า เวียดนามยังคงเป็นจุดนัดพบที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

จังหวัดแทงฮว้าได้เตรีมพร้อมพื้นที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงกลั่นปีโตรเคมีงีเซิน

โครงการโรงกลั่นปิโตรเคมี งีเซิน เป็นโครงการร่วมทุนแห่งแรกในด้านนี้ของเวียดนาม (ซึ่งในนั้น บริษัท Petro Vietnam ถือหุ้นร้อยละ 25 บริษัทปิโตเลียมระหว่างประเทศคูเวตร้อยละ 35 บริษัท Idemitsu ของญี่ปุ่นร้อยละ 35 และบริษัทเคมีภัณฑ์ Mitsui ของญี่ปุ่นถือหุ้นร้อยละ 4.7) ที่มีขอบเขตใหญ่ ด้วยกำลังการผลิตน้ำมันประมาณ 2 แสนบาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 10 ล้านตันต่อปีซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงานแห่งชาติ ดังนั้น เมื่อเปิดใช้งานในเชิงพาณิชย์ในปี 2017 โรงกลั่นปิโตรเคมี งีเซินและโรงกลั่นน้ำมันยุงก๊วตจะสามารถตอบสนองความต้องการภายในประเทศได้ร้อยละ 70และจัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีให้แก่ตลาดภายในประเทศและการส่งออก นาย Korumuri Shimmura ผู้อำนวยการบริษัทกลั่นปิโตรเคมี งีเซิน ได้เผยว่า“นี่เป็นโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ความสำเร็จของโครงการเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดเงินลงทุนเข้าเวียดนามมากขึ้น โครงการนี้มีส่วนร่วมรักษาความมั่นคงด้านพลังงานและปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปน้ำมันและก๊าซซึ่งประกอบไปด้วย การกลั่นน้ำมัน ปีโตรเคมีและการพัฒนาหน่วยงานอุตสาหกรรมประกอบต่างๆซึ่งผ่านโครงการนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นและคูเวตจะมีโอกาสขยายการลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม”
นาย เหงียนดิ่งซึ้ง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดแทงฮว้าได้เผยว่า จะมีเงินลงทุนประมาณ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐไหลเข้าเขตเศรษฐกิจงีเซินในเวลาที่จะถึง แต่แนวทางของจังหวัดแทงฮว้าคือ จะรองรับโครงการเศรษฐกิจที่สามารถส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งของท้องถิ่นเพื่อมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าการส่งออกและสร้างงานทำใหม่ให้แก่แรงงาน นาย เหงียนดิ่งซึ้ง ได้เผยว่า“เป้าหมายของจังหวัดคือ เตรียมพร้อมเพื่อลงนามเอกสารความร่วมมือด้านการลงทุน โดยเฉพาะการมอบใบรับรองการลงทุนให้แก่นักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ สำหรับโครงการหลักต่างๆ เช่น โครงการไฟฟ้าพลังความร้อน งีเซิน2 โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเขตนิคมอุตสาหกรรม ลามเซิน-ซาวหว่าง โดยเฉพาะการมอบใบอนุญาตประกอบการลงทุนให้แก่โครงการท่าเรือของงีเซิน ”

แผนที่โรงกลั่นปีโตรเคมีงีเซิน

นอกจากโครงการโรงกลั่นปิโตรเคมี ที่เขตเศรษฐกิจงีเซินยังมีโครงการสำคัญอีกหลายโครงการซึ่งจะสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของท้องถิ่น ตลอดจนของทั้งเขตและทั้งประเทศ  นาย เจิ่นหว่า หัวหน้าคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจงีเซินได้แสดงความเห็นว่า เขตเศรษฐกิจงีเซินอยู่ในเส้นทางคมนาคมจากเหนือจรดใต้และมีท่าเรือน้ำลึก ดังนั้นมีเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อดึงดูดการลงทุน“เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลและกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้อนุญาตให้ขยายเขตนิคมอุตสาหกรรมโดยมีพื้นที่ 4 หมื่น 5 พันเฮกต้าและจะขยายโครงการไปยังด้านอุตสาหกรรมสะอาด การเกษตร เทคโนโลยีขั้นสูงและการบริการเพื่อสนับสนุนเขตเศรษฐกิจงีเซินจากการขยายผลของโครงการโรงกลั่นปิโตรเคมีงีเซิน ปัจจุบัน เขตเศรษฐกิจงีเซินกำลังเน้นปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน ให้การช่วยเหลือนักลงทุนในการทำระเบียบราชการและพื้นที่ดินโดยเร็วเพื่อให้โครงการต่างๆสามารถได้รับการปฏิบัติทันที”
ส่วนตามความเห็นของนาย เหงียนวันจูง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน ถึงแม้เศรษฐกิจโลกยังคงประสบอุปสรรค แหล่งเงินลงทุน FDI ในโลกยังไม่มีการฟื้นตัวและประเทศต่างๆในภูมิภาคกำลังผลักดันการดึงดูดการลงทุน เวียดนามยังคงเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างประเทศโดยโครงการโรงกลั่นปิโตรเคมีงีเซินซึ่งเป็นโครงการ FDI ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด“ผลในทางบวกของโครงการสำคัญต่างๆ รวมทั้ง โครงการโรงกลั่นปิโตรเคมีงีเซินจะเป็นประโยชย์ต่อทั้งเขตและทั่วประเทศซึ่งในจำนวนโครงการลงทุนของต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นของนักลงทุนญี่ปุ่น สำหรับการกำหดนแนวทางยุทธศาสตร์ แทงฮว้าสามารถดึงดูดนักลงทุนได้ตรงตามแนวทางและนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนเพราะเป็นนักลงทุนที่พวกเราสามารถเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและความสามารถในการบริหาร”
ในไตรมาสแรกปี 2017 ซึ่งเป็นการเปิดดำเนินการระยะแรก โครงการโรงกลั่นปิโตรเคมีงีเซินจะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้ 10 ล้านตันต่อปีและจะเพิ่มกำลังการผลิตในระยะ2 เป็น 20 ล้านตันต่อปี หลังจากได้เปิดดำเนินการอย่างสมบูรณ์ โครงการนี้ไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมรักษาความมั่นคงด้านพลังงานแห่งชาติและสนับสนุนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมเท่านั้น หากยังเป็นการจุดประกายเพื่อสร้างก้าวกระโดดใหม่ให้แก่การดึงดูดการลงทุน พัฒนาเขตเศรษฐกิจงีเซินและเขตที่ใกล้เคียงอีกด้วย./.