บริษัท Cloudify Vietnam เดินหน้าในขบวนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลของสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม

(VOVWORLD) -จากการเป็นหนึ่งในสถานประกอบการเทคโนโลยีชั้นนำที่ให้การสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs ในเวียดนามปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ในหลายปีที่ผ่านมา บริษัทหุ้นส่วนเทคโนโลยี Cloudify Vietnam ได้เพิ่มการลงทุน ผลักดันการวิจัยและจัดทำแพลตฟอร์มการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของชมรมสถานประกอบการและได้รับรางวัลต่าง ๆ อีกด้วย
บริษัท Cloudify Vietnam เดินหน้าในขบวนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลของสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม - ảnh 1นาย หว่างมิงกวน ผู้ก่อตั้ง Cloudify Vietnam (Cloudify)
 
 

ในโครงการ “เครื่องหมายการค้าชั้นนำเวียดนาม 2021” ที่จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว  บริษัท Cloudify Vietnam ได้เป็น 1 ใน 10 สถานประกอบการจากสถานประกอบการทั่วประเทศกว่า 800,000 แห่งที่ได้รับรางวัล Make in Vietnam ในด้านการจัดทำแพลตฟอร์มการบริหารจัดการ  ด้วยผลิตภัณฑ์  “Cloudify ERP – ที่ช่วยให้สถานประกอบการสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม -SMEs ปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสบบูรณ์” นอกจากนี้ บริษัท Cloudify Vietnam ยังได้รับจ้างงานจากรัฐบาลให้ทำการวิจัยและพัฒนาโปรแกรมการบริหารจัดการให้แก่สถานประกอบการ SMEs ในปี 2022

นาย หว่างมิงกวน ผู้ก่อตั้ง Cloudify Vietnam เผยว่า Cloudify ERP คือแพลตฟอร์มการบริหารจัดการแบบครบวงจรสำหรับสถานประกอบการตั้งแต่เรื่องการผลิต การจัดเก็บ การขนส่ง การซื้อและขาย บัญชี แรงงานและการตลาดเป็นต้น โดยทุกอย่างทำผ่านแอพพลิเคชั่นเพียงแอพฯ เดียวเท่านั้น ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลสถานประกอบการสามารถบริหารได้อย่างสะดวกในทุกที่ทุกเวลาผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต นอกจาก Cloudify ERP แล้วทางบริษัทฯ ยังพัฒนาแพลตฟอร์มอื่น ๆเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการ รวมทั้งสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในการหันมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายที่สูง โครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่สมบูรณ์และการขาดแคลนบุคลากรด้านเทคโนโลยี เป็นต้น นาย หว่างมิงกวน ยืนยันว่า

“  เราได้วิจัยและแนะนำรูปแบบ เทคโนโลยีและการลงทุนหลักๆ เพื่อแก้ไขความท้าทายต่างๆ ให้แก่สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเราได้แนะนำ Software as Service ซึ่งช่วยให้สถานประกอบการเวียดนาม โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรากำลังพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์ โดยสถานประกอบการแค่คลิ๊กเข้าไปก็สามารถดาวน์โหลดเทคโนโลยีและข้อมูลที่สำคัญและเปิดโอกาสให้สถานประกอบการสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยในอนาคต เช่น ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI   Blockchain และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งหรือ IoT และเรายังพัฒนาแอพพลิเคชั่นเหล่านี้สำหรับสมาร์ทโฟนเพื่อช่วยให้สถานประกอบการสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก”

ด้วยความพยายามและตั้งใจก้าวรุดหน้าอย่างเข้มแข็ง ถึงขณะนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดทำแพลตฟอร์มให้แก่สถานประกอบการกว่า 2,000 แห่งที่ประกอบธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องจักร อสังหาริมทรัพย์ บริษัทตัดเย็บเสื้อผ้า และเครื่องสำอาง เป็นต้น เพื่อปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งลูกค้าก็เป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่น Hanfimex,  Zin Food,  เกื่องเงิน, Tekland, KCT Vietnam, Hanteco, Tri Wall Viet Nam, Gomi และ  Liphoco เป็นต้น นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหุ้นส่วนชั้นนำต่างๆ เช่น ธนาคาร VietinBank  และแพลตฟอร์มที่เข้มแข็ง เช่น Haravan และ GMO-Z.com RUNSYSTEM เป็นต้น

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้รับรางวัล “The Best Solution 2021” ในรายการ “ฟอรั่มภาพรวมของอี – คอมเมิร์ซเวียดนามปี 2022” ที่จัดขึ้น ณ กรุงฮานอย จากสถานประกอบการด้านเทคโนโลยีนับพันแห่ง รวมทั้งสถานประกอบการที่มีชื่อเสียงต่างๆ ซึ่งเป็นฟอรั่มประจำปีของสมาคมอี – คอมเมิร์ซเวียดนามเพื่อยกย่องสดุดีสถานประกอบการและผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่โดดเด่นภายในประเทศ นาย หว่างมิงกวน กล่าวด้วยความปลึ้มปิติยินดีว่า

“เราตระหนักได้ดีว่า ต้องเป็นผู้เดินหน้า ต้องพยายามเพื่อเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ และสถานประกอบการ Make in Vietnam เพื่อสร้างระบบนิเวศ Make in Vietnam ที่สมบูรณ์เพื่อสนับสนันสถานประกอบการ Make in Vietnam ให้สามารถปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลอย่างเข้มแข็งและรวดเร็วมากขึ้น ไม่สำคัญว่าสถานประกอบการนั้นจะใช้แอพพลิเคชั่นไหนเพื่อปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล แต่เรื่องที่สำคัญคือต้องสนับสนุนให้สถานประกอบการนั้นประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลเพื่อสามารถใช้โอกาสจากการขยายตัวในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มที่เพื่อส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศ”

ต่อจากความคาดหวังดังกล่าว ทางบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะช่วยให้สถานประกอบการอีก 100,000 แห่งปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลภายในปี 2025 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่ก็มีโอกาสสำเร็จได้ เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ คณะผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ต่างพยายามวิจัย แสวงหาและจัดทำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพ นาง Annie หวิ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมของบริษัทเผยว่า

“เราถือความต้องการที่นับวันเพิ่มสูงขึ้นในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลหลังวิกฤตโควิด – 19 เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ โดยบริษัทฯ กำลังจัดทำผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุด โดยมีวัตถุประสงค์ว่า จะนำความรู้ความสามารถของคนเวียดนามมาสนับสนุนคนเวียดนามและช่วยให้สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของเวียดนามสามารถปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้นและมีส่วนร่วมต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม”

ดั่งข้อสังเกตของนาย หว่างมิงกวน ผู้ก่อตั้งบริษัท Cloudify Vietnam เชื่อว่า เป้าหมายนี้ของบริษัทฯ จะประสบความสำเร็จและสามารถส่งเสริมจิตใจแห่งการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลอย่างเข้มแข็งในหน่วยงานและสถานประกอบการต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมต่อการพัฒนาของประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด