บรรดาผู้แทนเข้าร่วมงาน

ในการกล่าวปราศรัยในพิธี นาย ดิงตว่านทั้ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำฝรั่งเศสได้รับทราบการสนับสนุนและความพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนคุณค่าเกี่ยวกับสันติภาพและความสามัคคีของเพื่อนมิตรชาวฝรั่งเศสให้แก่เวียดนาม อีกทั้งยืนยันว่า ประชาชนเวียดนามตระหนักได้ดีว่า “ความสามัคคีระหว่างประเทศโดยเฉพาะ การสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ของประชาชนฝรั่งเศสให้แก่ประชาชนเวียดนามในภารกิจการช่วงชิงเอกราชและสันติภาพเป็นพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อสร้างสรรค์สัมพันธไมตรีและความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดนามในปัจจุบัน” ท่านเอกอัครราชทูตหวังว่า ประชาชนของทั้งสองประเทศจะยังคงสานต่อเกียรติประวัตินี้ต่อไปเพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรีและความสามัคคีระหว่างประชาชาติเวียดนามกับฝรั่งเศส

ก่อนหน้านั้น ในการเสวนาโต๊ะกลมภายใต้หัวข้อ “จุดศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์และความทรงจำเกี่ยวกับยุทธนาการเดียนเบียนฟู” โดยมีผู้แทนกว่า 200 คนเข้าร่วม  ท่านเอกอัครราชทูต ดิงตว่านทั้ง ได้ย้ำว่า

“พวกคุณได้นำเสนอมุมมองที่แตกต่างกัน แม้กระทั่งมุมมองจากฝ่ายตรงข้ามในการเสวนา แต่ต่างเป็นความเห็นที่มีคุณค่า นั่นคือ ความคาดหวังเกี่ยวกับสันติภาพ การรักษาและการเสริมสร้างสันติภาพตลอดไป ประชาชนเวียดนามตระหนักอยู่เสมอว่า ความสามัคคีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ของประชาชนฝรั่งเศสให้แก่ประชาชนเวียดนามในภารกิจการช่วงชิงเอกราชและสันติภาพเป็นพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อสร้างสรรค์สัมพันธไมตรีและความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดนามในปัจจุบัน”

นาย ดิงตว่านทั้ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำฝรั่งเศส

ส่วนศาสตราจารย์ Pierre Journoud อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของมหาวิทยาลัย Paul-Valéry Montpellier 3 ยืนยันว่า

“ชัยชนะเดียนเบียนฟูเป็นผลมาจากยุทธศาสตร์ทางทหารขั้นสูงสุดที่วางแผนโดยกรมการเมืองพรรคและพลเอก หวอเงวียนยาฟ นี่คือการผสานที่เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพระหว่างแนวรบทางการเมือง การทหารและการทูต นอกจากนี้ ชัยชนะนี้ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของประชาชาติ ไม่ใช่แค่ทหารเท่านั้น หากยังรวมถึงประชาชนทุกภาคส่วนในสังคม ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อลำเลียงเสบียงยุทโธปกรณ์ สิ่งของที่จำเป็น ยารักษาโรค และซ่อมแซมถนน”

ความคิดเห็นในการเสวนายังยืนยันว่า ในตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ประชาชาติเวียดนามและฝรั่งเศสได้ร่วมกันพยายามฟันฝ่าความผันผวนทางประวัติศาสตร์เพื่อมีส่วนร่วมนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาให้มั่นคง ยั่งยืนและร่วมกันมุ่งสู่อนาคตที่สดใสมากขึ้น.